web analytics
SIAMNEWSDAY

3สาว “ก้อย นัตตี้ ดรีม”ทำดี ส่งความสุข

ด้วยวิถีชีวิต และเทรนด์การดูแลตัวเองของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาว นั่นก็คือปัญหารอยสิว ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส และปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยเฉพาะคนที่ยุ่ง ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือมีเวลาให้กับตัวเองน้อย ล่าสุดแบรนด์ Dr.Awie (ดอกเตอร์เอวี่) แบรนด์ของคุณหมอคนเก่งอย่างแพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Vita S (ไวต้า เอส) ที่ได้ 3 สาวอย่าง “ก้อย นัตตี้ ดรีม” ยกแก๊งกันมาทำกิจกรรม สร้างความดี ส่งความสุขให้กับโครงการตัวเล็กใจใหญ่ในช่วงล็อกดาวน์นี้

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง กล่าวว่า “กิจกรรมนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ ‘ไวต้า เอส’ สินค้าใหม่ของ  แบรนด์ดอกเตอร์เอวี่ ที่จะช่วยให้คุณมีผิวที่ดีที่สุดในเวอร์ชั่นของตัวคุณเอง ในคอนเซ็ปต์ Be your best ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียนดูสุขภาพดี และป้องกันการเกิดปัญหาผิวซ้ำ ไม่ว่าจะมีผิวสีไหน ก็สามารถมีผิวที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเองได้ ทานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ด้วยสารสกัดจาก Pycnogenol (สารสกัดเปลือกสนฝรั่งเศส) ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และ Apple Phenol (สารสกัดจากแอปเปิ้ลเขียว)

นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยป้องกัน UV ทำหน้าที่เป็นวิตามินกันแดดสาเหตุของปัญหาบนผิวหน้าและผิวกายไปด้วยในตัว พร้อมทั้งสารสกัดอีกกว่า 9 ชนิด ที่จะแก้ปัญหาผิวให้จบครบในกล่องเดียว และเนื่องจากเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรก เราจึงตั้งใจส่งความสุข ความสนุกสนานเพลิดเพลิน เพื่อแก้เหงา แก้เครียดให้กับทุกคนที่ต้องอยู่แต่บ้าน โดยมาฟัง 3 สาวร้องเพลง และทำกิจกรรม พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากดอกเตอร์เอวี่ ด้วยการแชร์สิ่งดี ๆ และความสุขให้แก่กัน เพื่อคลายความเครียดในช่วงนี้ และด้วยสถานการณ์โควิด เราก็มีกิจกรรมดี ๆ มาทำบุญร่วมกัน โดยรายได้จากไวต้า เอส ทุกกล่อง ในราคาโปรโมชั่นจากกล่องละ 1,150 เหลือกล่องละ 690 บาท ทางดอกเตอร์เอวี่จะบริจาคให้กับโครงการตัวเล็กใจใหญ่ โครงการที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ด้วยการบริจาคกล่องละ 50 บาทจากยอดขาย ซึ่งทางแบรนด์ได้มีการบริจาคให้กับโครงการไปก่อนแล้ว  100,000 บาทค่ะ ถือเป็นโอกาสอันดีในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดทุกคนในช่วงนี้ค่ะ”

สาว ๆ หนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากมีผิวสวยดูดี แถมได้บุญจากการสมทบทุนในโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ Line : @dr.awie , Facebook : dr.awie ,  Instagram : @dr.awie_official หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 094-371-4224 และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สยามเซ็นเตอร์ เปิดพื้นที่ช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตโควิด

Siam Smile Market” ชิมของอร่อยจากร้านดังในโซเชียล พร้อมเติมพลังบวกกับตู้ถ่ายรูปสุดฮิตจาก Sculpturebangkok ณ ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ ระหว่างนี้ถึง 24 ก.ย. 2564

            สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ร่วมยืนหยัดเคียงข้างคนไทยในยามยาก  เปิดพื้นที่เอเทรี่ยม 1-2 ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด 19  ให้มาจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มยอดนิยมจากโลกโซเชียล โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เติมพลังแห่งความสุขให้ทุกคนมีรอยยิ้มกับ Siam Smile Market”             มาร์เก็ตช้อปกระจายความสุข  สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน พร้อมสนุกสนานไปกับการมิกซ์แอนดท์แมทช์เสื้อผ้าแอคเซสเซอรี่จาก Absolute Siam Store Pop Up และสร้างรอยยิ้มไปกับตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติมาแรงแห่งยุค Photoautomat จาก Sculpturebangkok  บริเวณพื้นที่ไอเดียอะเวนิว (หน้าร้าน Sephora) ระหว่างนี้ถึง  24 ก.ย. 2564    

