แค่เปิดตัวเทรลเลอร์แรก กระแสก็มาวิน แซงทุกโค้ง สำหรับละคร “เรยา” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่ผ่านมา ทำเอาแฟนคลับต่างคอมเมนต์เดือดมากมาย หลากหลายแง่มุม ถึงความปัง เกี่ยวกับละคร “เรยา” ภาคปัจฉิมบท ว่าเป็นผลงานทิ้งทวนที่สมศักดิ์ศรีความเป็นตัวแม่ ของ “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” อย่างแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น สื่อมวลชนหลากหลายแขนงก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และพูดถึงทีเซอร์ของละครเรยาไว้หลากหลายแง่มุมเช่นกัน บ้างก็วิเคราะห์เชิงลึก ถึงจักรวาลของมงกุฎดอกส้ม ดอกส้มสีทอง และ ภาคจบในเรื่อง “เรยา” ว่าตัวละครใหม่ในชุดนี้ จะออกมาในทิศทางใด เรื่องราวเชื่อมโยงกันอย่างไร คาแรคเตอร์ของแต่ละคนต่างหรือเหมาะสมกันมากแค่ไหน จนเกิดแฮชแท็ก #เรยา #พูดกับฟ้ารบกวนพูดภาษาเงิน #ต้องเลวแค่ไหนถึงจะเป็นได้อย่างเธอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

ทุกคนก็ต่างเชื่อมือ และฝากความหวังไว้ที่ผู้จัดและผู้กำกับอย่าง “สถาพร นาควิไลไรจน์” ว่าจะสามารถดึง ความน่าสนใจแง่มุมของตัวละครเรยา และนำเสน่ห์ของ “พลอย-เฌอมาลย์” ออกมาดึงดูดใจแฟนๆ ให้แตกต่างจากคาแรคเตอร์เดิม ๆ ที่สาวพลอยเคยได้รับ พร้อมสวมบทเรยาให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด และด้วยหน้าตาภาพรวมของนักแสดงในเรื่องนี้ก็ดูจะแปลกใหม่ไม่จำเจ เพราะรวมนักแสดงแถวหน้า มากฝีมือของวงการไว้มากมาย  ถือว่าเรื่องนี้คือหมัดเด็ดสำคัญที่ทางช่อง 8 เดินเกมส์รุกเต็มตัวตั้งแต่ต้นปี 64 แต่เรตติ้งจะเป็นไปดังกระแสสุดปังนี้หรือไม่ ต้องตามมาลุ้นกันต่อในคืนวันจันทร์ที่ 8 มีนาคม เวลา 19.00 น. ที่ละครเรยา ออกอากาศเป็นตอนแรก ว่าจะสามารถตีหัวแฟนละครเข้าบ้านได้มากน้อยแค่ไหน

หากย้อนเวลากลับไปคงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง ไว้ใจได้กา ของนักร้องสาว ลานนา คัมมินส์ ที่วันนี้เจ้าตัวจะมาเปิดใจครั้งแรกหลังตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงนานกว่า 10 ปี พร้อมฟาดกลับคนบูลลี่ปล่อยตัวให้อ้วน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีได๋ ไดอาน่า และท็อป ดารณีนุช เป็นพิธีกร อีกทั้งเจ้าตัวยังเผยการรักษาอาการป่วยซึมเศร้านานนับ 10 ปี เคยคิดฆ่าตัวตายมานับครั้งไม่ถ้วน
ตอนนั้น 2547-2550 น้องลานนาดังมากเลย แล้วจู่ๆ ก็หายไป?
ลานนา : เป็นเด็กต่างจังหวัด พอมาอยู่กรุงเทพฯ หลายๆ อย่างมันแตกต่างจากที่เราโตมา ก็อยากกลับบ้าน
น้องลานนาเกิดที่เชียงใหม่?
ลานนา : เกิดที่กรุงเทพฯ แต่ว่าโตที่เชียงใหม่
ตอนนั้นไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้ ทำไมถึงออกจากวงการ?

ลานนา : ถามว่าตั้งใจจะออกจากวงการไหม มันก็ไม่ใช่ แต่มันถึงจุดที่ว่าพองานมันน้อยลง เราก็คิด ตัดสินใจเรากลับไปอยู่บ้านดีกว่า เพราะในใจเราคิดว่าต้องการกลับไปเติมอะไรบางอย่าง
แต่คนเขาไปลือกันว่าน้องลานนาออกจากวงการเพราะว่าอ้วน ตอนที่ทำอัลบั้มน้ำหนักเท่าไหร่?
ลานนา : ตอนนั้นประมาณ 75 น้ำหนักนาน้อยที่สุดตอนอายุ 16 ตอนนั้นประมาณ 62 แต่ว่าออกจากวงการเพราะว่าอ้วนไหม คือจริงๆ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ตื่นมาแล้วจะอ้วน มันก็ไม่ใช่ ด้วยระยะเวลามันก็เพิ่มไปเรื่อยๆ ถามว่าออกจากวงการเพราะอ้วนไหม มันก็ไม่ใช่
เรารู้สึกเปรียบเทียบไหมว่าทำไมเรารูปร่างไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นในวงการ?
ลานนา : มีอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นลูกครึ่ง ก็คิดว่าตัวเองเป็นคนเจ้าเนื้อ ตอนนั้นที่ออกอัลบั้มก็ยังมีไปดูดไขมันเลย เพราะรู้สึกว่าใหญ่ ก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิง

