ดังถล่มทลาย!! ฟาดชาร์ตทุกพื้นที่!!ขึ้น Digital Billboard ใจกลาง Times Square

หลัง “วิโอเลต วอเทียร์” คัมแบ็คกลับมาในลุคสนุกสนาน สดใส ปล่อยเพลง“กักตัว” ที่ไม่ได้เป็นเพลงเกี่ยวกับการกักตัวธรรมดาทั่วไป เธอเติมเต็มความสดใส และใส่ความเซ็กซี่ ขี้เล่น ในแบบฉบับของเธอลงไป แถมสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าตัวพระเอกซุปตาร์ช่อง 3 อย่างหนุ่ม “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” มารับบทพระเอก MV ให้ โดยหลังจาก MV ถูกปล่อยออกไปสร้างความตื่นเต้นให้บรรดาแฟนเพลง และพี่น้องสื่อมวลชนในวงการเพลงเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องราวของ MV ที่สาววีสวมบทแม่นาคยุค 2021 อยาก “กักตัว” คนรักอย่างหนุ่มเจมส์ให้อยู่ด้วยตลอดเวลา รวมไปถึงสีสันที่สดใส สบายตาใน MV ที่ทำให้ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว จนติดอันดับ 6 บน Twitter Trend, อันดับที่ 11 บน YouTube Trend แถมยังคงติดเทรนต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ หนำซ้ำยังติดชาร์ตอันดับ 1 บนคลื่นวิทยุออนไลน์อย่าง Cat Radio, อันดับ 9 บนคลื่น 94 EFM, ถูกจัดอยู่ในเพลงใหม่ประจำสัปดาห์บนคลื่น Mellow 975 และล่าสุดอันดับ 4 ในรายการ T-POP STAGE  นับว่าเพลง “กักตัว” โดนใจแฟนเพลง จนฮิตติดชาร์ตบนหน้าปัดคลื่นวิทยุบ้านเราเรียบร้อย

นอกจากเพลง “กักตัว” จะเปรี้ยงปังดังสุดโต่งบนหน้าปัดคลื่นวิทยุแล้ว เพลงนี้ยังติดชาร์ตอันดับที่ 22 บน Daily Top 200 ,ได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ “ป็อปโดนใจ” บน Spotify มากไปกว่านั้น“วิโอเลต วอเทียร์” ยังสร้างความภูมิใจให้กับประเทศไทย เมื่อเธอได้เข้าร่วมแคมเปญ “EQUAL” โครงการที่ส่งเสริมความเท่าเทียมให้กับผู้หญิงในวงการเพลงทั่วโลก โดยสาววีได้ขึ้น Digital Billboard ใจกลาง Times Square เรียกว่าปังไกลถึงนิวยอร์ก งานนี้ต้องขอขอบคุณ “Spotify Asia” และ “Spotify Thailand” Hashtag #spotifyequal  

ไม่เพียงเท่านี้เธอยังได้รับแรงสนับสนุนจากฝั่ง Digital Streaming Platforms อีกเพียบไม่ว่าจะเป็นการได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ “Thai Pop Supreme” เพลย์ลิสต์เพลงไทยที่มีผู้ฟังเยอะที่สุด, ติด Top 20 Daily Chart และเร็ว ๆ นี้ “วิโอเลต  วอเทียร์” จะมี Exclusive Vertical Music Video ของเพลง “กักตัว” บนApple Music อีกด้วย

ตามมาด้วยได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ “เพลงเพราะประจำวัน” บน JOOX MUSIC, #กักตัวChallenge ได้รับการแนะนำให้เป็น Trending Sound และได้ยอดวิวไปมากกว่า 18 ล้านวิวบนTikTok ก็ต้องยกรันเวย์นี้ให้ชีไปครองนะ…

เปิดกล่องศิลปินคนล่าสุดของค่าย BOXX MUSIC (บ็อกซ์ มิวสิค) ด้วย “MAIY” หรือ เหมย – สุพิชฌาย์ ชีวพิทักษ์ผล สาวน้อยที่มาพร้อมความสดใส และมีรอยยิ้มที่น่ารัก จนทำให้ทุกคนตกหลุมรักได้เพียงครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มนี้

