web analytics
SIAMNEWSDAY

กระแสปากต่อปากมาแรง ‘Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้ามุ่งหน้าสู่ 100

Marvel Studios’ Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า ภาพยนตร์ลำดับที่ 26 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล เรื่องราวของฮีโร่ระดับตำนานที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในจักรวาล MCU ได้เปิดศักราชใหม่ของภาพยนตร์มาร์เวลเฟส 4 ไปแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็สามารถกวาดรายได้ทะลุ 50 ล้าน อย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย และคาดว่าจะทะยานสู่ 100 ล้านอย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์นี้

หลังจากที่หนังเข้าฉายได้ไม่กี่วัน แฟนมาร์เวล และนักวิจารณ์ทั่วไทยได้พิสูจน์แล้วว่า Marvel Studios’ Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า คือภาพยนตร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ MCU ด้วยกระแสปากต่อปากที่มาแรงจนทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาพิสูนจน์ด้วยตัวเอง ทำให้ Eternals กำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์หนึ่งในไม่กี่เรื่องในปีนี้ที่ทำรายได้ถึง 100 ล้านบาทในไทย

Marvel Studios’ ETERNALS. Photo courtesy of Marvel Studios. ©Marvel Studios 2021. All Rights Reserved.

โดยหลายเสียงให้คะแนนเกือบเต็ม ด้วยความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ กับฉากแอ็กชันฟอร์มยักษ์ ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างวิจิตรตระการตา และการนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่าง จากลายเซ็นของผู้กำกับหญิง รางวัลออสการ์ โคลอี เจา (Chloé Zhao) ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แต่ยังคงความตื่นเต้นที่จัดเต็มตลอดทั้งเรื่องในแบบฉบับมาร์เวล

(L-R): Ikaris (Richard Madden) and Sersi (Gemma Chan) in Marvel Studios’ ETERNALS. Photo: Sophie Mutevelian ©Marvel Studios 2021. All Rights Reserved.

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้คนดูเทคะแนนให้กับหนังเรื่องนี้ คือ ฝีมือการแสดงของนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น แอนเจลินา โจลี (Angelina Jolie), เจมมา ชาน (Gemma Chan), ริชาร์ด แมดเดน (Richard Madden), ซัลมา ฮาเยก (Salma Hayek), คูเมล นันจิอานี (Kumail Nanjiani) แบร์รี คีโอกัน (Barry Keoghan) ก็ได้ใจแฟน ๆ ไปเต็ม ๆ ทำให้หลงรักกลุ่มตัวละครใหม่กลุ่มนี้ จนอยากจะรับชมซ้ำอีกครั้ง

ชีวจิต จัดงานมอบรางวัล “ชีวจิต Awards 2021”

วาสนา พลายเล็ก บรรณาธิการบริหาร นิตยสารชีวจิต

วาสนา พลายเล็ก บรรณาธิการบริหาร นิตยสารชีวจิตนำทีมเตรียมจัดมอบรางวัล “ชีวจิต Awards 2021” เพื่อมอบรางวัลให้กับแบรนด์สุขภาพแห่งปี รวมทั้งสิ้น 50 รางวัล โดยมี 4 ประเภท 1. Guru’s Pick ซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาเป็นผู้ตัดสินรางวัล 2. Reader’s Vote ซึ่งในสาขา Guru’s Pick และ Reader’s Vote         ยั งแบ่งเป็น 2 สาขา คือผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Product) และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก (Organic Product) 3. Innovation Reader’s Vote ซึ่งมอบให้ ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมการผลิตหรือเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้ง 2 สาขานี้เป็นการรวบรวมผลคะแนนโหวตผ่านทาง เว็บไซต์ www.goodlifeupdate.com และแฟนเพจนิตยสารชีวจิต 4. Cheewajit’s Choice มี 3 สาขา ได้แก่ Influencer Organization และFarm ซึ่งทำการคัดเลือกโดยผู้บริหารและทีมกองบรรณาธิการนิตยสาร ชีวจิต ได้แก่ คุณวาสนา พลายเล็ก บรรณาธิการบริหาร นิตยสารชีวจิต , ร้อยเอก นายแพทย์สุรชา ลีลายุทธการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย , คุณผกา  เส็งพานิช กูรูอาหารชีวจิตของเมืองไทย , ดร.ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยปี 2541 กูรูสุขภาพ , คุณป๊อด ธนชัย อุชชิน  ศิลปินวงโมเดิร์นด๊อก โดยงานจัดขึ้นใน วันอังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2564  เวลา 14.30 น. ณ ปาร์คนายเลิศ สามารถติดตามชมบรรยากาศงานการมอบรางวัลได้ทาง Facebook : นิตยสารชีวจิต