มันเป็นแผลในใจเราไหม เราเทียบกับคนอื่น เรารูปร่างไม่เล็กเหมือนคนอื่นเขา?
ลานนา : มันเป็นปมมาตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว เรียนหนังสือมาจะถูกล้อมาตลอดว่าอ้วน มันก็เลยคิดอยู่เสมอว่าอ้วน

มันรู้สึกขนาดไหน เราร้องไห้เลยไห้เลยไหม?
ลานนา : ช่วงแรกๆ ไม่เข้าใจ ด้วยวัฒนธรรมที่มันแตกต่างกันด้วยก็จะร้องไห้ คุยกับแม่ ก็จะคิดว่าทำไมคนใจร้ายจังเลย แม่ก็จะคอยบอกตลอดมันเป็นเรื่องธรรมดาลูก คนไทยเขาไม่ถือกัน
คำไหนที่เราฟังแล้วรู้สึกว่ามันบูลลี่ แล้วมันบีบใจเรามากที่สุด?

ลานนา : มันหลายอย่าง แล้วก็หลายครั้งที่มันก็เจ็บ แต่ว่าจำไม่ได้ เพราะเลือกที่จะไม่จำมากกว่า
เราคิดว่าเป็นนักร้องทำไมต้องผอม เป็นนักร้องไม่ได้เป็นนางแบบ?
ลานนา : ค่ะ
อะไรที่ทำให้เราคิดว่าเราต้องออกมาพูดแบบนี้?
ลานนา : คือ 1.นาไม่ได้คิดว่าจะเข้าวงการบันเทิง จู่ๆ มาเข้าวงการตอนนั้นเพราะร้องเพลง นาไม่ได้เป็นนางแบบ นาคิดว่านาทีความสุขที่จะร้องเพลง
แล้วเหตุผลจริงๆ ที่เราออกจากวงการคืออะไร?
ลานนา : เพราะตอนนั้นนามาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว แล้วต้องมาทำงานอย่างเดียว แล้วมันค่อยๆ เก็บสะสมความเครียด สะสมหลายๆ อย่าง พอมันเครียดก็เลยกลับบ้านดีกว่า
สิ่งอะไรที่ทำให้เราเครียดมากที่สุดกับการอยู่คนเดียวในกรุงเทพฯ?
ลานนา : เหงาค่ะ ตอนนั้นอยู่เป็นคอนโด คือมันไม่ได้คุยกับใคร
พอเราย้อนไปคิดถึงวันนั้นความรู้สึกมันกลับมาเลยใช่ไหม?
ลานนา : ใช่ค่ะ
เราอยู่ด้วยตัวเองนานกี่ปี?
ลานนา : ก็ 3-5 ปี
พอเราอยู่คนเดียวมาหลายปี อะไรที่ทำให้เราเหงาไม่ไหวแล้ว?

ลานนา : มันไม่รู้จะทำไม กลับไปอยู่กับแม่ดีกว่า มีปฏิเสธงานบ้าง เพราะมันต้องไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เดิมทีที่มีมันหมดไปแล้ว
รู้สึกเหงา รู้สึกเศร้า จนเป็นโรคซึมเศร้าเลย?
ลานนา : ค่ะ ในตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันคือโรคซึมเศร้า ยังไม่ได้หาหมอ แล้วเราคิดว่าคงไม่ใช่หรอก ปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงไปสักพักนึง พอมันเกิดเหตุการณ์แรก เหตุการณ์สอง ลองไปอยู่วัดมาแล้ว มันก็ไม่ดีขึ้น
ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ไหน?
ลานนา : อยู่บ้าน อยู่ในห้อง พอกลับจากกรุงเทพฯ อยู่แบบระแวงคน คือคนเข้ามาเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาเรื่องเราไปพูดไหม เขาจริงใจไหม อะไรต่างๆ มันเกิดความระแวงก็เลยเก็บตัวอยู่คนเดียว
ความซึมเศร้าที่เกิดขึ้นมันหนักถึงขั้นทำร้ายตัวเองเลย?
ลานนา : ค่ะ เคยคิดฆ่าตัวตาย คืออยากตายจริงๆ คือจะปล่อยทุกอย่างหมดแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกอาจจะเกิดจากความน้อยใจ อารมณ์ชั่ววูบ แต่ครั้งที่สองเกิดจากคำพูดของคนที่ใกล้ชิดกับเรามากระทบเรา
มีทั้งหมดกี่ครั้ง?
ลานนา : 3 ค่ะ แต่ครั้งที่3 ไม่ได้อยากตายนะ แค่อยากให้เสียงต่างๆ ที่อยู่ในหัวให้มันเงียบเฉยๆ
มาถึงตรงนี้คุณนาสามารถพูดมันได้ด้วยรอยยิ้ม?
ลานนา : เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เลือกที่จะเป็น คืออาการป่วยนี้ไม่ใช่กินยาเม็ดเดียวแล้วจะหายได้ สิ่งที่เคมีมันไม่สมดุล มันคืออาการป่วยที่ต้องการการรักษาอย่างจริงจัง ต้องทานยา ต้องพบแพทย์ และที่สำคัญเลยคนรอบข้างสำคัญมาก ถ้าเกิดนาไม่มีครอบครัว ไม่มีพี่ชาย ไม่มีเพื่อนที่น่ารักที่คอยอยู่เคียงข้าง นาก็คงผ่านมาไม่ได้
ความรู้สึกครั้งแรกที่อยากฆ่าตัวตาย มันเป็นเรื่องอะไร?

