web analytics
SIAMNEWSDAY

Thai Designer Fashion Show by Shopee Premium

ช้อปปี้ มอบประสบการณ์เหนือระดับ เอาใจนักช้อปสายแฟคอลแลบ 7 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ จัดเต็มกับคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนรันเวย์ ‘Thai Designer Fashion Show by Shopee Premium’

ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันร่วมกับแบรนด์แฟชั่นจากดีไซเนอร์ชั้นนำของเมืองไทยอย่างASV, ISSUE, Kloset, Milin, Painkiller Atelier, TandT และ Vickteerut จัดแฟชั่นโชว์เปิดตัวแคมเปญ “Thai Designer Fashion Show by Shopee Premium” ให้นักช้อปสายแฟเลือกช้อปคอลเลคชั่นใหม่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงไอเทมชิ้นเด็ดที่ไม่ควรพลาดจากเหล่าดีไซเนอร์ที่คัดสรรมาให้เลือกช้อปบนร้านค้าออฟฟิเชียลที่ Shopee Premium และสามารถช้อปชนิดเรียลไทม์ ผ่านทาง Shopee Live บนช้อปปี้ ส่งตรงจากรันเวย์ ที่ Q Stadium ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

คุณสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เผยว่า “ช้อปปี้ ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ตั้งใจฉลองใหญ่กับแคมเปญ Shopee 10.10 แบรนด์ดัง ปังเต็มสิบ และเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 2 ปี Shopee Premium ส่งมอบประสบการณ์การช้อปออนไลน์เหนือระดับกับแบรนด์ลักซูรีชั้นนำจึงได้ส่งมอบความพิเศษด้วยการเปิดตัว “Thai Designer Fashion Show By Shopee Premium” ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของช้อปปี้ในการผลักดันแบรนด์แฟชั่นไทยให้เติบโตบนโลกดิจิตัลแฟชั่น รวมถึงหมวดหมู่สินค้าแฟชั่นเป็นหมวดหมู่ที่นักช้อปชาวไทยยังให้ความนิยมมาโดยตลอด ดังนั้น ช้อปปี้เข้าใจและต้องการตอบโจทย์ความต้องการของนักช้อปชาวไทยที่รักแฟชั่น และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับ 7 แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากเหล่าไทยดีไซเนอร์ มาร่วมสร้างปรากฎการณ์การช้อปปิ้งเอาใจสายแฟชนิดจัดเต็ม พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษอีกมากมายจากแบรนด์และพันธมิตรชั้นนำ”

ภายในงานพบแฟชั่นโชว์จากแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ ASV โดย พลพัฒน์ อัศวะประภา,  ISSUE โดย ภูภวิศ กฤตพลนาร, Kloset โดย มลลิกา เรืองกฤตยา, Milin โดย มิลิน ยุวจรัสกุล, Painkiller Atelier โดย ภูมิศักดิ์ เฑียรฆประสิทธิ์, TandT โดย ธนาวุฒิ ธนสารวิมล และVickteerut โดย อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ที่ได้ร่วมออกแบบเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นใหม่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการสวมใส่ พร้อมรวบไอเทมเด็ดคัดสรรมาให้ เลือกช้อปบนร้านค้าออฟฟิเชียลที่ Shopee Premium เนรมิตรันเวย์สุดยิ่งใหญ่เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้เหล่านักช้อปสายแฟ โดยมีนักแสดงสาว เดียร์น่า ฟลีโป และสองหนุ่มสุดฮอตตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง พร้อม-ราชภัทร วรสาร และ มาร์ค-ศิวัช จำลองกุล มาร่วมงานด้วย

สำหรับแคมเปญ  “Thai Designer Fashion Show  By Shopee Premium” นักช้อปสามารถเลือกช้อปปิ้งคอลเลคชั่นสุดใหม่เอ็กซ์คลูซีฟและพบกับไอเทมเด็ดคัดสรรโดยเหล่า ไทยดีไซเนอร์ของทั้ง 7 แบรนด์ที่ Shopee Premium พร้อมมอบประสบการณ์รับชมไลฟ์ชนิดเรียลไทม์ส่งตรงจากรันเวย์ ผ่านทาง Shopee Live บนช้อปปี้ และยังสัมผัสกับโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษอีกมากมายจากแบรนด์และพันธมิตรชั้นนำ อย่าง VISA, เมืองไทยประกันภัย, Erbและอีกคับคั่ง

ตามมาช้อปคอลเลคชั่นใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟและพบกับไอเทมเด็ดคัดสรรโดยเหล่า ดีไซเนอร์จากแคมเปญ “Thai Designer Fashion Show  By Shopee Premium” ที่มาพร้อมโค้ดส่วนลดมูลค่าสูงสุด 1,200 บาท  โค้ดส่งฟรี[1] และอีกคับคั่งบนแอปช้อปปี้ได้แล้ววันนี้ที่https://shopee.co.th/m/thaidesigner-fashion-show-10-10-2022

ไม่เพียงเท่านี้เพื่อเป็นการเน้นย้ำการเป็นแฟชั่น เดสติเนชั่น ที่ไร้ขีดจำกัด ตอบสนองความต้องการแฟชั่นทุกลุคทุกสไตล์ ช้อปปี้ชวนช้อปต่อเนื่องผ่านแคมเปญ  Shopee’s Fashion Week by Shopee Trendy  ชวนเหล่าแบรนด์ดังมามอบ โปรโมชั่นพิเศษ โค้ดลดเพิ่ม 12% ส่งฟรี* และโปรแรงอีกเพียบ จากแบรนด์ดังชั้นนำอย่าง H&M, Birkenstock, Lacoste, Merge Official, Sarin และอีกคับคั่ง ไม่เพียงเท่านี้ยังจะได้พบกับสิทธิพิเศษจาก ShopeePay                       