“MAIY” หรือ เหมย – สุพิชฌาย์  นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาไทยและโทภาษาญี่ปุ่น เหมยเริ่มเล่นดนตรีจริงจังตอนเข้ามหาวิทยาลัย ได้เป็นนักร้องนำและเล่นดนตรีกับชมรมดนตรีสากล แจ้งเกิดจากการทำ Cover ร้องเพลงลงใน Facebook และ Youtube จนวันนึงได้มีโอกาสเข้ามาเป็นศิลปินเต็มตัวกับค่าย BOXX MUSIC

เพลง “ใช่ตั้งแต่ไม่รู้จัก (First Met)” ซิงเกิลแรกเปิดตัว “MAIY” ในฐานะศิลปินน้องใหม่จากค่าย BOXX MUSIC เป็นเพลงแรก จาก 3 เพลง ใน EP ALBUM : First Spring ที่จะทยอยปล่อยออกมาให้ทุกคนค่อย ๆ รู้จัก MAIY ไปด้วยกัน โดยเพลงนี้มีจังหวะที่น่ารัก สดใส แนว City pop ฟังง่าย มีกลิ่นอายอนิเมะแบบญี่ปุ่นผสมกับแนวดนตรี Japanese – pop เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับ ‘รักแรกพบ’ ของคนขี้มโนที่แอบคิดไปเองว่า “เขาคือคนที่ใช่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า”

MAIY กล่าวถึงเพลงนี้ “จุดเริ่มต้นของเพลงนี้ เหมยได้คุยกับพี่ๆที่ค่ายว่า เราจะเปิดตัวซิงเกิลแรกของเราเป็นเพลงประมาณไหนดี ด้วยความที่เหมยเป็นคนขี้เล่น สดใส อยู่แล้ว พี่ๆที่ค่ายเลยเสนอว่า งั้นทำเพลงสนุกๆ ตามสไตล์ของเราเลย โดยเพลงนี้เล่าถึง การตกหลุมรัก เหมือนเรารู้สึกได้เจอคนที่ใช่ตั้งแต่เราได้เจอเขาครั้งแรก เราก็จินตนาการไปมากมายว่า เขาจะเป็นอย่างไง ต้องน่ารักแบบนี้แน่เลย เหมือนเป็นรักแรกพบของเราเลยค่ะ ซึ่ง MV เพลงนี้ เหมยได้แสดงเองเป็นครั้งแรก มีฉากน่ารักๆ สดใส และมีฉากที่เหมยเต้นด้วย ถ้าใครอยากเห็นเหมยเต้น ต้องไปดูได้ใน MV เลยค่ะ แล้วคอมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะว่าชอบกันไหม ยังไงขอฝากซิงเกิลแรก ‘ใช่ตั้งแต่ไม่รู้จัก’ ของเหมยด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบผลงานของเหมยแล้วก็อยากให้คอยติดตามผลงานกันต่อไปในอนาคตเรื่อย ๆ ด้วยนะคะ”

ขึ้นแท่นเพลงตัวแทนความคิดถึงเป็นที่เรียบร้อย ด้วยยอดผู้เข้าชมบนยูทูบทะลุ 80 ล้านวิว สำหรับเพลง “ดวงเดือน” ของ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” ศิลปินน้องใหม่มาแรงจากบ้าน จีนี่ เรคคอร์ดส ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ หลังปล่อย “Another version” 3 เวอร์ชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการฟีทเจอริ่งกับ สงกรานต์ รังสรรค์, ลําเพลิน วงศกร และ ปิดท้ายด้วยวงอินดี้อีสานชื่อดังอย่างวง “จุลโหฬาร” นับว่าเป็นการโคจรมาพบกันเพื่อสร้างผลงานเพลงสุดอบอุ่น และเต็มอิ่มไปด้วยความคิดถึงแบบที่มีกลิ่นอายเวิลด์มิวสิก โดยการนำเอาเครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมผสานกับเครื่องดนตรีสากล มาสร้างสรรค์ดนตรีใหม่ โดยความพิเศษของ ดวงเดือนเวอร์ชั่นนี้นอกจากวงจุลโหฬารจะเป็นผู้รีอะเร้นจ์เองแล้ว ยังถือเป็นการตีความคำว่าคิดถึงใหม่อีกเเบบ ต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ เพลงเวอร์ชั่นนี้จะไม่ได้เศร้าฟูมฟาย แต่เป็นความคิดถึงเเบบที่ยังยิ้มได้ ซึ่งโจอี้ได้เล่าความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับวงดนตรีที่ชื่นชอบว่า…