ลานนา : ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา นาคิดฆ่าตัวตายคือเรื่องครอบครัว คุยกับแม่ไม่ค่อยรู้เรื่อง บวกคำพูด สื่อเล่นประเด็นต่างๆ มันสะเทือนใจ
แล้วอะไรมันคือฟางเส้นสุดท้ายที่บอกว่าฉันอยู่ไปไม่ไหวแล้ว?
ลานนา : นาคิดว่าอารมณ์แบบอยู่คนเดียว อารมณ์ที่เรารู้สึกว่าเราเดียวดาย ครั้งแรกเป็นความรู้สึกที่มันเดียวดายมาก ก็กินยาทั้งพารา ทั้งยานอนหลับกินหมด
เราวางแผนไว้ด้วย?
ลานนา : ก็ประมาณนึง ตอนนั้นอายุ 20 ต้นๆ ได้มั้ง ครั้งที่สองน่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ เหมือนเราจัดการอารมณ์ไม่ได้ แล้วบวกกับคนใหล้ตัวพูดจากระแทกความรู้สึกเรา ก็เลยคิดว่าไม่รู้จะอยู่มำไมแล้ว
ห่างกันนานไหม ครั้งแรกกับครั้งที่สอง?
ลานนา : ไม่ถึง 2 ปี
บางคนสงสัยว่ามันเป็นเรื่องอกหักไหม หรือเป็นเรื่องครอบครัว?
ลานนา : มันเป็นเรื่องในครอบครัว พี่ชายกำลังจะกลับมาจากต่างประเทศ แล้วแม่ก็พูดบางอย่างที่ คือเราก็รู้นิสัยแม่เราว่าเขาเป็นยังไง แต่ ณ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจ แล้วก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นแม่ก็พูดว่าทำไมต้องทำอะไรโง่ๆ
ถ้ามองย้อนกลับไปนาวิเคราะห์ได้ไหมว่าเป็นสิ่งที่มากระทบเรา หรือเกิดจากตัวเรา?
ลานนา : ในชีวิตนาเวลามีอะไรเกิดขึ้น นาจะโทษตัวเองตลอด เป็นเพราะเราทำ เป็นเพราะเราไม่มีค่า แต่ว่ามันเป็นมุมมองที่มันไม่ใช่ ทุกอย่างโลกมันไม่ได้หมุนรอบตัวเรา ล่าสุดที่นาพยายามฆ่าตัวตายก็คือเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ซึ่งตอนนั้นทะเลาะกับแฟน อย่างที่บอกมันมีเสียงในหัวเยอะมาก บอกให้เราทำนู่น ทำนี่ แล้วเราก็เลยอยากให้มันเงียบ และวิธีเดียวที่ทำให้มันเงียบได้ ก็คือทำร้ายตัวเอง
ครั้งที่3 เราใช้เป็นวิธีอะไร?
ลานนา : พี่ชายพาไปหาหมอ พี่ชายบอกว่าอาการแบบนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะว่าแฟนเก่าพี่ก็ป่วยอยู่ พี่ก็เลยมีประสบการณ์อยู่ระดับนึง พี่ก็เลยบอกว่าต้องไปหาหมอนะ ก็เลยไปพบหมอ คือมันไม่ใช่รักษาแพ๊บๆ แล้วหาย ก็คืออาจจะต้องกินยาไปจนตายก็ไม่เป็นไร จริงๆ เราไม่ได้ผิดปกติ เพียงแค่ว่าเราป่วย พอได้ยามาทานมันทำให้เคมีมันบาลานซ์  อารมณ์มันไม่สวิง
ครั้งแรกที่กินไปมันเจ็บไหม ความรู้สึกสุดท้าย และความรู้สึกที่ได้กลับมามันเป็นยังไง?

ลานนา : ครั้งแรกเหมือนหลับๆ ไป แล้วรู้ตัวอีกทีคือเขาสวนท่อ ล้างท้อง ถามว่าเจ็บไหม ก็นิดหน่อย แต่เซ็งมากกว่าที่ยังอยู่ เพราะเราทำไม่สำเร็จ
พอเราตื่นมาไม่มีใครอยู่ข้างๆ เราเลย?
ลานนา : ไม่มีค่ะ
พอมาครั้งที่สองใช้มีดกรีดข้อมือ?
ลานนา : ค่ะ ก็เย็บประมาณ 8 เข็ม แล้วเพื่อนมาเจอในห้อง
ตอนนั้นหมดสติไปเลยไหม?
ลานนา : ค่ะ กรีดลึกเกือบตัดเส้นเลือด
เจ็บไหม?
ลานนา : ตอนนั้นไม่เจ็บ ความเจ็บที่มันเกิดขึ้นมันอยู่ข้างในมากกว่า
อยากรู้ความรู้สึกก่อนที่จะลงมือกรีด?
ลานนา : มันพีค อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เราจะหายไปคนนึงมันก็ไม่แตกต่างอะไร
ตอนนี้ยังมีความคิดอย่างนี้อยู่ไหม?
ลานนา : ตอนนี้ไม่ได้อยากตาย ไม่ได้อยากตายมานานแล้ว เพียงแต่ว่สมันเป็นอาการจัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่เป็น ตอนนี้ต้องดูแลในเรื่องของอารมณ์เฉยๆ ว่าพออารมณ์มันพีคทำยังไงเพื่อให้มันลดลงมา ก็ต้องให้คนรอบข้างช่วย
มีไหมที่เราจะได้เดินไปเคลียร์กับคนในครอบครัว?
ลานนา : สำคัญมากเลย ทีแรกที่นาทำร้ายตัวเอง หรือพยายามฆ่าตัวตาย แม่ไม่เข้าใจ คนยุคนั้นอาจจไม่รู้จักกับโรคนี้ เขาก็รับมือกับมันไม่ได้ อย่างรอบล่าสุดพี่ที่สนิทกันเขาก็อธิบายให้แม่ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ก็ถามว่าควรทำยังไงดี แม่ก็อยากจะช่วย นาก็จะบอกแม่วันนี้ลูกดาวน์มากเลย ลูกแย่มากเลยวันนี้แม่ก็จะเดินเข้ามาหาแล้วก็เข้ามากอด แล้วก็บอกว่าไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวมันก็ดี และทุกอย่างเปลี่ยน ไม่ใช่แค่แม่อย่างเดียว ตอนนี้เรามีพี่ชาย แล้วก็มีเพื่อนที่เป็นเพื่อนแท้ เพื่อนที่รักเราจริงๆ คอยอยู่เคียงข้างเรา
เวลาเราดาวน์ เรากอดแม่ ความรู้สึกนั้นเป็นยังไง?