#Shopee1010xThaiDesigner

#ShopeePremiumTH


[1]เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

Tommy Hilfiger

เฉลิมฉลองสาขาใหม่ล่าสุด ณ Central Embassy พร้อมเปิดตัวคอลเลกชัน TH Monogram ผสานกลิ่นอายของ American Heritage เข้ากับ Classic Prep อย่างลงตัว

Tommy Hilfiger (ทอมมี ฮิลฟิเกอร์) แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่นำเสนอเสื้อผ้าแฟชั่นคลาสสิกที่แฝงไปด้วย     ความทันสมัย ภายใต้การนำเข้าของบริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) จัดงานเปิดตัวบูทีกสาขาใหม่ล่าสุด ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้า Central Embassy พร้อมเปิดตัว ‘TH Monogram’ คอลเลกชันประจำ Fall 2022  รังสรรค์ร่วมกับ   เฟอร์กัส เพอร์เซล (Fergus Purcell) กราฟิกดีไซเนอร์และนักวาดภาพประกอบชาวอังกฤษ ผสมผสานกลิ่นอาย ของ American Heritage และยกระดับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่านปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของดีไซน์ 

แบบ Classic Prep พรั่งพร้อมไปด้วยแขกรับเชิญแถวหน้า ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อย่าง ไบรท์ – นรภัทร วิไลพันธุ์,  เน๋ง – ศรัณย์ นราประเสริฐกุล, ญดา – นริลญา กุลมงคลเพชร, พรอยมน มนสภรณ์ ชาญเฉลิมและ จูเนียร์ – ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง ที่ร่วมกันถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์ Tommy Hilfiger ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้   ยังได้รับเกียรติจาก คุณเอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคุณจิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ  กลุ่มสินค้าแฟชั่น บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป

ร้าน Tommy Hilfiger สาขา Central Embassy แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างเต็มเปี่ยม ตกแต่งในสไตล์คลาสสิกอเมริกันด้วยคู่สีน้ำเงิน ขาวและแดง เฉดสีที่เป็นดั่ง DNA ของแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นอเมริกันอย่างชัดเจน ภายในร้านขนาด     131 ตารางเมตร สามารถเลือกชอปสินค้าได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าพรีเมียม รองเท้า แอคเซสซอรีและคอลเลกชันพิเศษที่คัดสรรมาเพื่อสาขานี้โดยเฉพาะ ร้าน Tommy Hilfiger สาขา Central Embassy นับเป็นร้าน Free Standing Store สาขาที่ 4 ของแบรนด์นับตั้งแต่การมาถึงของแบรนด์ในประเทศไทยเมื่อปี 2019 เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาสนใจเทรนด์แฟชั่นเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ Tommy Hilfiger ยังเปิดตัวคอลเลกชัน “TH Monogram” ประจำ Fall 2022 ที่ได้เผยโฉมสู่สายตาทั่วโลกบนเวที New York Fashion Week ที่ผ่านมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คอลเลกชัน “TH Monogram” ได้เฟอร์กัส เพอร์เซล (Fergus Purcell) กราฟิกดีไซเนอร์และนักวาดภาพประกอบชาวอังกฤษมาร่วมออกแบบลายโมโนแกรมดีไซน์ใหม่ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับแบรนด์ โดยนำชิ้นงานไอคอนิกจากดีไซน์เดิมของแบรนด์มาพัฒนาออกแบบให้ตัวอักษร T และ H    เชื่อมกัน ลายโมโนแกรมใหม่นี้จึงผสมผสานความคลาสสิกกับความร่วมสมัย นำไปสู่มุมมองใหม่ของแนวการแต่งตัวสไตล์ Classic Prep และเป็นการดึงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ Tommy Hilfiger ออกมา ส่งผ่านจิตวิญญาณแห่งความล้ำสมัยสู่การแต่งตัว แบบคลาสสิกที่คงกลิ่นอายสไตล์ East Coast ของสหรัฐอเมริกา ผ่านคอลเลกชันเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี กระเป๋าและ  แอคเซสซอรี

เสื้อผ้าจากคอลเลกชันโมโนแกรมนี้ โดดเด่นด้วยเฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ คือสีแดงเบอร์กันดี สีกรมท่าและสีขาว สำหรับเสื้อผ้าประเภทเสื้อกันหนาว เครื่องประดับและสินค้าแบบยูนิเซ็กส์ ลายโมโนแกรมจะกระจายตัวในรูปแบบ All Over Pattern ในขณะที่งานตัดเย็บอื่น ๆ มีดีไซน์แพทเทิร์นแบบฟันปลาหรือ Tonal Lattice สะท้อนจังหวะดีไซน์อันทรงพลังของลายโมโนแกรมรูปแบบใหม่นี้ ลายโมโนแกรม T และ H ในขนาดแตกต่างกันแสดงถึงความไม่สมบูรณ์แบบที่ลงตัว คอลเลกชันนี้จึงเต็มไปด้วยความสุนทรีย์แห่งการพลิกแพลงที่คาดเดาไม่ได้และทำให้งานออกแบบแตกต่างไปจากเดิม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับแบรนด์

ยลโฉมและเลือกชอปคอลเลกชัน TH Monogram และเสื้อผ้าแฟชั่นคลาสสิกที่แฝงไปด้วยความทันสมัยตามแบบฉบับของ Tommy Hilfiger ได้แล้วที่ร้าน Tommy Hilfiger ชั้น 3 ศูนย์การค้า Central Embassy หรือเลือกชอปคอลเลกชัน Fall 2022 ได้ที่     ร้าน Tommy Hilfiger ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Central Online หรือ LINE @TommyHilfiger_th