ช่อง 7 HD จัดเต็ม การรวมตัวครั้งสำคัญของพระนางสุด HOT ทุกคืน

ช่อง 7HD จัดเต็มละครดัง เรตติ้งดี รวมตัวครั้งสำคัญของพระนางสุด HOT ขวัญใจแฟน ๆ ที่เคยสร้าง
ความประทับใจมาแล้ว  3 เรื่อง 3 รส  โซ่เวรี จากศัตรูสู่หัวใจ และ ล่ารักสุดขอบฟ้า หยิบมารีรันลงจอคืนกำไร
ให้แฟนละครชุดใหญ่เต็มอิ่มแบบจุก ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ เวลา 20.30 น. งานนี้แฟน ๆ เตรียมจิกหมอน อิน ฟิน ได้ที่หน้าจอ

​​​​​​​​​เริ่มกันที่ทุกคืนวันจันทร์  อังคาร  พบการกลับมาอีกครั้งของ พ่อจ๋า แม่จ๋า เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล และ มุกดา นรินทร์รักษ์ ในละคร “โซ่เวรี”  ผลงานจากค่ายนีโน่ บราเดอร์ส กำกับการแสดงโดย ต่อ-ศุภฌา ครุฑนาค 
การพลิกบทบาทแรงสุดในชีวิต! ของมุกดา ในบท ปารมิตา คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ปะทะฝีมือกับพระเอกงานดี เข้ม-หัสวีร์ กับบท ปรินทร์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อความรัก เคมีที่เข้ากันได้ดีของทั้งคู่ และนักแสดงฝีมือดีอีกมากมายทำให้เรตติ้งแรงสนั่นจอ คว้าเรตติ้งตอนจบสูงถึง 8.1 แถมในโซเชียลยังฮอตติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยแลนด์ อันดับ 1  มาแล้ว ล่าสุดละครเรื่องนี้ยังโด่งดังข้ามไปไกลถึงประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการนำไปออกอากาศผ่านทางแพลตฟอร์มยอดนิยม Youku.com (โยวคู่) และเป็นละครที่มียอดรับชมสูงในช่องรายการต่างประเทศบน Youku สูงสุดเป็นอันดับ 1
ไปแล้ว เตรียมจิกหมอนฟินไปกับ พ่อจ๋า แม่จ๋า พร้อมกันตอนแรก วันจันทร์ที่ 27 กันยายนนี้ ​​​​​​​​​​​​

ต่อกันที่ทุกคืนวันพุธ พฤหัสบดี กับละครที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้ว “จากศัตรูสู่หัวใจ”  การพบกัน
ครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล  อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ในบท โสภิตา สาวแกร่ง กับพระเอกหนุ่มหล่อ มิกค์
ทองระย้า
ในบท เจตน์  อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติที่มีเหตุให้ต้องติดคุก เรื่องราวความรักที่มาพร้อมกับความแค้น ที่แฟนละครต้องลุ้นเอาใจช่วย จากผลงานของผู้จัดและผู้กำกับคนเก่ง ธีระศักดิ์ พรหมเงิน จากค่ายมุมใหม่ ที่สามารถทำเรตติ้งตอนจบสูงถึง 6.1  เรื่องนี้ฟินแค่ไหนไม่ต้องสืบ ใครที่คิดถึงและยังประทับใจกับความรักของโสภิตาและเจตน์  ต้องไม่พลาด ประเดิมตอนแรก วันพุธที่ 22 กันยายนนี้​​​​​​​