“ส่วนตัวผมชอบแนวดนตรีของพี่ๆวงจุลโหฬารอยู่แล้วครับ เพลงนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดนตรีอีสานกับดนตรีสากลแนวโฟล์ค ด้วยการหยิบเอา โฟล์ค กับ พิณ มาอยู่ร่วมกัน (ยิ้ม) ทำให้เพลงนี้มีอารมณ์แบบกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมมองว่าน่าจะเข้ากับเพลงดวงเดือนได้ดีเลยทีเดียว ในเพลงนี้จะสื่อออกมาในลักษณะของความคิดถึงแบบแบบง่ายๆ คิดถึงแบบหมู่พวก หรือ เพื่อนฝูงกันนี่แหละครับ ครั้งแรกที่ได้ฟังดวงเดือนที่พี่จุลโหฬารอะเร้นจ์มา ผมนี่ขนลุกเลย สุดยอดมากๆ เป็นเวอร์ชั่นที่พาอารมณ์เราล่องลอยไปกับความคิดถึงครับ ส่วนในพาร์ทของการทำงานเพลงนี้ผมได้ดีไซน์การร้องใหม่ โดยได้ตัดความเป็นดวงเดือนเวอร์ชั่นเดิมออกไป เพื่อร้องให้เข้ากับเเนวของจุลโหฬารเเละ ยังมีการอิมโพรไวส์ช่วงท้ายเพลงอีกด้วยครับ ”

ด้านวงจุลโหฬารก็รู้สึกดีมากเช่นกันที่ได้ร่วมงานกับศิลปินรุ่นน้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถโดยเผยว่า…

“พอรู้ว่าจะได้มาทำเพลงดวงเดือนพวกเราก็รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ เพราะพวกเราก็มีความรู้สึกคิดถึงบ้านเหมือนกัน เลยเข้าใจอารมณ์ของเพลงนี้เป็นอย่างดี ตอนได้ฟังเพลงของน้องเค้าครั้งแรกมันทำให้เราว้าวมาก ทำให้เรารุ้สึกเข้าถึงอารมณ์ของความคิดถึงจริงๆค่ะ โจอี้ไม่ใช่แค่ร้องดี หรือเสียงดีนะคะ แต่โจอี้สื่ออารมณ์ ความหมายออกมาได้ดี เก่งมาก(ยิ้ม) เสียงของน้องเค้าสูงมาก ร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ฟัง ดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับโจอี้ค่ะ”

พร้อมตั้งคำถามในความสัมพันธ์ “สถานะไหนในสายตา”ดึง “แบงค์-ธิติ”  ร่วมงานในMV

หลังจากปล่อยเพลง “ใจ(ไม่)ร้าย”ออกมาให้แฟนๆได้ฟังให้หายคิดถึงกันไปแล้วเมื่อต้นปี วันนี้4 หนุ่มวง Yes’Sir Days (เยสเซอร์เดย์) อัทธ์ -ร้องนำ , ตูน -เบส, อาร์ท -กลอง และ บอม -กีตาร์ ค่าย genie records กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ “สถานะไหนในสายตา” เพลงที่อัดแน่นด้วยคำถามมากมายที่อยู่ในใจของคนไร้จุดยืนในสายตา ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้าถึงอารมณ์เพลงผ่านเสียงร้อง แนวดนตรีโมเดิร์น-ร็อก ที่มีกลิ่นของ Yes’Sir Days อย่างเต็มเปี่ยม  โดย อัทธ์ นักร้องนำ เล่าว่า