#WorldOfHilfigerTH #TommyHilfiger #TommyHilfigerTH @Tommyhilfiger

Muse by Metinee x centralwOrld Showcase: The Fashion Citizens 2022

ลูกเกด-เมทินี ร่วมมือกับ เซ็นทรัลเวิลด์ นำทีมนายแบบนางแบบกว่า 150 ชีวิตเดินบนรันเวย์ยาว 80 เมตร ตอกย้ำภาพความเป็น Fashion Destination ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตอบสนองทุกสไตล์ที่สะท้อนตัวตนรับเดือนแห่งแฟชั่นใน Muse by Metinee x centralwOrld Showcase: The Fashion Citizens 2022

เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์สไตล์เดสติเนชันที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งกับวงการแฟชั่นและตอกย้ำการเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิด “Where flagships of fashion meet your passion” สร้างสรรค์แรงบันดาลใจ สะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละคนที่หลากหลายและไร้ขอบเขต พาไปชมภาพบรรยากาศแฟชั่นโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในงาน ‘Muse by Metinee x Central World Showcase: The Fashion Citizens 2022’ ที่จัดขึ้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2565 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ centralwOrld fashiOn citizens 2022 ต้อนรับเดือนแห่งแฟชั่น นำคอลเลกชั่นสุดพิเศษจากแบรนด์ดัง อาทิ Kloset, Disaya, Soda, The Parrot, 24 Kilates, Adidas, Carnival, MLB, Converse, Vans, Central Department Store และจากไทยดีไซเนอร์ ได้แก่  Myriad Grande Monde, Vvon Sugunnasil, Lala Love,  Fri 27 NOV, Warankorn, Tube Gallery มาอวดโฉมในงาน โดยมีบรรดาเซเลบริตี้คนดังที่เป็นขบวนลูกศิษย์ Muse by Metinee หลากหลายวงการ

นำโดย เมทินี กิ่งโพยม พร้อมด้วย รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น,  มาร์ค   กิ่งโพยม, สาวิณี ปะการะนัง นางสาวไทยปี 2527, แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง รองอันดับที่ 1 มิสซูปราเนชันแนล 2022, วนิดา ดอกกุหลาบ รองอันดับ 2 นางสาวไทยปี 2565, ลูกไม้-เมธาวี ทองไทยแท้   รองอันดับ 2 Miss Tiffany Universe 2020,  ธีนฤปกร ม่วงไม้ Mister Supranational Thailand 2022, เรวัติ ชุมรอด Mister Model International Pageant Thailand 2021, บุ๊ค ธีรชยา พิมพ์กิติเดช รองชนะเลิศอันดับ 1 Miss Tiffany’s Universe 2018, ปันปัน นาคประเสริฐ Drag Queen อันดับ 1 ของเมืองไทย, บรรดานางแบบจาก The Face Thailand, สไปรท์ บะบะบิ Blogger, หมอตาตั้ม-ธนพล  หมอตินน์-นภิภพ หมอฟูก- ณชนก หมอโอม ศิลปินจาก Scenario และนายแบบนางแบบจากสถาบัน Muse by Metinee ทั้งหมดกว่า   150 ชีวิตร่วมเดินแฟชั่นโชว์บนรันเวย์ที่มีความยาว 80 เมตร ฝั่ง Balcony on Third

“Muse by Metinee” สถาบันฝึกสอนทักษะและบุคลิกภาพ ซึ่งมอบโอกาสการเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปโดยไม่จำกัดเพศหรือเชื้อชาติ ก่อตั้งขึ้นโดย ลูกเกด เมทินี จากการสั่งสมประสบการณ์เกือบ 3 ทศวรรษในวงการบันเทิง และ fashion รวมเคล็ดลับมาถ่ายทอดและฝึกฝนหนุ่มสาววัยรุ่นเจนเนอเรชั่นใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ ต่อยอด และพัฒนาด้านบุคลิกภาพ พร้อมทีมเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดเทคนิคเตรียมพร้อมสำหรับเส้นทางสายอาชีพนางแบบ นักแสดง นางงาม พร้อมสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ให้ก้าวสู่ทุกความสำเร็จที่ใฝ่ฝันในชีวิต

สำหรับฤดูกาลแห่งแฟชั่นนี้ เซ็นทรัลเวิลด์พร้อมชี้เป้าให้เหล่าแฟชั่นนิสต้ารีบตามมาช้อปให้หนำใจกับหลากหลายแบรนด์ดังในศูนย์การค้า ไม่อยากพลาดความสนุกและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้ อย่าลืมกดติดตาม Facebook fan page: CentralWorld

CPS CHAPS

ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน เปิดตัวคอลเลกชัน “CPS CHAPS X BLOODY BUNNY” ด้วยแรงบันดาลใจจากแอนิเมชันชื่อดัง! ถ่ายทอดสู่เสื้อผ้าแนวสตรีทดีไซน์เท่ ที่ผสานกลิ่นอายเมตาเวิร์สอย่างลงตัว

ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนด้วยสตรีทสไตล์ลุคสุดเท่ไปกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ CPS CHAPS” ในคอลเลกชัน CPS CHAPS X BLOODY BUNNY” ที่หยิบคาแรคเตอร์กระต่ายน้อยสุดโหดจากแอนิเมชั่นชื่อดัง BLOODY BUNNY’ มาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบ พร้อมผสานกลิ่นอายเมตาเวิร์สสุดล้ำ ผ่านลายพิมพ์ซิกเนเจอร์ประจำซีซันที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยยังคงไว้ซึ่งความเท่ ความทันสมัย ตามแบบฉบับของ CPS CHAPS” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