ปิดท้ายกับคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์  กับละครโรแมนติกแอ็กชั่น “ล่ารักสุดขอบฟ้า” ที่แฟน ๆ ชื่นชอบ การันตีด้วยเรตติ้งตอนจบสูงถึง 13.9  นำแสดงโดยคู่จิ้นพันธุ์ข้าวเหนียว เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ และ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี ผลงานการผลิตจาก ค่ายมุมใหม่ กำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน เรื่องราวสุดเข้มข้น เมื่อ คามิน (เวียร์ ศุกลวัฒน์) ราชองครักษ์แห่งรายาจำต้องทำตามหน้าที่คุ้มครอง มัทนา (มิน พีชญา) ว่าที่พระชายาของเจ้าชาย แต่เพราะความใกล้ชิด ความรักต้องห้ามระหว่างเขาและเธอจึงก่อตัวขึ้น ท่ามกลางสงครามและการแย่งชิงบัลลังก์ ระหว่างความภักดี และความรัก มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องเลือก!  ตามเข้าเมืองรายา แล้วลุ้นหัวใจไปสุดขอบฟ้าด้วยกัน เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 17 กันยายนนี้​​​​​​​​​​

ติดตามชมละครหลังข่าวภาคค่ำ ครบรสได้ทุกคืน เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และ Facebook Live : Ch7HD และย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV

ดร.เชาว์วัจน์ ย้ำ!!พ้นโควิดฯ ธุรกิจสดใส แนะ!!เพิ่มวินัยใช้ชีวิต

                ในสถานการณ์โควิดฯ ที่เกิดขึ้น  ทำให้หลายธุรกิจต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และยังมีบางกิจการตัดสินใจปิดตัวลง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงการดำรงชีวิตของคนในสังคมทั่วโลกที่เปลี่ยนไป   ดร.เชาว์วัจน์ พาณิชย์เสรีวิศิษฐ์  ผู้บริหารและเจ้าของแบรนด์น้ำแร่ทาวรัส  ภายใต้บริษัท ทาวรัส ไทย กรุ๊ป จำกัด  ได้กล่าวถึงการบริหารจัดการธุรกิจพร้อมกรอบแนวคิดความเชื่อในโอกาสดีๆ ทางธุรกิจหลังสถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป  ทั้งนี้ยังกล่าวถึงการใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัยเพื่อลดอัตราความรุนแรงของสถานการณ์ไว้อย่างน่าสนใจ

                “ เหตุการณ์ครั้งนี้หนักจริงๆ ไม่มีใครไม่กระทบทั้งในประเทศของเราและทั่วโลก ไม่รู้ว่าจะผ่านไปเมื่อไหร่ สำหรับผมกระทบแน่นอน แต่พยายามพยุงธุรกิจให้อยู่ได้ในบางส่วน  ธุรกิจบางอย่างยังทำได้ตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศก็พยายามให้คงอยู่ครับ  แต่บางอย่าง อาทิ ธุรกิจบริการด้านกฎหมายที่มีลูกค้าชาวจีนเป็นหลักก็ต้องพักไป คือ เราต้องลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรด้วย เพื่อให้บางธุรกิจเดินต่อไปได้

                อย่างน้ำแร่ทาวรัส ถือเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพก็ยังตอบโจทย์ตลาดลูกค้าไทย เพราะวางในเรื่องคุณภาพสินค้ามาดี เราก็อยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าเป็นหลักครับ  แต่ถ้าถามถึงการขยับขยายอะไรตอนนี้คงทำไม่ได้มากและไม่คุ้มทุนแน่นอน แต่การทรงตัวให้อยู่ได้ของธุรกิจคือสิ่งที่ต้องทำครับ วิธีการก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเลย  สินค้าน้องใหม่ถ้าคาดหวังว่าจะให้คุ้มทุนคืนกำไรตอนนี้ยากมาก  ช่วงนี้มีแผนไว้ดีกว่าแค่นี้พอ   คือจะเกิดอะไรขึ้นต้องอยู่ได้ด้วยความหวัง เหตุผลที่พูดแบบนี้  เพราะมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง อาทิ ตอนนี้มีบางธุรกิจปิดตัว เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นอาจจะเกิดโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่มีทุนพอจะเข้ามาทำก็ถือเป็นโอกาสใหม่ของเขาได้แจ้งเกิด เรียกว่ามีอันหนึ่งหายไปก็มีอันใหม่เข้ามาแทน ผมคิดว่าหลังสถานการณ์นี้พ้นไปก็น่าจะสดใสนะ แต่ต้องรอนิดหนึ่งเท่านั้น ”

                ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพจึงกล่าวถึง การดูแลสุขภาพในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดนี้  โดยให้ยึดถือเรื่องของระเบียบวินัยการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดต่อตนเองและครอบครัวรวมถึงสังคมเป็นหลัก เพื่อลดการเป็นผู้ติดและแพร่เชื้อ แน่นอนว่าทั้งหมดคือการร่วมด้วยช่วยกันกู้วิกฤตในครั้งนี้ของสังคมอีกด้วย

                “  ดูแลตัวเองและคนในครอบครัวให้ดีที่สุด ย้ำว่า! ป้องกันแบบดีที่สุด ถึงใครจะมีวัคซีนฉีดแล้วก็คือความหวังนะ   ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำอะไรเสี่ยงๆ ที่จะไปติดเชื้อเลยดีกว่า วัคซีนเป็นตัวช่วยที่ดีมากอยู่แล้ว   แต่การปฏิบัติตัวแบบเข้มงวดมีวินัยเพื่อไม่ให้ติดเชื้อดีที่สุด ทำอย่างไรมันมีบอกอยู่แล้วทุกคนทราบดี  เป็นเรื่องของจิตสำนึกด้วยครับ กรณีคนที่เขาต้องเสี่ยงเพราะอาชีพหรือหน้าที่ก็ไม่เป็นไร  แต่ตัวเราถ้าเราอยู่แบบมีวินัยได้ในช่วงนี้ต้องไม่ละเลยข้อปฏิบัติต่างๆ  เมื่อทุกๆ ครอบครัวทำได้ มันจะขยายไปเป็นสังคมใหญ่ขึ้น ผมนึกถึงคำกล่าวของขงเบ้งที่ว่า “ถ้าเราเลี้ยงลูกให้ดี สังคมก็จะมีคนดี” เช่นกันกับสถานการณ์นี้ ถ้าเราดูแลตัวเราให้ดีพร้อมคนในครอบครัว ทุกครอบครัวทำแบบนี้เราก็น่าจะมีสังคมที่ปลอดภัยขยายขึ้นไปเรื่อยๆ  และต้องไม่ลืมดูสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ  อาทิ ออกกำลังกาย  เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และ ดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่มีแร่ธาตุสำคัญๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะว่ามันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย   การมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในช่วงนี้อย่างมากครับ  ดูแลตัวเราและครอบครัวให้ทุกคนพ้นจากเหตุการณ์นี้ แล้วมาค่อยมาช่วยกันฟื้นฟูธุรกิจ เป็นกำลังใจให้ทุกคนจริงๆครับ ”