                Siam Smile Market” คือพื้นที่ที่สยามเซ็นเตอร์ ต้องการสร้างให้เกิดรอยยิ้มกับผู้ประกอบการร้านค้าได้ฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยเปิดพื้นที่ให้มาขายสินค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยร้านยอดนิยมที่มาร่วมใน Siam Smile Market” อาทิ Evie’s Cookies คุ้กกี้โฮมเมดเนื้อนุ่มสไตล์อเมริกัน ชิ้นใหญ่เบิ้มไส้เยิ้มๆ ทั้งรสชาติซิกเนเจอร์อย่าง Oh Chip! บัตเตอร์คุ้กกี้ไส้ดาร์กช็อกโกแลตทะลักๆ ขายดีอันดับหนึ่งตลอดกาล , Deep Dive คุ้กกี้สำหรับสายดาร์กช็อกโดยเฉพาะ เพราะเป็นคุ้กกี้ดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้ดาร์กช็อกแบบเข้มข้นสุดๆ  , Candy Crush Thailand ลูกอม Handmade ที่สามารถออกแบบลวดลายที่ชอบเองได้ บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนผ่านลวดลายบนแคนดี้ จะซื้อทานเองหรือส่งเป็นของขวัญก็มีสไตล์ , JunenyCandy ไดฟุกุ สตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่สุดๆเนื้อหวานฉ่ำ มีให้เลือกสองรสชาติ ชาเขียวและถั่วแดง รวมถึงใครชอบโมจิก็มีโมจิหลากรสแปลกใหม่ให้เลือกลิ้มลองเช่นกัน

Osaka Senbei อร่อยกับขนมเซมเบ้สไตล์โอซาก้า ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากร้านเก่าแก่อันโด่งดังในย่าน  คามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น แผ่นแป้งบางกรอบ รวมตัวกับเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ เพิ่มความอร่อยด้วยซอสสูตรพิเศษหลายหลายรสชาติ , Lumoss.House ขนมคอนเซปต์สไตล์เวทมนตร์ The magic is in you​  ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปยังโลกแห่งเวทมนตร์  มีเมนูขนมหลากหลายมากมาย​ให้ทุกคนได้แวะเวียนมาชิม โดยเฉพาะ Lemon​ Tart​ ,​ Chocolate​ Tart ,​ Egg Tart สูตรพิเศษ​ของร้านที่อยากให้ทุกคนได้มาลองชิม , Begin.brownie ขนมบราวนี่วัตถุดิบคุณภาพเน้นๆ เนื้อบราวนี่แน่นหนึบเต็มคำมาในรูปแบบต่างๆ ช็อคโกแลตนำเข้าจากเบลเยียม หวานกำลังดีไม่เลี่ยน  มีแบบบราวนี่กรอบด้วย แคลน้อยเข้มข้น รวมถึงคุ้กกีช็อคโก อัดแน่นด้วยช็อคโกแลต 4 ชนิด พร้อมผงโกโก้และเนยแท้จากฝรั่งเศส

Midnight Madness ถูกใจคนไม่ดื่มกาแฟ เพราะร้านนี้เสิร์ฟช็อคโกแลตและโกโก้ดริงค์แบบเข้มข้น ให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติช็อคโกแลตเย็นระดับพรีเมี่ยม ใช้ช็อคโกแลตที่นำเข้าจาก 7 ประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ เวเนซูเอล่า ล่าสุดกับประเทศบราซิล ได้รสเข้มข้นกลมกล่อม, Apollo ทำจากแบล็คโกโก้ เบลเยียม ที่เติมความหอมหวานให้ดื่มง่ายขึ้นด้วยน้ำผึ้งออร์แกนิค แต่ถ้าใครอยากได้แบบซอฟต์ลงมาหน่อยก็มีช็อคโกแลตแบบอื่นๆให้ลิ้มลองเช่นกันอย่าง Dark Sky หรืออยากดื่มด่ำกับรสหอมหวานของผลไม้ต้องลอง Before Sunrise ช็อคโกแลตที่นำมาเบลนด์กับ Yuzu Puree ให้รสชาติหอมหวานในแบบฉบับเฉพาะตัว เติมความสดชื่นให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีเบลนด์คราฟท์ช็อคโกแลตไทยจากเชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และนครศรีธรรมราช ที่จะมาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้คุณ  , 420 Degree Bar เครื่องดื่มชาสมุนไพรที่สกัดจากใบกัญชาแท้ 100% ที่จะทำให้ทุกคนหลงรัก พร้อมคุณประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยลดความเครียด ทำให้อยากอาหาร นอนหลับสบาย , FLOW CAFE เครื่องดื่มเย็นแบบแคลน้อย ที่ให้คุณอร่อยง่ายๆ โดยไม่ต้องเติมน้ำแข็ง มีทั้งนมชีส และนมโยเกิร์ตให้เลือกชิม