CPS CHAPS” แบรนด์แฟชั่นชั้นนำสัญชาติไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ CREATIVITY. PASSION. SELF.” ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจในการดีไซน์เสื้อผ้าให้ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องการครีเอทลุคให้มีความเท่ และทันสมัย ในสไตล์ที่แตกต่าง สามารถเติมเต็มความมั่นใจได้ในทุกไลฟ์สไตล์

สำหรับความพิเศษของคอลเลกชัน CPS CHAPS X BLOODY BUNNY” คือลายพิมพ์กราฟิกกระต่ายสุดโหด BLOODY BUNNY’ ที่มาพร้อมความเท่สไตล์เมตาเวิร์สบนลายพิมพ์โซ่ สายฟ้า และลายไฟ ตามแบบฉบับ CPS CHAPS” ผ่านเทคนิคการฟอกสีด้วยเคมี (Acid Wash) โดยทีมดีไซน์เลือกใช้เนื้อผ้าที่สวมใส่สบายที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเทนเซลเส้นใยธรรมชาติ (Tencel) ผ้าวิสโคส (Viscose) ผ้าคอตตอนเจอร์ซีย์เนื้อนุ่ม (Cotton Jersey) ผ้าเกล็ดปลาเล็ก (Baby French Terry) ผ้ายืด (Knitting) ผ้าซาติน (Satin) ผ้าเรยอน ไนลอน (Rayon Nylon) และเดนิมสีดำ (Black Denim) โดยมีโทนสีเด่นประจำคอลเลกชันที่จะช่วยให้การมิกซ์แอนด์แมทช์สำหรับฮาโลวีนนี้สนุกขึ้นอย่างแน่นอน อาทิ สีขาวออฟไวท์ (Off White) สีม่วงฟานแดงโก้ (Fandango Purple) สีแดงบลัดดี้ (Bloody Red) และโทนสีเบสิกอย่างสีดำ

โดยไอเทมเด่นประจำซีซันสำหรับสาวๆ แฟนคลับ CPS CHAPS” นั้น ทีมดีไซน์ได้ออกแบบมาตอบโจทย์เหล่าสาวเท่ และยังคงเพิ่มสไตล์ที่สามารถขับเน้นความเปรี้ยวซ่าให้ค่ำคืนแห่งฮาโลวีนนี้เต็มไปด้วยความน่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็น แจ็คเก็ตทวีต (Tweed Jacket) สีดำผสมดิ้นเงิน เพิ่มความเท่ด้วยการตกแต่งโซ่และจี้ CPS CHAPS” พร้อมพิมพ์ลาย BLOODY BUNNY’ ถัดมาที่เสื้อยืดฟอกสีสุดแนวพิมพ์ลาย BLOODY BUNNY’ ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกวัน รวมถึงเซ็ตลายพิมพ์สุดคูลที่มีทั้งเดรสสั้น เสื้อเชิ้ตแขนยาว เสื้อฮาวาย เสื้อแขนยาวผ้ายืด เสื้อสายเดี่ยว ที่สามารถแมทช์เข้าคู่กับกระโปรงตัวเก๋ กางเกงขายาวหรือขาสั้นได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีกางเกงยีนส์ขายาวและกางเกงทรงขาบาน (Split Hem) ที่ตกแต่งอะไหล่เงินบริเวณช่วงเอว เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเพิ่มความเซ็กซี่ นอกจากนี้ยังมีฮูดดี้ (Hoodie) ที่สามารถจับคู่กับกางเกงทรงแทรคแพนท์ (Track Pants) ซึ่งโดดเด่นด้วยสีม่วงฟานแดงโก้ทั้งเซ็ต (Fandango Purple) มาพร้อมลายพิมพ์ BLOODY BUNNY สีดำด้วยเทคนิคการปักผ้ากำมะหยี่

ด้านหนุ่มๆ ทาง CPS CHAPS” ได้หยิบยกเอาสไตล์การทำกราฟิกแนวมิลเลนเนียม (Millennium) ที่ใช้ไฟและสายฟ้ามาผสมผสานเข้ากับลายพิมพ์เด่นประจำคอลเลกชันอย่าง BLOODY BUNNY’ ประกอบกับสไตล์การวางเลย์เอาท์แบบเสื้อวงร็อคเมทัล จึงทำให้คาแรคเตอร์ของกระต่ายน้อยสุดโหดมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เมื่ออยู่บนเสื้อผ้าของ CPS CHAPS” โดยมีชิ้นเด่นคือแจ็คเก็ตเดนิมลายพิมพ์ไฟสุดเท่และกางเกงยีนส์ทรงลูสฟิต (Loose Fit) ที่สามารถสวมใส่ได้อย่างคล่องตัว รวมถึงเซ็ตฮูดดี้ (Hoodie) เสื้อโปโล และกางเกงขาสั้น ไอเทมคลาสสิกสำหรับการสร้างสรรค์สตรีทลุค นอกจากนี้ยังมีเสื้อฮาวายและเสื้อยืดพิมพ์ลายในหลากหลายรูปแบบที่สามารถหยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร

นอกจากนี้ CPS CHAPS” ยังได้แนะนำเคล็ดลับการแต่งตัวสำหรับไปปาร์ตี้ในค่ำคืนแห่งฮาโลวีนว่า สำหรับผู้หญิงที่อยากได้ลุคคล่องแคล่วแต่ต้องการแฝงความเซ็กซี่เอาไว้แนะนำให้หยิบเดรสสั้นคอถ่วงที่มีจุดเด่นอยู่ที่ลายพิมพ์สไตล์เมตาเวิร์สมาแมทช์กับรองเท้าบูทก็จะได้ลุคปารตี้ที่ดูสนุกและน่าสนใจขึ้น หรือถ้าใครต้องไปดินเนอร์ด้วยอาจจะหยิบแจ็คเก็ตทวีตมาคลุมทับแล้วคอมพลีทลุคด้วยกระเป๋าเท่ๆ สักใบก็เอาอยู่แล้ว สำหรับคนที่ไม่ถนัดการใส่กระโปรงแนะนำให้หยิบกางเกงขาบานทรง Split Hem ที่มีการตกแต่งอะไหล่เงินบริเวณช่วงเอว เพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับค่ำคืนของงานปาร์ตี้ มาแมทช์กับเสื้อแขนยาวที่มีการดีไซน์ให้เผยช่วงไหล่และบริเวณต้นคอ พร้อมเติมเต็มลุคด้วยบูทยาวคู่โปรด สำหรับผู้ชายสามารถหยิบเสื้อยืดลายพิมพ์ฟอกสีเท่ๆ มาใส่กับจ็อกเกอร์แพ้นท์เข้าสีกันแล้วแมทช์กับบูทก็จะได้ลุคเท่ๆ ตามแบบฉบับหนุ่ม “CPS CHAPS” หรือถ้าใครอยากได้ลุคที่ทางการขึ้นสามารถหยิบยีนส์ทรงลูสฟิตมาใส่คู่กับเสื้อฮาวายแล้วทับด้วยแจ็คเก็ตเดนิมลายพิมพ์ไฟเท่ๆ ก็จะได้ลุคที่ดูจัดจ้านขึ้น

ช็อปคอลเลกชันสุดพิเศษ CPS CHAPS X BLOODY BUNNY” ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน “CPS CHAPS” ทุกสาขา และออนไลน์ www.cpschaps.com หรือ Chat & Shop Hotline 02-367-2070

KARL LAGERFELD

เปิดตัวคอลเลกชั่น “คาร่า เลิฟ คาร์ล” (CARA LOVES KARL)เสนอผลงานสร้างสรรค์ระหว่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ และ คาร่า เดเลวีน

KARL LAGERFELD (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) แบรนด์แฟชั่นลักชูรีจากดีไซเนอร์ระดับตำนาน นำโดย พรเดช   จันทวานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีเอที ลักซูรี่ คอนเซป จำกัด จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่น “CARA LOVES KARL” (คาร่า เลิฟ คาร์ล) คอลเลกชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจุดเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์ระหว่าง        KARL LAGERFELD (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) และ Cara Delevigne (คาร่า เดเลวีน) ซูเปอร์โมเดลมากความสามารถ รังสรรค์สู่คอลเลกชั่นดีไซน์ล้ำสมัยที่ออกแบบภายใต้วิสัยทัศน์แฟชั่นไร้เพศ (gender-neutral) และส่งเสริมความยั่งยืน (sustainable)  อีกทั้งคงเสน่ห์สุนทรียะ Parisian-chic ไว้อย่างสมบูรณ์ ณ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ชั้น 1 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

“พรเดช จันทวานิช” กล่าวว่า “คอลเลกชั่นพิเศษนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความหลงใหลที่มีร่วมกันระหว่าง คาร์ล และ คาร่า ผู้ที่คาร์ลเห็นว่าเป็นมากกว่าซูเปอร์โมเดล นักแสดง หรือนักรณรงค์ชื่อดัง แต่นับเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว TEAM KARL ความโดดเด่นที่เราจะเห็นในคอลเลกชั่นนี้คือ การนำวัสดุที่ส่งเสริมความยั่งยืน รวมถึงไอเทมต่างๆ ที่ไร้ข้อจำกัดทางเพศ มาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการรังสรรค์ ซึ่งจุดยืนทั้งสองนี้สะท้อนค่านิยมที่ คาร่า และแบรนด์ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มีร่วมกันได้เป็นอย่างดี”

ด้วยความสัมพันธ์พิเศษระหว่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ และ คาร่า ที่เป็นมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวแทน หรือ “มิวส์” (muse) คาร์ลรักและชื่นชมคาร่า ผู้เปี่ยมด้วยความหาญกล้าและความท้าทาย ขณะที่คาร่ายกย่องคาร์ลในฐานะที่ปรึกษาและคนสนิท ผู้มอบความกล้าหาญและอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเอง จากความผูกพันแสนพิเศษระหว่างทั้งคู่กลายเป็นแรงบันดาลใจที่นำไปสู่แคปซูลคอลเลกชั่น “คาร่า เลิฟ คาร์ล” (CARA LOVES KARL) แคปซูลคอลเลกชั่นพิเศษนี้    ชูจุดเด่นไอเทมระดับพรีเมียมที่แตกต่างและปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ (transformable) ท่ามกลางไอเทมชิ้นอื่นๆ ในคอลเลกชั่นที่มอบทางเลือกในการสไตลิ่งหลากหลายรูปแบบด้วยเสื้อผ้าเพียงหนึ่งชิ้นซึ่งนับเป็นวิธีการช่วยลดผลกระทบโดยรวมต่อการบริโภคและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