“สถานะไหนในสายตา”  เป็นเพลงที่พูดถึง การที่เราสงสัยในความสัมพันธ์ที่เดาไม่ออก อยากรู้ความรู้สึก ว่าอีกฝ่ายวางเราเอาไว้ในสถานะไหน  แต่ไม่อยากถามตรงๆ เลยหาคำตอบผ่านทางสายตา แทนคำพูด  บางทีคนเราคบกัน หรืออยู่ด้วยกันแบบนี้ เหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่มองไปในตาแล้ว จริงๆเขารักเราจริงหรือเปล่า เพลงนี้เป็นเพลงแบบมีเดียมสโลว์ เนื้อหาบาดลึก กระแทกอารมณ์ ค้นหา ตั้งคำถาม  ส่วนทางด้านดนตรี เราจะลดท่อนความหนักเบาของดนตรีลง ให้ฟังสบายมากขึ้น มีลูกเล่นผสมอยู่ในดนตรี กีตาร์หรือเบสก็จะปรับให้สมูทฟังง่ายมากขึ้น เรายังได้พี่ ปู๋ HENS มาเป็นโปรดิวเซอร์ และช่วยแต่งทำนอง-เนื้อร้อง  เอาจริงๆการทำงานเพลงนี้รวดเร็วมากครับ แบบปุ๊บปั๊บๆเสร็จด้วยความเร็วสูง ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี  เดโมแรกที่ส่งให้ทางพี่ๆฟัง ก็ผ่านเลย  ด้านมิวสิกวิดีโอได้ผู้กำกับ ‘อ๊อฟ-จักรพงศ์ มหากิจกำพล’ กลับมาร่วมงานกับทางวงอีกครั้ง  ทางผู้กำกับได้ตีโจทย์มาจากตัวละครของ แบงค์- ธิติ  มหาโยธารักษ์ ในละคร ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านดวงตาซึ่งตรงกับชื่อเพลง จึงเป็นไอเดียการถ่ายเน้นไลน์ซิงค์เท่ๆ ไลท์ติ้งสวยๆ ตัดสลับกับเอฟเฟ็กต์  ด้วยโทนสีของแสง มีความฟีลแบบลึกลับๆเท่ๆ น่าค้นหา สีคุมโทน เพื่อนๆในวงชอบเอ็มวีตัวนี้เพราะเห็นวงเยอะมาก ชอบครับ (ฮาๆๆ)

ก็ฝากเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเรา Yes’Sir Days  ด้วยนะครับ  สำหรับใครที่กำลังคบหาดูใจอยู่ หรือกำลังมีความสัมพันธ์กับใครอยู่  ยังไม่มีสถานะ ก็ฝากเพลงนี้ไว้ด้วยนะครับ เผื่อคุณฟังเพลงนี้แล้วส่งไปให้ แล้วคุณอาจจะได้สถานะรับรักกลับมา หรือสถานะที่เป็นแฟนกลับมาครับ

ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว!! สำหรับสาวป็อปสุดแซ่บ “มัจฉา โมซิมันน์” ศิลปินเบอร์แรกของค่าย White Fox ในเครือ GMM Grammy ที่วันนี้…เธอมาพร้อมความมั่นใจ เดินตามความฝันของตัวเอง ส่งอัลบั้มแรกในชีวิต “DREAMING” ให้แฟนเพลงได้ฟังทั่วโลก และปล่อยเพลงให้ฟังกันไปแล้ว คือ So What, Swipe, Run To You ล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิลเพราะๆ จากอัลบั้ม “DREAM​ING” อย่างเพลง “SO OVER YOU” (โซ โอเวอร์  ยู) เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษสุดโมเดิร์นให้ทุกคนได้ฟังทาง Apple Music ก่อนใคร นอกจากนี้ “มัจฉา” ยังแซ่บ!! ถึงขนาดได้เข้าไปอยู่ใน Global Pop Playlist ของทุกประเทศ และนำเพลงไปออกอากาศทางสถานีวิทยุ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้ฟังมากที่สุดในโลก อย่าง Apple Music 1: The Chart Show พร้อมมีรูปหน้าปกใน Thai Pop Supreme ประจำ เดือนมิถุนายน ของทาง Apple Music อีกด้วย

จากนางแบบชื่อดังคลุกคลีในวงการแฟชั่นมาตั้งแต่อายุ 14 ปี สู่การก้าวมาเป็นศิลปิน Pop Icon คนต่อไป “มัจฉา” Debut ซิงเกิลแรกเพลง “So What” จนเป็นที่กล่าวถึงในความสวย แซ่บ  “มัจฉาไม่ธรรมดา” กับยอดวิวในยูทูปที่พุ่งเกิน 14 ล้านวิว ตามรอยความฝันการอยากเป็นศิลปิน กับอัลบั้มแรกในชีวิต “DREAMING” ที่มีทั้งหมด 6 เพลง คือ So What , Swipe, Run To You , So Over You (Eng Ver.) , So Over You (Thai Ver.) และ Waste My Time ภายใต้การทำงานกับ Executive Producer คู่ใจ “DABOYWAY” และทีม Producer ชื่อดังที่มาร่วมสร้างสรรค์งานเพลงในแต่ละ Single อย่าง NINO, WILLIE BONES และนักเขียนเพลงรุ่นใหม่ “ปั้น (LUSS) และ นุ้ย (THE PEACH BAND)”  กับดนตรีตามแบบฉบับของมัจฉา คือ เพลงป็อปที่ได้รับอิทธิพลมาจากELECTRONIC,  R&B, HIP-HOP, และ RAP ในคำจำกัดความว่า “DIRTY POP”