                อิ่มอร่อยกับขนมและเครื่องดื่มหอม หวาน มัน แสนอร่อยแล้วอย่าลืมแวะไปที่ Absolute Siam Store Pop – Up บริเวณพื้นที่ไอเดียอะเวนิว ที่คัดสรรสินค้าเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่มีสไตล์มาให้เลือกช้อปเพลิน ไม่ว่าจะเป็น Bangkok Tales ที่ขนทั้งเสื้อลายสกรีนข้อความฮอตฮิตมาให้เลือกอย่างจุใจ ทั้งเสื้อยืด เดรสสั้น รวมถึงกระเป๋าโชคดีอันเป็นตำนาน , Buffollow แบรนด์รองเท้าสตรีทสไตล์เท่ๆของคนรักษ์โลก ทำจากผ้าสต็อคเหลือใช้จากโรงงาน เป็นการนำผ้าที่ไม่มีประโยชน์แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง, japfac แบรนด์กระเป๋ายูนิเซ็กส์มีแบบมีสไตล์ เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยฟังก์ชั่นและประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์ที่คำนึงถึงการใช้งานจริงมากที่สุด ภายใต้แนวคิด daily and functional bag และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการแวะมาแชะรูปสวยๆที่ตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติ Photoautomat จาก Sculpturebangkok ดีไซน์ทันสมัย ที่ทำให้หวนไปนึกถึงการถ่ายรูปในตู้สติ๊กเกอร์สมัยก่อน ไม่ว่าเพศไหนวัยใดก็สามารถเข้ามาถ่ายได้ จะแอคท่าประชัน ไอเดียครีเอทการถ่ายภาพให้ดูสร้างสรรค์ยังไงก็ได้แบบไม่ต้องเขิน มาแชะรูปสวยๆได้ถึง 31 ต.ค. 2564  พิเศษสมาชิก VIZ Card ที่มาถ่ายรูปจ่ายเพียง 100 บาท จากราคาปกติ  160.50 บาท รับสิทธิ์ได้ถึง 30 ก.ย.นี้

พบกับ Siam Smile Market”  มาร์เก็ตช้อปกระจายความสุข  สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน พื้นที่ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด -19   ให้กลับมามีรอยยิ้ม เติมพลังแห่งความสุขกันได้อีกครั้ง ระหว่างนี้ถึงวันที่ 24 ก.ย. 2564 ณ เอเทรี่ยม 1-2 ,พื้นที่ไอเดียอะเวนิว ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ โดยการจัดงานเป็นไปตามมาตรการด้านดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

“แอน จักรพงษ์” นำบริษัท JKN Best Life ปิดดีลเข้าถือหุ้น High-Shopping

บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด (JKN Best Life) ผู้ให้บริการสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพความงามและสินค้าอุปโภคบริโภค โดยที่ JKN Best Life นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ประกาศข่าวดีคว้าบิ๊กดีลเข้าเป็นผู้ถือหุ้น 51% ในบริษัท ไฮช้อปปิ้ง จำกัด ด้วยเงินลงทุน 24,900,100 บาท พร้อมเงินให้กู้ยืม 10 ล้านบาท และ วงเงินกู้อีก 15 ล้านบาทเพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 581.73 ล้านบาท เพื่อขยายศักยภาพการค้าในรูปแบบ D2C หรือ Direct-to-Customer หวังนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มไฮเอ็นของ JKN Best Life ครองใจกลุ่มเป้าหมายและผู้ชมรายการหวังสร้างยอดขายเพิ่มได้อีก 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 64

คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เผยว่า แนวโน้มและภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจการขายสินค้าตรงสู่กลุ่มผู้บริโภค ณ ปัจจุบันมีมูลค่าสูงมากเห็นชัดได้จากการ WFH หรือการอยู่บ้านซึ่งเป็นผลพวงที่กระทบมาจากภาวะโควิด-19 ที่กลับส่งผลดีให้มีการซื้อขายมากขึ้น ในขณะเดียวกันแม้ประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะความผันผวนแต่ JKN Best Life ก็ปรับกลยุทธ์การตลาดอยู่เสมอให้มีความยืดหยุ่นทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นและเราก็เข้าถึงผู้บริโภคเพื่อผลักดันยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน

ล่าสุดบริษัทในเครือของเราอย่าง  JKN Best Life ก็ได้ต่อยอดเสริมแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้นั่นคือการนำพาองค์กรขับเคลื่อนไปสู่การเป็น “Content Commerce Company” เข้าซื้อหุ้นที่ 51% ของกลุ่มบริษัท ไฮช้อปปิ้ง จำกัด ผู้ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทีวีโฮมช้อปปิ้งที่มีการเผยแพร่และออกอากาศอย่างหลากหลายช่องทางและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในรายการที่มีชื่อว่า “High Shopping” ทาง PSI ช่อง 46/ GMMZ ช่อง 43/ INFOSAT ช่อง 46 / DTV ช่อง 37 / เจริญเคเบิ้ล ช่อง 9 TOT IPTV ช่อง 38 / AIS Play ช่อง 800 / 3BB TV ช่อง 88 และ LOOX TV Application

ปัจจุบัน High Shopping นั้นมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าตรงและเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในราคาที่คุ้มค่าแต่ได้รับสินค้าพรีเมี่ยม ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย มีรายการสินค้าซึ่งทำการซื้อขาย ณ ปัจจุบันที่ 2,500 รายการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสินค้าด้านแฟชั่นความงาม สินค้าในครัวเรือน เครื่องออกกำลังกาย สินค้าตามสมัยนิยม และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นทั้งสินค้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทย และหมายรวมถึงสินค้านำเข้าด้วยเช่นกัน

High Shopping นั้นมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 1,000,000 ราย มีคำสั่งซื้ออยู่ประมาณ 20,000 – 40,000 รายการต่อเดือน มีการจ่ายค่าสินค้าและบริการเฉลี่ยที่คนละ 1,000 บาทต่อหนึ่งรายการ หรือมียอดเงินสะพัดที่มากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้การเข้ามาถือหุ้นที่ High Shopping นี้ นอกจากมีฐานลูกค้าที่ชัดเจนและแนวโน้มการค้าที่ประมาณการได้คมชัดแล้ว JKN Best Life ยังได้ทั้ง Business Knowhow ระบบการบริหารจัดการธุรกิจขายสินค้าตรงสู่กลุ่มเป้าหมายรวมถึงมีเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ เรียกได้ว่าเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพพร้อมในการดำเนินงานต่อได้ทันที คาดว่าจะสามารถสร้างรายรับเพิ่มอีก 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 64 และตั้งเป้าโกยอีก 500 ล้านบาทในปี 65