อาทิ เสื้อกั๊กสูททักซิโด้ตัวยาวดีไซน์เท่ที่ตัดเย็บด้วยวัสดุรีไซเคิลเกรดพรีเมียมซึ่งสามารถสวมใส่แบบซ้อนเลเยอร์หรือแบบชิ้นเดี่ยวเป็นชุดกระโปรงเหนือเข่า, ไบเกอร์แจ็คเก็ตบุขนแกะเทียมนุ่มสบาย มาพร้อมกับส่วนแขนแจ็คเก็ตที่สามารถถอดออกได้เพื่อปรับซิลูเอตให้กลายเป็นเสื้อกั๊ก, เสื้อเชิ้ตขาวไอคอนิกของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ที่ถูกนำมาผ่านการตีความใหม่ด้วยแนวคิดล้ำสมัยและสามารถแปรเปลี่ยนเป็นซิลูเอตแบบสั้น ขณะที่เชิ้ตขาวแบบแพทเทิร์นคู่ (bi-pattern) สามารถสไตลิ่งด้วยการปลดกระดุมด้านหลังเพื่อสร้างสรรค์ลุคที่ดูขี้เล่นและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี  แอคเซสซอรีที่มีความหลากหลายและออกแบบด้วยแนวคิดที่เหมาะสมกับทุกเพศ โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ วัสดุผ้าไนลอนรีไซเคิลและผ้าฝ้ายออร์แกนิก นำเสนอผ่านกระเป๋าคาดเอวผ้าไนลอนพับเก็บได้ มีขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย ขณะที่กระเป๋าสะพายข้างแบบครอสบอดี้นำแรงบันดาลใจมาจากงานออกแบบกระเป๋ารุ่น “เคแอล เซเว่น” (KL seven) และเพิ่มลูกเล่นด้วยกลิ่นอายแบบสปอร์ต ด้านกระเป๋าทรงแซทเชลและทรงคาเมราก็ล้วนใช้วัสดุขนแกะเทียมนุ่มฟูที่เข้ากับหลากหลายลุค

โดยภายในงานได้รับเกียรติจากคนดังอย่าง มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์, มุกดา นรินทร์รักษ์, แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส และ สุลักษมิ์ ศิริภัทรพงศ์ มาร่วมงานในโททัลลุคจาก KARL LAGERFELD

สัมผัสปรากฏการณ์แฟชั่นครั้งใหม่กับแคปซูลคอลเลกชั่น CARA LOVES KARL ได้ที่ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ แฟลกชิป     สโตร์ ชั้น 1 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

“Siam Discovery The Future of Fashion”

สยามดิสคัฟเวอรี่เผยเทรนด์แฟชั่นโลก ชวนค้นพบสไตล์ที่เป็นคุณ ในงาน “Siam Discovery The Future of Fashion”

            สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม  ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำทางด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย พร้อมให้ทุกคนเข้ามาค้นพบ (Experiment), สร้างสรรค์ (Create) และพัฒนา (Cultivate) ได้อย่างไม่รู้จบ เป็น Lifestyle Lab ที่ทุกตารางเมตรเต็มไปด้วยแฟชั่นที่น่าจับตามอง มอบประสบการณ์ค้นหาสไตล์ในแบบที่เป็นคุณ เปิดเทรนด์แฟชั่นในงานSiam Discovery The Future of Fashion” พบกับกูรูด้านแฟชั่น ปู-ชำนัญ ภักดีสุข, ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ และ กานดา สายทุ้ม มาเจาะกระแสเทรนด์แฟชั่นโลกที่แฟชั่นนิสต้าห้ามพลาด พร้อมมาอัพเดทเสื้อผ้าแฟชั่นอิมพอร์ตมาแรงใน Discovery Selection ตอบโจทย์ความต่างหลากหลายสไตล์จากแบรนด์แฟชั่นทั่วโลกทั้งผู้หญิงและผู้ชายในทุกคาแรคเตอร์ให้ทุกคนเข้ามาค้นพบสไตล์และดีไซน์ที่เหมาะกับตนเองได้ทุกพื้นที่จาก Her Lab ชั้น G, His Lab ชั้น M และ Street Lab ชั้น 1 ในสยามดิสคัฟเวอรี่

          โดย 3 กูรูด้านแฟชั่นได้มาเผยถึงเทรนด์แฟชั่นโลก และการปรับแฟชั่นให้เหมาะกับสไตล์ของแต่ละคนเริ่มจาก ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ ที่เล่าถึงสีสันต่างๆ ที่กำลังจะมาแรงสำหรับซีซั่นหน้าว่า “เรื่องเทรนด์สีสำหรับสปริง-ซัมเมอร์ 2023 สีที่มาแรงคือสีม่วง ที่เรียกว่า ม่วงดิจิตอลลาเวนเดอร์ เป็นสีม่วงใสๆ ให้ความสงบจากในภาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด นอกจากนั้นก็ยังมีสีที่ช่วยเติมเอนเนอจี้ให้กับการแต่งตัว อย่าง สีแดง สีเหลือง สีฟ้าให้ความสดชื่นเกิดความบาลานซ์ รวมไปถึงสีเขียวที่ช่วยในเรื่องของการบูสเอนเนอจี้ ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อสวมใส่”

            ด้าน ปู-ชำนัญ ภักดีสุข ได้กล่าวสร้างแรงบันดาลใจ และอยากให้ทุกคนสนุกกับแฟชั่นว่า “เทรนด์ 2023 คือ คำว่า Revolution Fashion ที่มีผลมาจากปัจจัยทางด้านวัฒนธรรม ดนตรี คนไทยเป็นคนที่ปรับตัวเก่ง สังเกตได้ว่าแฟชั่นของเราไม่ได้เปลี่ยนทุกซีซั่น แต่จะเปลี่ยนตามตัวแปรของสภาพอากาศและสังคม ความสนุกในการแต่งตัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อะไรก็ตามที่ทำให้สนุกและมั่นใจที่จะสวมใส่นั้นดีที่สุดแล้ว”