อัลบั้ม “DREAMING” ออกแบบมาจากตัวตนของ “มัจฉา” บวกกับความตั้งใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ที่อยากทำให้ทุกคนได้เห็น ได้ฟังเพลง ได้รับความรู้สึกสุด Extra ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และในทุกองค์ประกอบ รวมถึง Performance ท่าเต้นท่าจำ โชว์บนเวที ที่ได้ Choreography มืออาชีพอย่าง “ครูอู๋ เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี” (DDANCE) มาดูแล รวมไปถึงเสื้อผ้า หน้าผม ที่ “มัจฉา” ได้ออกแบบเองร่วมกับ “มี่ MILIN” ที่คิดว่า ต้องเฟียส! ฟาด! ทุกมุมมอง ซึ่ง “มัจฉา” เอง ก็ตื่นเต้นมาก และพูดทิ้งท้ายกับเราไว้ว่า… “ฉาอยากฝากแฟนเพลงทุกคน ติดตามเพลงของฉาทั้ง 6 เพลง ในอัลบั้ม DREAMING นะคะ อัลบั้มในฝันที่เป็นจริงครั้งแรกของฉา เป็นยิ่งกว่าฝันด้วยนะคะ สามารถฟังอัลบั้มเต็มได้แล้วทุก PLATFORM ค่ะ และติดตามผลงานความเคลื่อนไหวของฉาเพิ่มเติมได้ทาง Instagram @Whitefoxgmm @Matcha_cha นะคะ ขอบคุณค่ะ”

สร้างปรากฏการณ์ในโซเชียลมีเดีย และโลกออนไลน์กันอย่างคึกคัก สำหรับโปรเจคพิเศษ “เฉิด X เปา-กิ่งกาญจน์” ที่ได้นักร้องสาว “เปา-กิ่งกาญจน์ ส่องสว่าง” มาร่วมงานกับแบรนด์เฉิด (CHERD) ในการร้องเพลง “เฉิด” และโชว์ลีลาการร้อง-เต้นใน MV เรียกเสียงฮือฮาปลุกกระแสวลี “แค่เฉิดก็เกิดแล้ว”  ฟีเวอร์หนักมาก โดยเฉพาะแคมเปญ “CHERD challenge” (เฉิด ชาเลนจ์) ที่ชวนเอฟซีมาเต้นคัฟเวอร์เพลงเฉิดคู่กับผลิตภัณฑ์แบรนด์เฉิด ลงในแอพพลิเคชั่น TikTok ใครครีเอทได้เริ่ดที่สุด มียอดไลค์มากที่สุด ก็รับรางวัลจากแบรนด์เฉิดไปครอง

สำหรับผู้คว้ารางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 3 ได้แก่  ทีม danzystudio รับรางวัลเงินสดมูลค่า 3,000 บาท รองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ DANCESIJA.bydanzy รับรางวัลเงินสดมูลค่า 5,000 บาท และ รางวัลชนะเลิศได้แก่ candychilli.bydanzy รับรางวัลเงินสดมูลค่า 10,000 บาท ถือเป็นการปิดแคมเปญที่สร้างความสุขให้กับแฟนๆ แบรนด์เฉิดอย่างงดงาม โดย “เปา-กิ่งกาญจน์” เผยว่า “ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ชนะแคมเปญ ในCHERD challenge ทั้ง 3 ทีมด้วยนะคะ แล้วมาร่วมสนุกกันอีกในแคมเปญต่อๆ ไปค่ะ สามารถติดตามข่าวคราวเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ เฉิดประเทศไทย ส่วนสาวๆ ที่ต้องการดูแลผิวหน้าเปาอยากจะบอกว่าผลิตภัณฑ์เฉิด ช่วยให้ผิวหน้าของเปาดีขึ้นมากๆ อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ลองใช้กันดูนะคะ แค่เฉิดก็เกิดแล้ว จริงๆ ค่ะ”