ลานนา : ปลอดภัย เขาเข้าใจเรา เราไม่ต้องมาเก็บกด ไม่ต้องมาเฟกเหมือนว่าไม่เป็นอะไร แต่จริงๆ เราเป็น
อยากจะบอกอะไรกับคนที่มีเสียงอยู่ในหัง เหมือนที่เราเคยเป็นไหม?
ลานนา : ใครที่อาจจะมีอะไรที่คล้ายๆ กัน ว่าคุณไม่ได้ตัวคนเดียว ยังมีอีกหลายๆ คนที่เป็นเหมือนกัน แล้วทุกอย่างต้องดีขึ้น ขอให้รักตัวเอง
มีอะไรอยากจะพูดกับคุณแม่ พี่ชาย คนในครอบครัวไหม?
ลานนา : ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ขอบคุณที่อยู่เคียงข้าง แล้วก็ให้ความรัก
มีอะไรอยากจะบอกกับทุกคนไหมที่บอกว่ามาแชร์แบบนี้จะโอเคไหม?
ลานนา : คือจริงๆ การมาออกรายการแล้วมานั่งร้องไห้เนี่ยจริงๆ ก็ไม่ได้สนุกนะคะ แค่อยากให้คนที่กำลังเผชิญสิ่งที่คล้ายๆ กันได้รู้ว่าเขาไม่ได้ตัวคนเดียว แล้วอยากให้คนที่ไม่รู้จักตัวเองได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เผื่อจะได้ช่วยเหลือคนอื่นที่ใกล้ชิดตัวคุณบ้าง ก็อยากจะแชร์เผื่อมันเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นได้บ้างไม่มากก็น้อย แค่นั้นเอง
ความรักเป็นยังไงบ้าง?
ลานนา : ตอนนี้หัวใจเหมือนไม่ว่าง มีแต่แมวอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้เคยมีแฟน?
ลานนา : ก็มีแล้วก็เลิก ที่เลิกส่วนใหญ่มันเข้ากันไม่ได้ คนล่าสุดคิดว่าการที่เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอาจจะมีส่วนที่ทำให้เขาคิดว่าเขารับมือกับมันไม่ได้
มันทำให้มุมมองความรักเราเปลี่ยนไปไหม?
ลานนา : ถามว่าเข็ดไหมก็ไม่เข็ดนะคะ เพราะว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม
สเปคเราเป็นแบบไหน?

ลานนา : เขาต้องเป็นคนที่คุยกับเรารู้เรื่อง ที่สำคัญสุดมันคือความเข้ากันได้มากกว่า แล้วเราสามารถอยู่ในโลกของกันและกันได้อย่างลงตัวไหม
เคยมีแฟนเป็นศอลปินด้วยกันไหม?
ลานนา : มีค่ะ เข้ากันได้ดี แต่ว่าท้ายสุดไปด้วยกันไม่ได้ เพราะว่าครอบครัว คือการเลี้ยงดูเราต่างกัน ก็เลยมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น มันก็เลยไปกันไม่ได้
ตอนนี้ยืนยันว่าเราเปิดใจ?
ลานนา : ใช่ค่ะ คือเราเป็นคนเรื่อยๆ เราจะไม่เอาประสบการณ์ที่ผ่านมา มามองความรักแย่ๆ เด็ดขาด

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow

สงสัยว่าปลัดหนุ่มรูปหล่อ “แชป-วรากร ศวัสกร” คงจะถือคติว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก เพราะก็ยังยืนยันเดินหน้าจีบ แถมเพิ่มระดับเป็นการจู่โจมอ้อนวอนขอแต่งงานกับ กำนันสาวสวยสุดห้าว “แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค” ในละครที่สนุกครบรส “กำนันหญิง” ของค่าย “ดาราวิดีโอ”