            ปิดท้ายที่ กานดา สายทุ้ม กูรูและแฟชั่นนิสต้า ได้แนะนำไอเท็มสำคัญที่จะต้องมีติดตู้และบิ้วท์ความกล้าที่จะลองสนุกกับแฟชั่นให้ล้ำกว่าใคร ว่า “ไอเท็มที่ต้องมีติดตู้คือไอเท็มคลาสสิคอย่าง เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ สองไอเท็มนี้สามารถแมทช์กันง่าย นอกจากนั้นเราก็ไปเติมไอเท็มอื่นๆ ที่ทำให้การแต่งตัวสนุกขึ้น คำว่า “แฟชั่น” เราสามารถเปิดใจลองดูได้ ถ้าลองแล้วเวิร์กก็เท่ากับเราได้สนุกกับการแต่งตัว แต่ถ้าไม่แฮปปี้ก็กลับไปแต่งในสิ่งที่เราคิดว่าโอเค อย่างน้อยเราได้ลองแล้ว แฟชั่นไม่มีผิดถูก ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย”

นอกจากจะเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นแล้ว สยามดิสคัฟเวอรี่ยังเป็นศูนย์รวมอินเตอร์แบรนด์สุดฮอตจากทั่วโลก โดยคัดสรรแบรนด์แบบเอ็กซ์คลูซีฟมาให้อัพเดทมากมาย ทั้งแบรนด์ชั้นนำมากมายระดับโลกจาก Club21 และ Club21 Multi-label Store ที่รวบรวมหลากหลายแบรนด์ยอดนิยมจากทั่วทุกมุมโลก เรียกได้ว่าเป็นแล็ปที่รวบรวมแบรนด์ใน Club21 สุดยิ่งใหญ่มาให้ยลโฉมเลยทีเดียว

สำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นอิมพอร์ตมาแรงใน Discovery Selection เริ่มตั้งแต่แบรนด์ BAUM UND PFERDGARTEN (โบมอุนด์เฟดกาเท่น) กับคอลเลคชั่น Pre-Fall 2022 ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดของศิลปินชาวเดนมาร์ก โดยดีไซเนอร์ของแบรนด์ได้หยิบภาพวาดในปี 1912 ที่มีชื่อว่า A Mountain Climber ซึ่งเป็นภาพวาดของภรรยาของตัวศิลปินเองกับวิวของเทือกเขา Alpine ในรูปแบบ Expressionism ที่มีการใช้สีชมพูและฟ้าแทนที่สีโดยธรรมชาติของ Landscape ด้านหลัง และใช้สีที่สดใสขึ้นในการเล่นแสงและเงาที่ตกกระทบตัวภรรยาของเขา โดยไอเท็มที่เป็นไฮไลท์จะเป็นเสื้อและกางเกงลายปรินต์ที่ดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากฝีแปรงที่ชัดและสีใช้ในรูปวาด และทางแบรนด์ได้เพิ่มไอเท็มจาก Denim และผ้า Jacquard ให้ตัดกับไอเท็มตัวในอื่นๆ จากผ้าไหม

            Ganni ช่วง Pre-Fall ทางแบรนด์ให้สาวๆ ได้สนุกสนานไปกับการแต่งตัวด้วยโทนสีสันสดใสกับ NOSTALGIA TRIP (นอสตัลเจีย ทริป) โดยจะมีไลน์ของชุดว่ายน้ำที่เพิ่มมากขึ้น และชุดว่ายน้ำทั้งหมดจะใช้ 100% Certified Recycled Materials หรือ Regenerated Nylon Yarn อีกด้วย รวมทั้งมีไอเท็มหลักที่ใช้ลายเสือ หนึ่งในซิกเนเจอร์ของแบรนด์และลายใหม่อย่างลายดอกไม้รูปทรงเพชร ซึ่งรูปทรงนี้เป็นลวดลายใหม่ของแบรนด์ และมีการใช้กับทั้งปก Cut Out รวมถึงกระดุมต่างๆ

            แบรนด์ Suncoo แฟชั่นของผู้หญิงจากปารีสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ การออกเดินทางท่องเที่ยว สถาปัตยกรรมและชีวิตของหญิงสาวสไตล์ปารีเซียง ที่มีดีไซน์สำหรับสาวแรกรุ่นสมัยใหม่ไปจนถึงผู้หญิงทำงาน โครงเสื้อชัดเจน ลายพิมพ์สีจัดจ้าน และแฝงความเฟมินีน

นอกจากนี้ แฟชั่นผู้หญิงยังมีอีกหลากหลายแบรนด์มากมาย อาทิ YaYa ได้รับแรงบันดาลใจจาก การท่องเที่ยว ดีไซน์ที่เข้าถึงง่าย สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน, Acler เน้นลูกไม้ระบาย เสื้อผ้าทรงหลวมใส่สบาย และเสื้อผ้าที่มีความเป็น Scrupture ราวกับงานศิลปะบนเรือนร่างของสาวๆ ที่สวมใส่