ติดตามข้อมูลแบรนด์เฉิด เพิ่มเติมได้ทาง Line : @Cherd , FB แฟนเพจ : เฉิดประเทศไทย และ www.cherdthailand.com

เป็นวงดนตรีร็อกเจเนอเรชันใหม่  ที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามอง นาทีนี้ต้องยกให้ 5 หนุ่ม วง FOOL STEP  นำโดย มาร์ค – ร้องนำ , ฟร้อนท์ – กีต้าร์ , ตัง – เบส , มิค – กีต้าร์ , แมค – กลอง ค่ายgenie records กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ “Friendไม่ได้แปลว่าแฟน”  เพลงเร็วเพลงแรกของFOOL STEP ที่ดนตรียังคงสไตล์โมเดิร์นร็อกในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งวงรับหน้าที่แต่งเนื้อร้อง-ทำนอง-เรียบเรียงเหมือนเดิม เพลงนี้มีกลิ่นโมเดิร์นร่วมสมัยมากขึ้นและเพิ่มอารมณ์ของความสนุกเข้าไป  มี อ๊อฟ บิ๊กแอส  ทำหน้าที่เอ็กซ์เซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์เช่นเคย  โดย มาร์ค นักร้องนำ เป็นตัวแทนเพื่อนๆเล่าที่มาของเพลงว่า…

เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดูหนังเรื่องนึงที่เกี่ยวกับการแอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่ไม่กล้าบอก จึงทำให้ได้คีย์เวิร์ดของเพลงนี้  มันโดนใจผมมากเลย คือรู้สึกว่าคนรอบๆข้างเจอเรื่องแบบนี้มาเยอะ เพื่อนเราก็เจอ เราก็เห็นอยู่ ตอนเขียนเพลงนี้ผมชอบประโยคนึงมากๆ คือ “ เพื่อนที่เล่นด้วยกัน เพื่อนที่เที่ยวด้วยกัน เพื่อนที่มันเป็นห่วงเธอกว่าใคร เธอก็ไม่ต้องรู้หรอก  ฉันก็ไม่ได้จะบอก กลัวว่าได้คำตอบจะเสียใจ” มันลิงก์กับที่ผมเคยโพสต์ถามแฟนคลับ และเพื่อนหลายๆคนก็เคยเจอแบบนี้ครับ ส่วนมิวสิกวิดีโอได้ทีมHappyland มากำกับ โดยผมก็รับบทแสดงเอง คู่กับนางเอก ต้นข้าว-นนทการ แก้วอบเชย เรื่องราวพูดถึงคู่เพื่อนชายหญิงไปเที่ยวกันที่ปาร์ตี้แห่งหนึ่ง โดยที่ผู้ชายแอบชอบเพื่อนผู้หญิงมาตลอด ดูแลเอาใจใส่ไม่ห่าง แต่เลือกที่จะไม่บอกและแอบมองอยู่ข้างๆด้วยความเป็นเพื่อนเหมือนเดิม และได้เพื่อนในวงมาเล่นในMV.นี้ด้วย

ทุกคนดูสนุกเฮฮามากๆ ซึ่งเพลงนี้เรามีโอกาสได้เปลี่ยนแปลงยกใหญ่ไม่ว่าจะการทำงานเพลง แนวดนตรี โลโก้วง  ลุคใหม่ ทรงผมใหม่ มันดีตรงที่เราได้โตขึ้น แต่ละเพลงก็เหมือนไดอารี่ในช่วงนั้นๆ ที่เราชอบ ช่วงไหนที่เราชอบอะไรก็อาจจะเป็นคล้ายๆแบบนั้น แต่ช่วงนี้เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวเองที่สุดแล้ว ทุกๆอย่างคือเราชอบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ร่วมกันทำงาน ร่วมกันโน่นทำนี่ เขียนเนื้อเพลง  แฮปปี้มาก เพราะมันเป็นตัวเราจริงๆ