จอส เวอาห์ ซุ่มเงียบบริจาคเงิน 4 แสน ช่วยผู้ป่วยโควิดอย่างต่อเนื่อง

แฟนคลับชื่นชมในความมีน้ำใจช่วยเหลือผู้ยากลำบากในสถานการณ์โควิด19 ที่กำลังแพร่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ สำหรับดาราแถวหน้าแห่งค่าย GMMTV จอส เวอาห์ แสงเงิน ที่ก่อนหน้านี้ ทั้งตัวเองและคุณพ่อสายัณห์ แสงเงิน ต่างควักเงินกว่า 6 แสนบาท ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องตรวจสอบสัญญาณชีพ สนับสนุนโครงการเตียงต่อชีวิต และโครงการสร้างหอผู้ป่วยความดันลบเพื่อผู้ป่วยโควิด ของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
ล่าสุด พบว่า พระเอกหนุ่ม ซึ่งเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลแรก “เหงาเป็น” ก็ยังไม่หยุดทำดีร่วมบริจาคเงินอีก 4 แสนบาท ช่วยโครงการมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นการส่วนตัว โดยทางเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้โพสต์ภาพที่ จอส เวอาห์ ลงพื้นที่ไปมอบเงินบริจาคกับข้อความที่ว่า “พลตรี สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รับมอบเงินบริจาคจำนวน 400,000 บาทจาก คุณนาฬิกอติภัค แสงสนิท สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า” https://www.facebook.com/100007272390936/posts/2868262713426114/?d=n
นับเป็นเรื่องราวดีๆ ของดาราที่มีส่วนร่วมด้วยช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤตที่ทุกคนได้รับผลกระทบโดยทั่วกัน รวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท เรียกว่าดีต่อใจทุกคนที่ทราบเรื่องจริงๆ

#จอสเวอาห์
#จอสครับไม่ใช่จอร์ช
#JossWayar
#บริจาคเงิน
#โควิด19
#ดาราช่วยโควิด
#เหงาเป็น
#GMMTV
#ดีต่อใจ

สธ. รณรงค์ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งเป้า ปี ‘68’ ดันทารกร้อยละ 50 ได้กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนเต็ม

กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สัปดาห์นมแม่โลกในเดือนวันแม่แห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “A Shared Responsibility Project Breastfeeding : ร่วมมือร่วมพลัง ปกป้องสังคมนมแม่” พร้อมตั้งเป้าหมาย ปี 2568 ทารก ร้อยละ 50 จะได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน


ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

​วันนี้ (5 สิงหาคม 2564) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวรณรงค์การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สัปดาห์นมแม่โลกในเดือนวันแม่แห่งชาติ ภายใต้แนวคิด   “A Shared Responsibility Project Breastfeeding : ร่วมมือร่วมพลัง ปกป้องสังคมนมแม่” ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า นานาประเทศได้ร่วมกันกำหนดให้วันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี เป็นสัปดาห์นมแม่โลก หรือ World Breastfeeding Week เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญและมีทัศนคติที่ดีในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งจากผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ของสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ในปี 2562 (MICS 6) พบว่ามีทารกไทยเพียงร้อยละ 34 ได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และมีเพียงร้อยละ 14 ที่ได้กินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต และยังมีทารกเพียงร้อยละ 15 ที่ได้กินนมแม่ต่อเนื่องถึง 2 ปี จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกคนในสังคมต้องร่วมมือกันสนับสนุนและปกป้องให้เด็กไทยทุกคนได้กินนมแม่ตามสิทธิของเด็กเพื่ออนาคตของประเทศไทย

​“กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มีนโยบายส่งเสริม สนับสนุน และปกป้องให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่         อย่างต่อเนื่อง ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ กินนมแม่ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น โดยตั้งเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขไว้ว่าในปี 2568 ทารก ร้อยละ 50 จะได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายของทุกประเทศทั่วโลก” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย

​ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค โควิด-19 ยิ่งทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน เป็นเรื่องจำเป็นยิ่งขึ้นจากความสมบูรณ์ของสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก และสร้างภูมิคุ้มกันโรค และแม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ในทุกสถานการณ์ โดยก่อนการให้นมลูกทุกครั้งควรเช็ดทำความสะอาดบริเวณเต้านม และหัวนมและล้างมือด้วยน้ำและสบู่ อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนให้นม รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ให้นมบุตร แม้แต่ในกรณีที่แม่เป็นผู้เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อหรือได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น ก็ยังคงสามารถให้นมลูกได้ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ว่า หากแม่ที่ติดเชื้อมีอาการไม่มาก สามารถให้นมจากเต้าได้ แต่ต้องมีการป้องกัน     การแพร่กระจายของเชื้ออย่างเคร่งครัดโดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมืออย่างถูกวิธี และห้ามใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า จมูกหรือปากรวมถึงการหอมแก้มลูก