            ฉากนี้เป็นตอนที่ปลัดธรรณพ(แชป-วรากร)ขอร้องให้ดาวรุ่ง(แพรว-เฌอมาวีร์)แต่งงานด้วย เพราะทุกอย่างจะจบลง ผู้หญิงอื่นๆจะได้ไม่ตามมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีก ดาวรุ่งบอกว่าให้เลิกล้มความคิดซะเพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบผู้ชายหล่อ ดาวรุ่งจ้องหน้าธรรณพเย้ยหยันแล้วบอกว่าชอบผู้ชายที่เขารักฉัน เป็นคนดีของสังคมและที่สำคัญฉันก็ต้องรักเขาด้วย ธรรณพรีบสวนบอกว่าก็ผมไงใช่เลย ขอโอกาสพิจารณาผมหน่อยนะ อ้อนวอนดาวรุ่ง ดาวรุ่งชะโงกหน้าไปใกล้หน้าธรรณพแล้วบอกว่าเห็นแต่ขี้ตากับความโกหกหลอกลวง แล้วแววหวาน(หมิว-สิริลภัส)ก็ขับรถเข้ามาจอดแล้วก็ลงมาหาธรรณพ

            เบื้องหลังฉากนี้ยกกองไปถ่ายทำกันที่ทุ่งนาเขียวชอุ่ม แถมปทุมธานี ถึงแม้ว่าแสงแดดจะไม่ค่อยเป็นใจ แต่นักแสดงและทีมงานก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน ก่อนเริ่มถ่ายทำพี่แดง บูรพา ผู้กำกับ ก็เรียกทั้งแชปและแพรวมาซ้อมคิวบ๊อกกิ้งกันเบาๆ ส่วนหมิวก็เข้ามาตอนท้าย หลังจากที่นัดแนะกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาปล่อยของแพรวเดินจ้ำหนีแชป ส่วนแชปก็ไม่ลดละเดินและวิ่งตาม เพื่อจะขอร้องให้แพรวแต่งงานด้วย แต่แพรวไม่สนใจได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินหนี อย่างหัวเสีย แชปฮึดรวบรวมความกล้าอีกครั้ง เดินหน้าตื้อแพรว ทั้งดักหน้าดักหลังแพรว จนแพรวต้องยอมหยุดฟัง แชปฉีกยิ้มแบบภูมิใจว่าแพรวต้องยอมใจอ่อนแน่นอน แชปรีบสาธยายสรรพคุณของตัวเองว่าดียังไง พอพูดจบแพรวก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แชป แล้วมองไปที่ตาของแชป พร้อมกับบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจากความโกหกหลอกลวงแค่นั้น แชปถึงกับหน้าถอดสี หุบยิ้มแทบไม่ทันที่ถูกแพรวสวนกลับมาแบบนี้ แชปทำหน้าตาอ้อนวอนให้แพรวสงสาร เห็นใจ จังหวะนั้นหมิวก็ขับรถผ่านมาเห็นเลยรีบจอดรถลงไปทักทายแล้วตรงดิ่งเข้าไปแทรกกลางทั้งสองคนทันที หมิวรีบควงแขนแชปแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จนแพรวมองดูด้วยความหมั่นไส้ ทำหน้าเบ้ใส่แชปแล้วก็ชิ่งหนีไป แชปจะตามแต่ถูกหมิวดึงรั้นเอาไว้ แต่บอกเลยว่าฉากนี้ถ่ายทำเทคเดียวผ่านอย่างง่ายดาย แถมถูกใจผกก.เป็นที่สุด

ห้ามพลาดเด็ดขาดในละคร “กำนันหญิง” ออกอากาศวันพฤหัสบดี ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 19.00 น. ทางช่อง 7 HD35

กระหึ่มโซเชียลทันที หลัง ช่อง 7HD กระตุ้นต่อมจิ้นให้ได้ฟินกันแล้ว  เรียกว่าสมการรอคอยแฟน ๆ ที่ได้เห็นคู่ขวัญ ไมค์-มุก กลับมาอีกครั้ง กับตัวอย่างละคร “คู่แค้นแสนรัก” ที่แค่ปล่อยทีเซอร์แรก พร้อมเฉลยวันออกอากาศตอนแรกออกมา ก็เรียกเสียงกรี๊ดของแฟน ๆ กระแสตอบรับแรงหลังเปิดตัวไม่ทันข้ามคืน ส่งผลให้แฮชแท็ก  #คู่แค้นแสนรัก  ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยทันที  

            ด้าน มุกดา นรินทร์รักษ์ เผยความรู้สึกกับกระแสตอบรับครั้งนี้ว่า “ดีใจที่ทีเซอร์ละครคู่แค้นแสนรักปล่อยออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนละคร จนทำให้แฮชแท็กละครคู่แค้นแสนรักติดเทรนด์ทวิตเตอร์และยังมีแฮชแท็ก  #ไมค์มุก อีกด้วย   ต้องขอบคุณแฟน ๆ มากที่ยังคอยซัพพอร์ต และก็ติดตามผลงาน ของพวกเราเสมอ และละครคู่แค้นแสนรักก็กำลังใกล้จะลงจอให้ได้ชมกันแล้ว เรื่องนี้จะขนความสนุก ขนรอยยิ้มมาให้ทุกคนแน่นอนค่ะ อยากฝากแฟนๆ ติดตามชมด้วยนะคะ ” 

ปักหมุดรอชมความสนุกเรื่องราวความแค้น…ที่เปลี่ยนเธอ อิงดาว รับบทโดยมุกดา  นรินทร์รักษ์ ให้กลายเป็นสาวพราวเสน่ห์เพื่อเอาคืนคาสโนว่าหนุ่ม สงกรานต์ รับบทโดย ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี ให้ตกเป็นทาสรักเธอคนเดียว  เรื่องราวอลวนจะสนุก ฟิน จิ้นกันขนาดไหน                                

เตรียมพบกันได้ในละคร คู่แค้นแสนรัก เริ่มส่งความสุขพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ และติดตามชมได้ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7HD ชมสด กด 35  และ Facebook Live Fanpage: Ch7HD ชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV

ก้อง สหรัฐ ที่วันนี้จะมาเปิดในมุมมองความรักในวัย 52 ปี จะอบอุ่นขนาดไหน พร้อมเผยเรื่องที่น้อยคนจะรู้ พี่ก้องไม่เล่นไลน์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา และใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร อีกทั้งยังเคลียร์ข่าวลือวางแผนเตรียมทิ้งวงการจริงหรือเปล่า?