สรุปภาพรวม ภายใต้ธุรกิจของ JKN หรือ จักรพงษ์ เน็ตเวิร์ค ของมาดามแอนนั้น ในปี 64 นี้ก็เดินหน้าลุยสร้างบิ๊กดีลต่างๆ เพื่อเสริมให้เน็ตเวิร์คแห่งนี้แข็งแกร่งและก้าวไกลไปสู่ความยั่งยืน โดยมีความสอดคล้องกับการตลาดยุค4.0 ที่ว่าด้วยการเชื่อมต่อหรือรวมทุกรูปแบบเข้าด้วยกันแบบบูรณาการจนกลายเป็น O2O (online to offline) แบบ Multi-Channel และเพิ่มเป็น Multi-Level ในรูปแบบการตลาด เพื่อสอดรับเทรนด์ New Normal ซึ่งถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางสังคมที่ก้าวเข้าสู่ Digital Economy หรือ เศรษฐกิจดิจิทัล ตามแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งมั่นตั้งใจและไม่หยุดนิ่งของ JKN คุณจักรพงษ์ปิดท้าย

“แพนเค้ก” ร่วมสัมผัส “Madison Bag”  

กระเป๋าหนังเอ็กโซติกรุ่นพิเศษ จาก S’uvimol

S’uvimol (สุวิมล) แบรนด์กระเป๋าหนังเอ็กโซติก ชวนนางเอกสาว “แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์”  มาช้อปปิ้งและร่วมสัมผัสกระเป๋ารุ่นพิเศษ “Madison Bag (เมดิสัน แบ็ก)” แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยมีวางจำหน่ายเฉพาะ S’uvimol Flagship Store ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เท่านั้น  งานนี้สาวแพนเค้กสนุกกับการเลือกกระเป๋ารุ่นที่ถูกใจ และสีสันที่ชอบเป็นพิเศษ

ชวมณฑ์ ปวโรดม ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์  S’uvimol (สุวิมล)  กล่าวว่า “S’uvimol (สุวิมล) แบรนด์กระเป๋าหนังเอ็กโซติกที่โลดแล่นในตลาดแฟชั่นระดับโลกมากว่า 10 ปี ผลิตแต่กระเป๋าหนังเอ็กโซติกซึ่งเป็นหนังหายากเท่านั้น  สำหรับกระเป๋ารุ่นพิเศษ ‘Madison Bag (เมดิสัน แบ็ก)’ ดีไซน์ตามคอนเซ็ปต์และความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ภายใต้ความทันสมัย สามารถใช้งานได้หลายโอกาส ซึ่งเป็น Timeless Accessories และไม่ตกเทรนด์ ด้วยตัวกระเป๋าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเรขาคณิตอันโดดเด่น ทรงของกระเป๋าเป็นแบบ Slope ที่มีความแคบจากด้านบนลงมาขยายความกว้างที่ฐานด้านล่าง ทำให้กระเป๋าดูเพรียว สำหรับส่วนหูหิ้วของกระเป๋าถูกออกแบบมาให้สูงเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความภูมิฐาน และมาพร้อมกับสายสะพายแบบยาวใช้สำหรับสะพายไหล่ มีให้เลือกด้วยกัน 3 ขนาด ได้แก่ Large , Regular และ Mini  ในส่วนของประเภทของหนังก็มีมาให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ ‘หนังจระเข้’ สุดยอดหนังที่ได้ชื่อว่าเป็น The King of Leather,   ‘หนัง LIZARD (ลิซาร์ด)’ โดดเด่นด้วยเท็กซ์เจอร์ผิวสัมผัส และความยูนิคของลวดลาย  และ ‘หนังงูหลามหรืองูเหลือม (PYTHON)’ ซึ่งหายากและมีขนาดใหญ่ ลวดลายของหนังงูมีรูปทรงคล้ายกับเพชร (Diamond Shape) ให้อารมณ์กราฟฟิกที่ทันสมัย สมกับเป็นแบรนด์ที่ได้ชื่อว่า Queen of Exotic (ควีน ออฟ  เอ็กโซติก) ผลิตแต่กระเป๋าหนังเอ็กโซติกที่หายากเท่านั้นค่ะ”

แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์  กล่าวถึงการเลือกกระเป๋าในสไตล์ของตัวเองว่า “ถ้าจะซื้อกระเป๋าสักใบ แพนจะคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานเป็นหลักค่ะ  ซื้อมาแล้วต้องใช้ได้จริง มีขนาดที่พอดี สามารถใส่ของจำเป็นอย่างมือถือ, กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก, สเปรย์แอลกอฮอล์ ,หน้ากากอนามัย ฯลฯ  ที่สำคัญสามารถแมทช์กับเสื้อผ้าของเราได้ก็โอเคแล้วค่ะ  แพนเป็นคนชอบแต่งตัว ดังนั้น ถ้าเจอกระเป๋าที่ดีไซน์สวย และสีที่โดนใจ ก็จะยิ่งชอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์ของคนไทยมีที่เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แพนจะรู้สึกว่ามันยูนิคมากๆ   อย่างเช่น กระเป๋าหนังเอ็กโซติก เมื่อก่อนคนจะมองว่ากระเป๋าประเภทนี้จะเหมาะกับรุ่นคุณแม่ แต่สำหรับตอนนี้แพนว่าไม่ใช่แล้ว ยิ่งของแบรนด์สุวิมล เค้ามีดีไซน์ที่หลากหลายตามแฟชั่น มีสีสันที่ทันสมัย คนรุ่นแพน หรือเด็กๆ ก็สามารถใช้ได้ไม่มีตกเทรนด์แน่นอนค่ะ”

ร่วมสัมผัส Madison Bag กระเป๋าหนังเอ็กโซติก ได้ที่ S’uvimol Flagship Store ชั้น 1 เซ็นทรัลเอ็มบาสซี  หรือเลือกชมสินค้ารุ่นอื่นๆ ได้ที่สาขา สยาม พารากอน ชั้น M, สาขา เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 1 และช่องทางออนไลน์  www.suvimol.com,  Line Official @suvimolbkk , IG : suvimolbkk

“ตี๋ เอเอฟ” นำทีมจิตอาสาลุยแจกอาหารปรุงสุก

โครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19”ให้ชุมชนในเขตลาดพร้าว

หลังจากฟาดเคราะห์จากอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์คู่ใจให้แฟนคลับใจหายใจคว่ำกันไปเมื่อต้นปี ล่าสุด นักร้องหนุ่ม “ตี๋ เอเอฟ” หรือ วิวิศน์ บวรกีรติขจร ไม่รอช้าเดินหน้าทำความดีร่วมกับบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” นำทีมจิตอาสาและเครือข่ายพันธมิตร อย่างศูนย์ต้านภัยโควิด 19 รฟท. และจิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทย งานพัฒนาชุมชนสำนักงานเขตลาดพร้าว และจิตอาสาโครงการต้องรอด โดยกลุ่ม อัพ ฟอร์ ไทย (Up for Thai) ลงพื้นที่นำอาหารปรุงสุกจาก ซีพีเอฟ หน้ากากอนามัยซีพี ร่วมมอบและให้กำลังใจแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนในเขตลาดพร้าวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19

ตี๋ เผยความรู้สึกที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับทีมจิตอาสาและเครือข่ายพันธมิตรว่า “รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้ลงมือลงแรงร่วมใจกับเครือข่ายพันธมิตรจิตอาสา และบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ซึ่งเป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมกับพันธ์มิตรและจิตอาสาหลากหลายภาคส่วนในการแจกอาหารให้กับชุมชนประมาณ 40 จุดทั่วกรุงเทพ โดยตั้งเป้าไว้ที่ 2 ล้านกล่อง อย่างในวันนี้คือชุมชนในเขตลาดพร้าว จะมีข้าวกล่องจากซีพีเอฟจำนวนประมาณ 500 กล่อง และอีกประมาณ 500 กล่องจะเป็นในส่วนที่โครงการได้ช่วยอุดหนุนร้านค้ารายย่อยที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าช่วยกันเต็มกำลังเลยทีเดียวครับ สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงพี่น้องที่กำลังประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผมขอให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยกัน และอยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและขอส่งต่อกำลังใจและเติมพลังให้กับทุก ๆ ให้มีพลังในการฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ”

ด้านนางสาวเสาวลักษณ์​ วยะนันทน์​ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่มาร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือชุมชนในเขตลาดพร้าวว่า “ในส่วนของสำนักงานเขตลาดพร้าวเราได้มีการร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงานในการตั้งศูนย์พักคอยขึ้นมาเพื่อที่จะระงับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 และเรายังได้รับความอนุเคราะห์จากอีกหลากหลายหน่วยงาน อย่างเช่นในวันนี้ต้องขอขอบคุณบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือเจริญโภคภัณฑ์ และเครือข่ายพันธมิตรจิตอาสาต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนข้าวกล่องอาหารกลางวันจาก ซีพีเอฟ และหน้ากากอนามัยซีพี ดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าอาหารที่ทุกท่านนำมาร่วมมอบให้กับพี่น้องชาวลาดพร้าวในวันนี้สามารถช่วยเป็นกำลังใจและลดความเครียดให้แก่ประชาชนในชุมชนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน”

นายพนธกร​ ​พร้อมจิตร​ ตัวแทนศูนย์​ต้านภัยโควิด​ รฟท. และจิต​อาสา​ 904 การรถไฟ​แห่​ง    ประเทศไทย ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายพันธมิตรที่ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายอาหารปรุงสุกในโครงการ “ในนามของการรถไฟแห่งประเทศไทยและจิตอาสา 904 ผมมีความยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 ซึ่งเป็นโครงการที่มีประโยชน์และได้ให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 พวกเรามีความยินดีและพร้อมที่จะผนึกกำลังร่วมใจกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกคนครับ”

โครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” เป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วนกว่า 100 องค์กรมูลนิธิ กลุ่มจิตอาสา ภาคประชาสังคม และองค์กรเอกชน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในชุมชนต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ดำเนินการมาแล้วเป็นเวลากว่า 1 เดือน โดยตั้งเป้าส่งมอบอาหารปรุงสุกสะอาดจาก ซีพีเอฟ (CPF) และอาหารจากร้านอาหารรายย่อยจากชุมชนต่าง ๆ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2 ล้านกล่องให้แก่ชุมชน ต่าง ๆ ทั่ว  กรุงเทพฯ โดยในปัจจุบันได้ส่งมอบอาหารไปสู่ชุมชน  ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพไปแล้วกว่า 1.2 ล้านกล่อง และได้ช่วยอุดหนุนร้านอาหารในชุมชนให้มีรายได้จากการทำอาหารมาร่วมในโครงการนี้ไปแล้วกว่า 1,000 ราย และยังคงเดินหน้าแจกจ่ายอาหารปรุงสุกให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯกว่า 40 ชุมชนไปจนถึงปลายเดือนกันยายนนี้

ลืมไปเลยว่าอายุ 50  “แอน สิเรียม”เผยเคล็ดลับหน้าเด็ก

ตามมาดูเคล็ดลับดีๆ จาก แอน สิเรียม ดาราสาววัย   50แต่ยังคงความสวยอมตะเป็นสาวสองพันปีกับการดูแลตัวได้ดีซึ่งหลายคนได้เห็นการใช้ชีวิตผ่านไอจีส่วนตัวที่ยังสวยไม่เปลี่ยนทำให้เห็นเลยว่าเรื่องวัยไม่ใช่ปัญหาของเธอเลยจริงๆหรือเรียกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ขนาดลูกสาวอายุ 25 ปีแล้วคุณแม่ยังสวยได้ขนาดนี้ วันนี้ แอนสิเรียมจะมาบอกต่อความสวยที่ทำให้หน้ายังดูเด็กตลอดกาล อยากรู้ไปฟังกันเลย แอน : จริงๆ จะบอกว่าแอนเองก็เจอปัญหาเรื่องผิวเยอะมากนะคะ

ถ้าย้อนไปตั้งแต่ช่วงเข้าวงการ แอนถ่ายละครแทบทุกวัน แต่งหน้า พักผ่อนน้อย  สะสมเป็นเวลานาน และยิ่งสมัยก่อนเทคโนโลยี หรือครีมบำรุงตอนนั้นมีน้อยมาก ทำให้ไม่ค่อยได้บำรุงอะไรเยอะมาก ไปเน้นเรื่องอาหารการกินส่วนนั้นซะเยอะ พออายุมากขึ้น ปัญหามันเลยเห็นชัดมาก ริ้วรอยต่างๆ ผิวที่หย่อยคล้อย ผิวแห้ง เรียกว่ามาครบเลย จนแอนได้มาเจอ ครีมเกล็ดทองคำ Minus 20 ใช้ตัวนี้ตัวเดียว ริ้วรอยต่างๆ ตื้นขึ้น รู้สึกกระชับ ดูใสขึ้น กระปุกเดียวเอาอยู่ นี่แหละค่ะเคล็ดลับของแอน

นศ. (วปอ.) รุ่นที่ 60 บริจาคเครื่องจ่ายออกซิเจนให้ รพ.สมุทรปราการ

คณะนักศึกษา หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 60 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ บริจาคเครื่องจ่ายออกซิเจน High flow จำนวน 3 เครื่อง ให้แก่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

โดยมี นฤมล ล้อมทอง รองประธานนักศึกษา วปอ.60 เป็นผู้แทนมอบเครื่องจ่ายออกซิเจน พร้อมด้วย บรรณสาร จันทร์สมศักดิ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร และผศ.ดร.รัชนี กุลยานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) ร่วมในการส่งมอบนวัตกรรม KMITL High Flow เพื่อเป็นประโยชน์แก่โรงพยาบาลต่อไป

ซึ่งได้รับเกียรติจาก วาสนา ธนเศรษฐ พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้างานห้องผู้ป่วยหนักศัลยกรรม โรงพยาบาลสมุทรปราการ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ โรงพยาบาลสมุทรปราการ

สำหรับเครื่องจ่ายออกซิเจน KMITL High flow ออกแบบและพัฒนาขึ้นโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยี  พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)  ซึ่งได้คิดค้นและพัฒนาต้นแบบ “เครื่องจ่ายออกซิเจน KMITL High Flow” เป็นเครื่องจ่ายออกซิเจนในอัตราการไหลสูงเป็นครั้งแรก ที่มาพร้อมระบบมอนิเตอร์ทางไกลระบบการแสดงผลที่สามารถปรับการตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอพลิเคชั่น เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยผ่านระบบติดตามระยะไกล เพื่อต่อลมหายใจ ช่วยคนไทยพ้นภัยโควิด-19

วช. มอบรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีเด่น “ระบบซอฟต์แวร์โดรนแปรอักษร” สำเร็จ  รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดกิจกรรม NRCT TALK “เปิดบ้านงานวิจัยและนวัตกรรม By NRCT : รางวัลการวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่ 7 โชว์นวัตกรรมการเรียนรู้การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์โดรนแปรอักษร หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีเด่น ประจำปี 2564