​“ทั้งนี้ ควรให้คุณแม่และครอบครัวมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ หากคุณแม่ไม่สะดวกที่จะให้นมจากเต้า แต่ยังสามารถบีบเก็บน้ำนมได้ ควรให้พ่อหรือผู้ช่วยเป็นผู้ป้อนนมแก่ลูกแทน โดยผู้ช่วยจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี มีทักษะในการให้นมและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้ออย่างเคร่งครัด ในกรณีที่แม่ติดเชื้อมีอาการรุนแรง แนะนำงดให้นมบุตร และอาจบีบน้ำนมทิ้งไปก่อนเพื่อให้แม่คงสภาพที่สามารถให้นมลูกได้เมื่ออาการดีขึ้น นอกจากนี้ แม่หลังคลอดให้นมลูก ควรไปฉีดวัคซิน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดการเจ็บป่วยรุนแรง ซึ่งภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นในแม่ยังสามารถส่งผ่านน้ำนมไปยังลูกได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

“เราไม่ทิ้งกัน”

สจ.เขต3จ.กาญจนบุรี จับมือ ประธานสโมสรกาญจนบุรี เอฟ ซี ร่วมโครงการ”เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ให้กับโรงพยาบาลและสาธารณสุข “นางอรัญญา คณากรณ์” สมาชิกสภาจังหวัดกาญจนบุรี เขต3อ.ท่าม่วงพร้อมด้วยนายภาคภูมิ กาญจนรัตกุล ประธานสโมสรกาญจนบุรีเอฟซี

   จัดทำโครงการ”เราไม่ทิ้งกัน”เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา28กรกฏาคม2564ที่ผ่านมา ได้นำอาหารปรุงสุกจำนวน200กล่อง ขนมคุกกี้จำนวน100ชุด หน้ากากอนามัยจำนวน5000ชิ้น ชุดPPEจำนวน100ชุดมอบให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่19(โรงพยาบาลท่าม่วง)โดยมีผู้อำนวยการนายแพทย์สมชาย ไวทิตานันท์ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่19(โรงพยาบาลท่าม่วง)ผู้รับมอบพร้อมได้กล่าวขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรที่เป็นด่านหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนักตั้งแต่เช้ายันค่ำพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานพร้อมทั้งยังฝากถึงพี่น้องประชาชนให้อยู่ในความระมัดระวังหมั่นล้างมือรักษาระยะห่างให้อยู่ในที่โล่งๆตรวจวัดอุณหภูมิสม่ำเสมอด้วยความเป็นห่วงอย่างมากเพราะตอนนี้เชื้อไวรัสโควิด-19ได้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง

   นางอรัญญาพร้อมนายภาคภูมิยังเดินทางไปที่สาธารณสุข ประจำอ.ท่าม่วง โดยมีหัวหน้าสาธรณสุขนายสมชาย ถิ่นวัฒนากูลให้การต้อนรับด้วยการฉีดพ้นยาฆ่าเชื้อยี่ห้อAnti- ViBacโดยประสานกับทางบริษัท ฐานดี เอส เตท จำกัด

คุณธัญญพัฒน์ นิธิโชติธนกิจ ประธานกรรมการ บริษัทฐานดี เอส เตท ได้นำชุดฉีดพ้นลงพื้นที่ฉีดพ้นฆ่าเชื้อให้กับสาธารณสุขอ.ท่าม่วงและยังมอบผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อไวรัสยี่ห้อAnti-ViBacชนิดหัวฉีดและแบบเติมจำนวน460ขวดๆละ249บาทเป็นจำนวนทั้งสิ้น114540บาทให้กับสาธารณสุขเพื่อนำไปแจกจ่ายบุคลากรทางการแพทย์ ร้านท่าม่วงค้าส่งและร้านกาญจนบุรีค้าส่งยังนำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคมามอบให้อีกด้วย

   นางอรัญญา คณากรณ์และนายภาคภูมิได้นำสิ่งของ อุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัย ข้าวสารจากสโมสรกาญจนบรีเอฟซี พร้อมเงิน40000บาทมอบให้กับ4ตำบล ตำบลละ10000บาทเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19และผู้ถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน ครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