พี่ก้องเข้าเลข 5 แล้ว?

ก้อง : 52 แล้วครับ 

แต่พี่ติดอันดับผู้ชายในฝันของสาวๆ ในประเทศไทยเลยนะ?

ก้อง : โห…ขอบคุณครับ ดีใจ ปลื้ม เป็นกำลังใจ

เรามีมุมเจ้าชู้ไหม?

ก้อง : จริงๆ ไม่ถือว่าเจ้าชู้นะ คือเราต้องจำกัดคำว่าเจ้าชู้มันขนาดไหน ถ้าสมมติคำว่าเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสวยแล้วเดินไป ขอแลกไลน์ แลกเบอร์ สมมติถ้าขนาดนี้พี่ไม่ถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเห็นผู้หญิงสวยแล้วมอง สวยจังเลย ก็ประมาณนั้น 

แล้วผู้หญิงแบบไหนที่จะทำให้สายตาของพี่ก้อง มองไป?

ก้อง : ผมว่าผู้ชายมาตรฐานก็มองหมดนะผู้หญิงสวย แต่พี่ไม่ได้คิดอะไร แค่มองว่าสวยจังเลย แต่เราก็ไม่ถึงขั้นเดินเข้าไปหา ขอเบอร์หน่อย ก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น

ช่วงที่พีคที่สุดของชีวิต สถานการณ์ตอนนั้นมันเป็นยังไงบ้าง?

ก้อง : ถ้าพีคสุดก็น่าจะเป็นช่วงนูโวอัลบั้มแรกๆ 1,2,3 ก็จะมีแฟนคลับ มีผู้ที่ชื่นชอบ เข้ามาแบบถึงเนื้อถึงตัว

มีแบบจู่โจมเราไหม จับของรักของหวงอะไรแบบนี้?

ก้อง : ผมเชื่อว่ามีแหละ แต่ตอนนั้นอาจจะไม่รู้ตัว เพราะมันนัวเนียไปหมด แต่มีแบบฮาๆ ประเภทเราปิดประตูห้องหมดก็มีจดหมายสอดเจ้ามาแสดงความจำนงว่าต้องการอะไร ขอนิด ขอหน่อย เราก็ไม่ตอบอะไร ได้แต่อึ้งๆ ไป 

เคยเจอโรคจิตไหม?

ก้อง : คงไม่ถึงกับโรคจิตนะ แต่เขาคงชื่นชอบมาก ก็เคยเจออยู่เหตุการณ์นึง เขาเข้ามาหาผมถึงในบ้านเลย แล้ววันนั้นมีสตาร์ฟน้องๆ เด็กๆ ในวงที่เป็นเด็กเซตอัพเครื่องก็อยู่ด้วยกันพอดี เขาก็เปิดประตูเข้ามาในบ้าน เราก็ตกใจ ก็บอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามา เราก็ออกไปคุยกับเขาดีๆ ว่ากลับบ้านเถอะ เราก็กำลังส่งเขากลับ เขาบอกว่า ขออะไรอย่างนึงได้ไหม ขอแต่งงานได้ไหม แล้วน้องที่อยู่ด้วยตอบทันทีเลยว่าไม่ได้ครับ 

แฟนคลับของพี่ยืนยง อยู่กันเป็นครอบครัว?

ก้อง : จริงๆ แฟนคลับเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนะครับ เขาก็เข้าใจ เขาเป็นแฟนคลับเรา เขาก็รู้ว่าประมาณไหนอะไรยังไงก็มีความเอื้ออาทรกันมายาวนาน

การจับสาวของคุณก้องเป็นยังไง?

ก้อง : พี่เป็นคนอายในเรื่องของการจีบผู้หญิงมาก พี่เป็นคนเขินอะ เนื่องจากพี่อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 พี่ไม่เคยอยู่กับผู้หญิงเลย จนมาม.4-ม.6 ถึงได้เข้าโรงเรียนสหถึงได้มาเจอผู้หญิง การเข้าหาผู้หญิง การคุยกับผู้หญิง เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพี่มาก เพราะมันไม่คุ้น เราอยู่กับเพื่อนผู้ชายล้วน การพูด การจา มึงกุ นู่นนี่ มันก็คุยกันปกติ แต่พอวันนึบมาอยู่กับผู้หญิง พี่อึ้งไปเลยนะ ทำตัวไม่ถูก 

มันต้องมีสักคนในชีวิต คนนี้ป๊อปปี้เลิฟ ฉันชอบ พี่พูดกับเขาว่าอะไร?