ขอฝากแฟนๆทุกๆคน สามารถไปฟังเพลง “Friendไม่ได้แปลว่าแฟน”  ได้ทางช่อง genierock  มิวสิกสตรีมมิ่งทุกช่องทาง เพลงนี้ก็จะได้เห็นเราในสไตล์ใหม่ เป็นสไตล์ที่เราชอบ แล้วก็หวังว่าทุกคนจะชอบเพลงนี้แล้วก็มีความสุขไปกับเพลงนี้นะครับ ขอบคุณครับ

        เกิดอะไรขึ้น!! แฟน ๆตกใจกับภาพปากแตกของศิลปินคนเก่งผู้ครบเครื่องทั้งการร้อง-เล่น(กีตาร์)แถมโดดเด่นด้านแต่งเพลง อย่าง “อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม” แห่งค่าย ไวท์มิวสิก ในเครือ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ฯ  เจ้าตัวไม่รอช้ารีบมาเคลียร์ที่มาการปากแตก!! ว่าเป็นภาพโปรโมต “ปล่อยปาก” เพลงเศร้าเพลงเดียวในอัลบั้ม “GUM” ลองฟังกัน..

             “ครับ เรื่องปากแตก ก็จริงๆคือกิมมิคเล็กๆน้อยๆ หลังจากคุยกันกับทีมผู้กำกับ เอ็มวีฯกับทางค่ายด้วย ก็ตกลงกันว่า เราอยากจะมีแผลที่ปากเพราะเพลงนี้อินเนอร์ คือความเจ็บปวดที่ยังปล่อยไปไม่ได้จริงๆเหมือนเป็นแผลบวกกับชื่อเพลง“ปล่อยปาก”มันเกี่ยวกับปากเลยมีบาดแผลฮะ ส่วนที่มาของเพลงคือ คนปากแข็งอะครับ ปากบอกว่าปล่อยเค้าไป แต่จริงๆ คือ ปล่อยได้แค่ปาก  ปากดีไปยังงั้นแหละ  เราบอกคนอื่นแล้วก็พยายามบอกกับตัวเองว่า เฮ้ยมันไม่เป็นไรจริงๆ แต่ในใจมันกลับไม่ได้อะ มันก็ยังห่วงนึกถึงอยู่ เนื้อเพลงนี้เราเขียนในวันที่เรารู้สึกแย่อยู่  ถ้าเกิดมีเพื่อนคนนึงเดินเข้ามาปลอบเราหรือพยายามจะทำให้เราดีขึ้น มันจะเป็นยังไง เราก็เลยสร้างซีนขึ้นมาให้รู้สึกว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นยังไง และคำที่เราจะพูดกับเพื่อนเราก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ  เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยเป็นเหมือนกัน  ในเอ็มวีฯ เพลงปล่อยปาก จะเป็นเรื่องของเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ออกไปแฮงเอาท์ตามที่ต่างๆ โดยมีหนึ่งคนคือ พระเอกของเราที่อาการแย่ที่สุด เพื่อนๆก็พยายามจะชวนกันทำกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ เพื่อให้ผ่านเรื่องเจ็บปวดนี้ไปให้ได้ ดูเป็นกลุ่มวัยรุ่นซ่าๆไม่อ่อนไหวไม่คิดมากประมาณว่า เจอเรื่องอะไรมาแป๊บเดียวก็ลืม แต่จริงๆทุกคนมีเรื่องในใจ อยู่ที่ว่าจะแสดงออกหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง คือสุดท้ายแล้วเราก็ระบายให้เพื่อนฟังได้บ้างบางส่วน สิ่งที่เราจะบอกกับเพื่อนเสมอ คือ โอเคไม่เป็นไร เรื่องในอดีตไม่มีผลอะไรกับเราเลย แต่ความเป็นจริงเวลาอยู่คนเดียวก็ยังวนอยู่ สิ่งสำคัญคืออยากให้เพลงสื่อสารให้คนเรามูฟออนได้ เพราะถ้าเราไม่บอกตัวเองว่า เดี๋ยวมันจะผ่านไป มันก็ยังวนลูปอยู่ในนั้น ผมฝากเพลง”ปล่อยปาก” ด้วยครับ เป็นเพลงเศร้าเพลงเดียวในอัลบั้น GUM  คัดมาแล้ว (ยิ้ม) อยากให้ได้ฟัง สำหรับทุกคนที่ยังปล่อยเค้าไปไม่ได้จริงๆ ยิ่งอยากให้ลองชมและฟังกันครับ”