“นุช วิลาวัลย์” ควง“ต้าวหยอง ระเบียบวาทะศิลป์ ” บุกเวทีกิ๊ก – ดู๋ สัญญา”

                  สัปดาห์นี้ยกความร้อนเผ็ดแซ่บซี๊ดกันเวทีสั่นสะเทือน เมื่อรายการ “กิ๊กดู๋สงครามเพลงเงินล้าน”  คว้านักร้องสาวสวยเสียงสวรรค์  ตัวแม่หมอลำ  “นุช วิลาวัลย์ อาร์สยาม”  มานั่งแท่นศิลปินต้นฉบับตามหาเงาเสียง  โดยเจ้าตัวคว้าเพลงใหม่ที่มีชื่อเพลงสุดแซ่บ อย่าง “น้องพร้อมเจ็บ ตะแล๊ดแต่ดแต๊ด แต่ดแต๊ด แต่ดแต๊ด…” มาโชว์ลวดลายความเจ็บ จนซี๊ดกันกลางเวที แถมมีเซอร์ไพรส์สุดปัง เป็นแดนเซอร์หน้าหล่ออย่าง “ต้าวหยอง ระเบียบวาทะศิลป์”

มาร่วมโชว์ท่าเต้นออกสเต็ป สุดจี๊ด จนเหล่ากรรมการถึงขั้นกรี๊ด ใส่ลีลาเด็ดขนาดทุกคนต้องลุกขึ้นขยับโยกย้ายตาม   ไม่เว้นแม้แต่สองพิธีกร “ป๋ากิ๊ก” และ “ดู๋-สัญญา” รวมถึง “อาไก่-สมพล” ที่ยังต้องลุกขึ้นมาลองท่าเต้น โดยให้  “ต้าวหยอง” และสาว “นุช  วิลาวัลย์” เป็นคนสอน โยกกันไปมา จนฮากลิ้งไปตาม ๆ กัน ก่อนจะเปิดตัว 4 สาวผู้เข้าแข่งขันเงาเสียง  “นุช    วิลาวัลย์ อาร์สยาม” พกลีลามาพร้อมเสียงที่คล้ายศิลปินต้นฉบับ งานนี้ใครจะได้เป็นสุดยอดแชมป์เงาเสียง ต้องไปรอลุ้นพร้อมกันใน รายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” วันศุกร์ที่  9 กรกฎาคมนี้ เวลา 20.45น. ทางช่อง PPTV HD กด 36  หรือชมไลฟ์สดทางเพจ Kikduu 

                    โดย “นุช วิลาวัลย์ อาร์สยาม”  และ “ต้าวหยอง” เปิดเผยว่า “วันนี้ได้มาเยือนรายการกิ๊กดู๋สงครามเพลง  เป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ครั้งนี้พิเศษสุด ๆ เพราะมีน้องต้าวหยอง หรือหมูหยอง ระเบียบวาทะศิลป์ มาร่วมรายการด้วย ความสนุกในวันนี้คือขำจนแก้มแตก (ยิ้ม) วันนี้เราสองคนดีใจมากที่มาทำให้ทุกคนเต้นกัน ไม่ว่าจะเป็น ป๋ากิ๊ก พี่ดู๋ และอาไก่ด้วย  ซึ่งน้องต้าวหยองได้มาสอนพี่ ๆ เขาเต้น เพราะรู้มาว่าพี่ดู๋ไม่เคยเต้นกับใครมาก่อนเลย น้องก็จะมีเกร็งและก็ตื่นเต้น แต่ก็ฮาสุด ๆ เหมือนกันค่ะ สำหรับการแข่งขันประชันเงาเสียง บอกได้เลยว่าเชือดเฉือนกันมาก มีทั้งเพื่อนมีทั้งศิลปินที่เรารู้จักมาด้วย แล้วก็มีแฟนคลับ ที่นำเพลงเราไปร้องมากมายเลย ทำให้วันนี้รู้สึกว่าตื่นเต้น  อยากให้ทุกคน  รอติดตามชมกันนะคะว่าคนที่เป็นแชมป์จะมีความเหมือน  “นุช วิลาวัลย์” มากแค่ไหน ยังไงอย่าลืมเป็นกำลังใจ แล้วก็ติดตามพวกเราสองคนด้วยนะคะ”