ก้อง : จริงๆ ไม่เคยแสดงออกขนาดนั้น มันก็เริ่มจาดเป็นเพื่อนกันก่อน ก็ไม่เคยที่จะชอบผู้หญิงคนนี้แล้วเดินเข้าไปบุกจีบ หรืออะไรอย่างนี้เลย มันก็คืออยูเป๋นเพื่อนกัน เป็นกลุ่ม เป็นก้อนกัน คุยกันไป มันค่อยๆ เป็นอย่างนี้ มันไม่มีโมเมนต์เดินไปสวัสดีครับ น่ารักจังเลย มันไม่เคยทำไง แล้วก็ไม่กล้าทำด้วย 

พี่ก้องเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว เพื่อนๆ ถึงกับบอกเลยนะ ถ้าสมมติในกลุ่มใครสักคนอยากไปจีบสาว หรืออยากมีสาวมาติดให้เลี่ยมเป็นรูปพี่ก้องแขวนไว้ อันนี้เป็นตำนานของเพื่อนที่เลืากันมา?

ก้อง : จริงเหรอ ผมยังไใ่เคยได้ยินเลย

เขาบอกว่าเด็ดกว่าขุนแผนก็ก้อง สหรัฐ นี่แหละ?

ก้อง : อันนี้ขอบคุณมากใครเป็นคนตั้งเนี่ย

พี่ก้องไม่มีข่าวเรื่องความรักเลย?

ก้อง : อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี แล้วก็ไม่มีเวลาที่จะไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นด้วย ชีวิตอยู่กับงานที่ยุ่งทุกวัน แล้วชีวิตก็อยู่กับเพื่อนสะส่วนใหญ่ อยู่กับการทำงาน เล่นดนตรี ถ่ายละคร ถ่ายรายการ เป็นโค้ชเอ่ยอะไรอย่างนี้ มันมีแต่งาน ไม่มีเวลาใช้ชีวิตแบบว่างๆ 

แต่ล่าสุดมีรูปหลุดมาทางโซเชียล เป็นรูปเด็กชายหน้าตาดีมาก จนเขาไปเม้าท์กันว่าพี่แอบมีลูกแล้ว?

ก้อง : ลูกของน้องชาย เป็นหลานแท้ๆ ของผมเลย หลานน่ารักมาก 

พี่ก้องอยากมีลูกเป็นของตัวเองไหม?

ก้อง : ไม่มีเลย

แล้วตอนนี้พี่ก้อง ทำมรดกเอาไว้หรือยัง?

ก้อง : ยังเลยครับ 

วันที่พี่ไม่ได้ทำงาน พี่ใช้ชีวิตทำอะไรบ้าง?

ก้อง : ถ้าว่างอยู่บ้านก็มีความสุขแล้ว คือพี่ทำงานเยอะ จนบางทีไม่ได้อยู่บ้าน 

ชาวเน็ตเขาแซวกันว่าพี่ก้องคือผัวทิพย์ของพี่คิ้ม?

ก้อง : เริ่มหวั่นไหวแล้ว เอ้ อยู่ในภาวะอันตรายหรือเปล่า ไม่หรอกก็เฮฮา 

เชื่อไหมที่ทุกคนเอาพี่ก้องเป็นสามีทิพย์ พี่รู้สึกยังไงบ้าง?

ก้อง : ดีสิ เป็นกำลังใจ มันก็คือความรู้สึกที่ดีนะ เป็นความรู้สึกชื่นชอบที่ส่งเข้ามา ผมถือว่าเป็นกำลังใจทั้งสิ้น ต้องขอบคุณด้วยซ้ำ ขอบคุณความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ 

คุณก้องไม่มีไลน์?

ก้อง : จริงๆ เริ่มจากการเห็นคนใกล้ตัว เล่นแล้วไปเสียเวลาอยู่กับการตอบไลน์ คืออย่างไลน์กลุ่มมีนก็จะมีอยู่หลายกลุ่ม บางทีเสียเวลาในการตอบเป็นชั่วโมงไม่ต้องทำอะไร ผมรู้สึกว่ามันเสียเวลาไปหรือเปล่ากับการทำสิ่งเหล่านี้ เราเอาเวลาไปฝึกกีต้าร์ไหม หรือไปทำอะไรที่เราอยากจะทำดีกว่า เพราะงานเราก็ยุ่งอยู่แล้ว กว่าจะมีเวลาว่างสักที ต้องมานั่งกดไลน์ หรือบางทีเราไม่อยากรับรู้เรื่องบางเรื่องของคนนู่น คนนี้ คนนั้น หรือเรื่องการเมือง หรืออะไรก็ตาม บางทีเราไม่อยากรับอะ ถ้ารู้แล้วต้องมาแสดงความคิดเห็นบางทีก็อึดอัด

เหมือนเป็นคนรักสงบ?

ก้อง : เพราะว่าชีวิตเรายุ่งวุ่นวายพออยู่แล้ว ถ้ามีเวลาว่างก็อยากจะอยู่แบบสงบ ก็เลยคิดว่าตัดไฟตั้งแต่ต้นลมมีอะไรโทรคุยกัน

แล้วโซเชียลอื่นๆ พี่ก้องเล่นไหม?

ก้อง : มีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

อินสตาแกรมเพิ่งมีไม่ใช่เหรอ?

ก้อง : ก็มีมาไม่นาน 

พอได้เล่นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมพี่รู้สึกว่ามันวุ่นวายไหม?

ก้อง : ไม่ครับ อินสตาแกรมเหมือนเราอยากจะบอกแฟนคลับ หรือคนติดตามเราอยู่ จริงๆ เรามีเรื่องอะไรสนุกๆ ก็เล่าสู่กันฟัง 

32 ปีกับนูโว สมาชิกมีกี่คน?