วันที่ 13 กันยายน 2564 ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดบ้านงานวิจัยและนวัตกรรม By NRCT รางวัลการวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่ 7 เพื่อเชิดชูนักประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

สร้างคุณูปการให้กับวงวิชาการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นรางวัลที่ส่งเสริมการสร้างแรงจูงใจของนักประดิษฐ์ และนักวิจัยในอันที่จะพัฒนานวัตกรรมทางความคิด และภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์ สร้างความก้าวหน้าในศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดย วช. ได้มอบรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีเด่น ให้กับ“นวัตกรรมการเรียนรู้การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์โดรนแปรอักษร” ของ นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าว นักประดิษฐ์ได้อุทิศตนเพื่อประดิษฐ์คิดค้น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านอากาศยานการบินให้กับเด็กและเยาวชนทั่งประเทศ ให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ และก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาอากาศยานแบบปีกหมุน โครงการการประยุกต์ใช้ UAV ในการทำแผนที่สามมิติ (Using Unmanned) และโครงการการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนา Software อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา วช. ร่วมกับ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ จัดทำโดรนการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์โดรนแปรอักษรในรูปแบบ 3 มิติ ในงานเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่า ปัจจุบันโดรนเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจในการพัฒนาและการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าและสามารถพัฒนาไปประยุกต์ใช้งานในหลากหลายมิติ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับได้รับการสนับสนุนจาก วช. ในการจัดโครงการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาโดรนสู่การใช้ประโยชน์ “เทคนิคการบินโดรนแปรอักษร” ให้กับเยาวชนนักประดิษฐ์ด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับใช้งานโดรนในด้านต่าง ๆ การพัฒนาระบบการบินการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ให้สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและนำไปใช้ต่อยอดในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับโดรนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โดย วช. ได้สนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาเยาวชนรูปแบบนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะขยายผลการพัฒนาไปยังเยาวชนในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะด้านประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรมในด้านการใช้ประโยชน์จากโดรนอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

การคิดค้นและพัฒนาซอฟต์แวร์การสั่งงาน เป็นการเขียนโค้ดหรือโปรแกรมในการควบคุมโดรนในรูปแบบต่าง ๆ และเป็นพื้นฐานในการเขียนโค้ดบังคับโดรน ตลอดจนการนำความรู้ไปต่อยอดในการเรียนหรือใช้ในชีวิตประจำวัน หลักการใช้งานเป็นการควบคุมโดรนให้บินขึ้นพร้อมกันครั้งละหลาย ๆ ลำและจัดเรียงตำแหน่งตามที่จุดกำหนด ด้วยการสั่งการจากคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว จากคุณสมบัติของโดรนสามารถพัฒนาไปใช้งานได้ในหลากหลายมิติ ทั้งในการใช้ส่วนบุคคลและการใช้งานโดยองค์กรในสาขาต่าง ๆ ซึ่งพัฒนาขึ้นตามเทคโนโลยีที่พัฒนาไป ดังนั้นหากเรามีการส่งเสริมสนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโดรนอย่างจริงจังก็จะทำให้สามารถนำไปต่อยอดใช้งานในภารกิจต่าง ๆ ให้เกิดความก้าวหน้าได้ อาทิ ภารกิจดับไฟป่าโดยใช้โดรนเป็นฝูงซึ่งให้ประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ โดรนเพียงลำเดียว ภารกิจด้านการเกษตรโดยใช้โดรนเป็นฝูงบินปฏิบัติภารกิจพ่นสารชีวภาพ เพื่อช่วยเกษตรกรในการลดต้นทุน ประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงจากการใช้แรงงานคน  ภารกิจการใช้โดรนครั้งละหลาย ๆ ลำพร้อมกัน ขนส่งสิ่งของ หรือการก่อสร้าง

คุณสมบัติของนวัตกรรมการเรียนรู้การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เป็นโดรนสัญชาติไทยที่ผลิตโดยคนไทย ทั้ง Hardware และ software  ได้สำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย และเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ที่มีประสิทธิภาพการทำงานทัดเทียมกับของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นผู้นำด้านนี้

ผลงานที่นำมาใช้จัดแสดงเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศให้เป็นที่รู้จัก และสามารถนำไปจัดแสดงโชว์เพื่อหารายได้ในต่างประเทศ และจากความรู้ที่ได้ถ่ายทอดสู่เยาวชนผ่านการอบรมในโครงการของ วช. ทำให้ผู้ที่ได้รับการอบรมสามารถนำไปต่อยอดรับงานโฆษณา ในงานอีเว้นท์ แสดงการบินโชว์ในพิธีเปิดงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

“ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด” ผุด รพ.สนาม 108 เตียง

“ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด” ผู้นำเทคโนโลยีการผลิตอะลูมิเนียม มาตรฐานยุโรป เตรียมพร้อมรับมือ เลี่ยงความเสี่ยงคลัสเตอร์โรงงาน เติมพลัง (กำลังใจ) ให้พร้อมสู่โควิด ฉีดวัคซีนให้พนักงานครบ 2 เข็มและคนใกล้ชิดในครอบครัวพนักงาน รวมถึงผู้ร่วมงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับวัคซีนเช่นกัน 100% เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกัน มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและลดความรุนแรงของการติดเชื้อ พร้อมจัดทำศูนย์พักคอย จำนวน 108 เตียง เพื่อรองรับพนักงานและครอบครัวที่อาจได้รับการติดเชื้อ “พนักงานปลอดภัย โรงงานก็ไปต่อได้”