เอ๊ะ จิรากร เปิดค่ายเพลง หวังปลุกกระแสดนตรีร็อกกระหึ่มอีกครั้ง

หลังจากคร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงมาเกือบ 10 ปีสำหรับ เอ๊ะ “จิรากร สมพิทักษ์” นักร้องเสียงทรงพลังของวงการเพลงไทย ที่สามารถใช้เสียงทั้งอ่อนหวานไพเราะ รวมถึงเสียงแข็งกร้าวดุดันได้ในคนเดียวกัน ซึ่งหาไม่ได้ง่ายนักในแวดวงนักร้อง เป็นคนในวงการเพลงตัวจริงที่เป็นที่ยอมรับนับถือของนักดนตรีด้วยกัน และเป็นขวัญใจคนไทยด้วยการพิสูจน์ตัวเองจากผลงานที่ผ่านมา จนกระทั่งเป็นที่รู้จักในนามของ”หน้ากากอีกาดำ” จากรายการ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง”และเมื่อเอ๊ะ จิรากร มีโอกาสร่วมโปรเจ็กต์กับเพื่อนๆ ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกันในวัยเด็ก ซึ่งเล่นดนตรีร็อกเป็นหลัก อีกทั้งเพลงร็อกเป็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของเอ๊ะ เรียกว่าอยู่ในสายเลือดเลยทีเดียว เอ๊ะจึงชักชวนกันทำค่ายเพลงร็อก โดยมีจุดมุ่งหมายให้เยาวชนหันมาสนใจใช้เวลาว่างมาเล่นดนตรีมากขึ้น หลังจากที่วงดนตรีเล่นสดและกระแสเพลงร็อกซบเซาลงไป

วง So-Tiss

ล่าสุด เอ๊ะ จิรากร และเพื่อนๆ อีก 3 คน ได้เปิดตัวค่ายเพลง “Rocktown Assemble” อย่างเป็นทางการเมื่อ 7 มิ.ย. 2564 โดยปล่อยศิลปินเบอร์แรกของค่าย วง So-Tiss กับซิงเกิลเพลง “ทนไม่ไหว” เพลงอกหักสไตล์โมเดิร์นร็อกอีเล็กทรอนิกส์ ผสมกับซาวนด์ที่ทันสมัยที่เนื้อหาโดนใจวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน โดยคอนเซปต์หลักของค่าย Rocktown Assemble คือดนตรีร็อกที่มีหลากหลายสไตล์ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงที่หนักหน่วง เสียงดัง หนวกหู ดุร้าย หรือหยาบคายเสมอไป นำเสนอมุมมองใหม่ๆ อีกด้านหนึ่งของคำว่า “เพลงร็อก” ให้กับคนฟัง เพื่อให้เข้าใจในทิศทางสร้างสรรค์ผลงานที่น่าฟัง ทำนองที่ไพเราะ และเนื้อหาของเพลงที่มีความหมายเข้าถึงผู้ฟังได้มากขึ้นรวมถึง Rocktown Assemble ยังมองเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการเล่นดนตรี จึงมีแนวคิดในการส่งเสริม ให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา และผลักดันให้คนทั่วไปรวมทั้งเยาวชนหันกลับมาฝึกซ้อมเล่นดนตรี ให้ดนตรีสร้างความสุข สร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้กับวงการเพลง Rocktown Assemble จึงเป็นค่ายเพลงยุคใหม่ ที่ผลิตทั้งงานเพลงและคอนเทนต์ดีๆ ส่งเสริมให้ผู้ที่สนใจในการเล่นดนตรีทุกชนิดภายใต้คำว่า ”ร็อก” ดนตรีที่ไม่มีวันตาย

Scroll To Top