ก้อง : 6 คน

ทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกัน รักกัน มันทำยังไงให้เรารักกันได้มากขนาดนี้?

ก้อง : เราคงจะเกิดมาจากการที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ เราไม่ได้ถูกจับมาให้เจอกัน คือเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อย่างพี่กับพี่โจก็ป.1 เลย แล้วมาเจอพี่จอห์น พี่สุ พี่ใหม่ พี่ปีเตอร์ ตั้งแต่ม.4-ม.6 ก็มาเริ่มตั้งวง เล่นเป็นนูโวมาตั้งแต่ประมาณ ม.4-ม.5 แต่ตอนนั้นยังไม่มีพี่ปีเตอร์ คือเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก อยู่กันแบบเพื่อน มันก็เลยเป็นความสนิทแบบเพื่อน

มีขัดแย้งกันไหม?

ก้อง : มันก็มีเป็นธรรมดาแหละ จริงๆ งอนก็มีบ้างแหละ

พี่ก้องทำงานหนักมา 30 ปี รู้ข่าวมาว่าพี่ก้องอยากจะรีไทน์ แล้วก็ออกจากวงการ เพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด?

ก้อง : เหลือเวลาให้ชีวิตไปเที่ยวบ้าง ไปเปลี่ยนฉากอื่นบ้าง ไม่ใช่ตื่นมาก็งานๆ ไปอยู่กับคุณแม่บ้าง พาคุณแม่ไปเที่ยวต่างจังหวดบ้าง ก็อาจจะลดทอนเหลืองานที่เราอยากจะทำจริงๆ ก็คือควเล่นคอนเสิร์ต เล่นดนตรี อะไรอย่างนี้ แต่งานหนักๆ อย่างถ่ายละครเราก็ไม่ไหวแล้ว ต้องยอมรับว่าละคนเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนัก คือไม่ถึงกับเบรก ชัตดาวน์ รีไทน์ 100% ไปอยู่ต่างจังหวัดเลย ก็ไม่ขนาดนั้น เพียงแต่ว่าเหนื่อยมามากแล้ว ใช้ชีวิตบ้าง พักผ่อนบ้าง เที่ยวบ้าง

อนาคตอาจจะได้เห็นละครพี่น้อยลง?

ก้อง : อาจจะประมาณนั้น อาจจะเล่นเบาๆ รับเชิญไม่กี่ตอน

ถ้าเราพักผ่อนเต็มที่แล้วจะกลับมาเล่นละครไหม?

ก้อง : ก็อาจจะ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow

กำลังสนุกและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆสำหรับละครแอ๊คชั่นจัดเต็ม ค่ายอาหลองกรุ๊ป เรื่อง “ดาวคนละดวง” โดยวันนี้ก็มีฉากเด็ดฉากสนุกของคู่ ป๊อป ฐากูร การทิพย์ กับ มิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา มาให้ชมกัน

            โดยเป็นตอนที่จ่าวสันต์(ป๊อป ฐากูร)ซึ่งเข้ามาเป็นกำลังเสริมช่วยหน่วยไอราวัณ และ หมวดศุภิกา หรือ หมวดอีกา(มิว ลักษณ์นารา) ได้รับคำสั่งให้จับคู่กัน ปลอมตัวไปสืบจับพวกค้ายา ทั้งๆที่ทั้งคู่เป็นคู่กัดกัน แต่ก็ต้องจำยอมไปสืบงานลับด้วยกัน โดย ทั้งคู่ได้ปลอมเป็นแว๊นหนุ่ม กับ สก๊อยสาวที่เป็นแฟนกัน เพื่อไปร่วมปาร์ตี้กับแก๊งค์แว๊นค้ายา โดยวสันต์ควักเงินแสนล่อซื้อยา จนพวกค้ายาตายใจ แต่พอเห็นวสันต์กับศุภิกาทะเลาะกัน หยอกล้อกัน สาวสก๊อย ก็เลยเชียร์ให้วสันต์จูบง้อแฟน

            ฉากนี้ถ่ายทำกันแถวใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ เป็นฉากที่ทั้งป๊อป ฐากูร และ มิว ลักษณ์นารา ต้องพลิกลุคตัวเอง เป็นหนุ่มแว๊น สาวสก๊อย น่ารักเชียว แต่พอเริ่มต้นก็ตีฝีปากจะทะเลาะกันแล้ว คู่นี้เจอกันเป็นต้องตีกันตลอด เพราะในเรื่องจ่าวสันต์กวนสาวตลอด แถมฉากนี้ยังแว๊นรถได้กวนมาก แทบจะทำให้คนนั่งตกถนน จะไม่ให้หมวดอีกาว่าได้อย่างไร ยังไม่พอ ตอนไปล่อซื้อยา ก็ยังพูดจาน่าหมั่นไส้ แล้วยังแต๊ะอั๋งอีก ทำเอาสาวมิวของขึ้น ด่าไฟแล่บ จนกองเชียร์สก๊อย เรียกให้ ป๊อป จูบง้อคืนดี ทำให้มิวหน้าเหวอไปเลย ป๊อปบอกเล่นตามบทนะ มิวจำยอม กว่าจะผ่านฉากนี้ได้เขินหน้าแดงกันทั้งคู่

            ตามชมฉากห้าวๆ หวานๆของคู่ป๊อป มิว ได้ในละคร “ดาวคนละดวง” อังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 20.20 น.ช่อง 3กด33