ดร.พิพัฒน์ โกวิทคณิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด จำกัด บริษัทผู้นำเทคโนโลยีการผลิตอะลูมิเนียม มาตรฐานยุโรป ด้วยการบริหารที่มีธรรมมาธิบาล ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา เปิดเผยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดอยุธยาและกรุงเทพ ที่เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นผลให้พนักงานในครอบครัวซิมเมอร์ทั้งที่จังหวัดอยุธยาและกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ดังนั้นการดูแลอย่างทั่วถึงจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องรีบลงมือ เพื่อให้ครอบครัวซิมเมอร์ของเราปลอดภัยที่สุด เพราะเมื่อ “พนักงานปลอดภัย โรงงานก็ไปต่อได้”

ในภาวการณ์ระบาดอย่างหนักหน่วงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกพื้นที่ต่างเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงของการเป็นคลัสเตอร์โรงงานที่ยากจะปฎิเสธได้     ซิมเมอร์ฯ จึงเตรียมพร้อมรับมือกับภาวการณ์ระบาด ด้วยการเตรียมพร้อมดูแลพนักงานให้ห่างไกลจากความเสี่ยงมากที่สุด เพราะไม่เพียงแค่พนักงานจะปลอดภัย แต่โรงงานก็สามารถไปต่อได้เช่นกัน

สิ่งแรกที่เรากำหนดให้เป็นมาตรการหลักที่พนักงานทุกคนของเรา ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคนก่อนเข้าเริ่มงาน ด้วยระบบวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ, การตรวจเชิงรุก 100% อย่างต่อเนื่อง (ATK), สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, ล้างมือด้วยสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ทั่วทั้งโรงงาน และเว้นระยะห่าง งดการรวมกลุ่มพูดคุยในเวลารับประทานอาหารกลางวัน

ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดรุนแรงและปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มาตรการเพียงทั่วไปจึงไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากพอ การสร้างเกราะป้องกันให้พนักงานจึงต้องมากกว่าที่เป็น การฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด จึงเป็นอีกแนวทางที่เราเร่งดำเนินการ

เมื่อการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดยังไม่เพียงพอ ในสถานการณ์การระบาดที่หนักหน่วงนี้ การได้รับวัคซีนคือทางออกเดียวที่จะลดอัตราการเจ็บป่วยหนักและสูญเสีย ซิมเมอร์ฯ เชื่อว่าหากพนักงานได้รับวัคซีนเร็วที่สุด จะช่วยลดความเสี่ยงได้ อีกนัยหนึ่งสายการผลิตก็ไม่ต้องหยุดชะงัก โรงงานก็ไปต่อได้ ซิมเมอร์ฯ จึงได้จัดสรรให้พนักงานทั้งหมด 682 คน ได้รับการฉีดวัคซีนคิดเป็น 100% ของพนักงานทั้งหมด นอกจากพนักงานแล้ว ยังรวมไปถึงครอบครัว คนใกล้ชิดของพนักงาน ผู้ร่วมงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับวัคซีนมากกว่า 1,500 คน เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกัน มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและลดความรุนแรงของการติดเชื้อ

แม้พนักงานของ ซิมเมอร์ฯ จะได้รับวัคซีนครบแล้ว100% แต่ซิมเมอร์ฯ ยังคงต้องป้องกันระวังความเสี่ยงการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงมีการจัดตรวจเชิงรุกด้วยชุด ATK ในทันที กรณีพนักงานมีความเสี่ยง  ซึ่งอาจมีสาเหตุหลักมาจากครอบครัวหรือคนใกล้ชิด เมื่อตรวจพบจะมีการกำหนดให้หยุดงานกักตัว 14 วัน ในทันทีโดยไม่มีการหักเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยง พร้อมให้การดูแลระหว่างการรอเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป  

          ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า “ทั้งนี้ซิมเมอร์ฯ จะดูแล ห่วงใย ไม่ทอดทิ้ง ในกรณีที่พนักงานติดเชื้อ โดยได้จัดทำถุงยังชีพ อาหารและยารักษาโรค สำหรับการหยุดกักตัว และพักรักษาตัวที่บ้านหรือ รอเข้าสู่กระบวนการรักษา พร้อมทั้งมีการจัดทำศูนย์พักคอยที่วิทยาลัยการอาชีพเสนา จำนวน 108 เตียง เพื่อรองรับพนักงานและครอบครัวที่อาจได้รับการติดเชื้อ”

“สภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ ความใส่ใจ ห่วงใย เสมือนเป็นน้ำใจหนึ่งเดียวที่จะเยียวยาจิตใจและเติมพลังให้ครอบครัวซิมเมอร์ฯก้าวเดินร่วมกันต่อไปได้อย่างแข็งแรง แม้อาจดูหนทางการต่อสู้ครั้งนี้จะอีกยาวไกล แต่ด้วยสิ่งที่ครอบครัวซิมเมอร์ฯ มอบให้กันและกัน ย่อมทำให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกันอย่างไม่ยากเลย”  ดร.พิพัฒน์ กล่าวปิดท้าย

Scroll To Top