ด้านแฟชั่นผู้ชาย สยามดิสคัฟเวอรี่ ได้นำเสนอลุคที่มีสไตล์ที่แตกต่าง และสร้างความโดดเด่นได้แบบไม่ธรรมดา เริ่มกันที่ ADER ERROR (เอเดอร์ เออเร่อร์) กับ Fall / Winter Collection โดยการใช้ลายเส้นตรงและโค้งออกแบบผสนานเป็นโครงสร้างเสื้อผ้า และมีการสร้างความหนาและรูปแบบที่หลอกตา ผ่านดีเทลต่างๆ เช่น การตัดเย็บที่ไม่สมมาตร การเย็บแบบตีเกล็ด พร้อมกับเสื้อเบลเซอร์ เสื้อยืด และหมวกแก๊ป ที่นำลายเส้นทะแยงมุมมาออกแบบให้ลายมีลูกเล่น, ด้านแบรนด์ HOLZWEILER (โฮลซ์ไวเลอร์) ในฤดูกาล Pre-Fall 2022 นี้ เป็นคอลเลคชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาผ่านการเต้นรำและดนตรี เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ง่าย เช่น ผ้าเดนิม กางเกงวอร์ม เสื้อถักรับซัมเมอร์ เสื้อถักโครเชต์และเสื้อฮู้ดโอเวอร์ไซส์ และแบรนด์ผู้ชายอิมพอร์ตอื่นๆจาก Discovery Selection อีกมากมาย อาทิ BARN OUTFITTER, ANDERSSON BELL, WAX LONDON, Ambush, Suicoke ที่พร้อมให้ทุกคนมาค้นหาสไตล์ได้อย่างไม่เหมือนใคร

ไม่เพียงเท่านี้ยังคงมีอีกหลากหลายแบรนด์ดังที่พร้อมให้ทุกคนมาค้นพบสไตล์อีกมากมาย อาทิ Outcast Starwalk, Von Doren, Fred Perry, Soul4street, Mad Matter, Component, Saucony, Teva และ Gramicci

พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษกับ Siam Discovery Fashion Sensation สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp เมื่อช้อปสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการในสยามดิสคัฟเวอรี่ครบ 12,000.- ขึ้นไป แลกรับ 500 VIZ Coins ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2565

ASAVA

ASAVA Autumn/Winter 2022 Collection

“Time to focus on what matters”

Asava (อาซาว่า) นำโดย หมู – พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง Asava Group เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด “Asava Autumn/Winter 2022 Collection” ในงานSiam Paragon Bangkok International Fashion Week 2022 ณ ลานพาร์ค พารากอน โดยผลงานการออกแบบคอลเลกชั่นประจำปี 2022 ในครั้งนี้ Asava มาพร้อมกับนิยามใหม่อย่าง “Time to focus on what matters” ที่เลือกถ่ายทอดมุมมองและความหมายของคำว่า ‘โฟกัส’ อันเกิดจากการพินิจและสำรวจลงไปถึงแก่นแท้ของรากฐานที่แท้จริงของแบรนด์ การโฟกัสที่เปรียบเสมือนการกำหนดรูปแบบและวิถีการใช้ชีวิต ให้เราไม่ไขว้เขวไปตามการเปลี่ยนแปลงหรือสิ่งเร้าในระหว่างทาง เพราะเทรนด์แฟชั่นอาจไม่สำคัญเท่ากับสไตล์หรืออัตลักษณ์เฉพาะบุคคล เช่นเดียวกับวิธีการทำงานของแบรนด์ที่เริ่มจากจุดตั้งต้นของปรัชญาที่ชัดเจน และสามารถพัฒนารูปแบบของผลงานให้มีความหลากหลายบนพื้นฐานของความเรียบง่าย ละเอียดอ่อน แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ผสานกับแนวคิดของผู้หญิงในแบบฉบับอาซาว่าที่ยึดมั่นและโฟกัสในตัวตนและความปรารถนาที่แท้จริง ผ่านการดำเนินชีวิตในแบบที่ตนเองเป็นผู้กำหนด

                อาซาว่าจึงเชื่อว่าเมื่อการโฟกัสของทั้งสองสิ่งระหว่างจิตวิญญาณของผู้สวมใส่และเสื้อผ้ามาบรรจบกัน ก็ยิ่งเป็นการขับเน้นให้ตัวตนของผู้หญิงคนนั้นมีความชัดเจนและกระจ่างชัด สะท้อนผ่านสไตล์การแต่งตัวที่มีความชัดเจนในหลากหลายรายละเอียดและองค์ประกอบที่สามารถสวมใส่ได้จริงในหลายโอกาส แต่ยังคงความเรียบหรู คลาสสิก ที่ไม่ว่าใครได้สวมใส่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสง่างามในแบบของตน

            หมู – พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง Asava Group กล่าวว่า “แนวคิดในการออกแบบโครงชุดใน  คอลเลกชั่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์ในการผสมผสานกันระหว่างองค์ประกอบที่มีความเป็นมาสคิวลีน (Masculine) และเฟมินีน (Feminine) เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังพัฒนาโครงชุดที่เป็นดีเอ็นเอของแบรนด์ให้มีรูปแบบที่แปลกใหม่และหลากหลาย ไปจนถึงลุคลำลอง โดยจุดเด่นของโครงชุดในคอลเลกชั่นนี้คือการสร้างวอลุ่ม (Volume) ของเสื้อผ้าทั้งในส่วนของแขนเสื้อและกระโปรงที่ช่วยส่งเสริมรูปร่างของผู้สวมใส่ให้ดูสง่างาม ซึ่งเป็นการสร้างมิติที่น่าสนใจให้กับเสื้อผ้า อีกทั้งเทคนิคในการออกแบบคอลเลกชั่นนี้ก็ยังคงใช้เทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาต่อยอดในหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยสร้างมิติให้กับลุคโดยรวม และในคอลเลกชั่นนี้นอกจากสีเอกลักษณ์ของแบรนด์แล้ว เรายังมีการเลือกใช้สีพิเศษ เช่น สีฟ้าเบบี้บลู (Baby blue) สีม่วงลาเวนเดอร์ (Lavender) และสีโทนพาสเทล มาช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับคอลเลกชั่นนี้ได้อย่างลงตัว”

                ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญร่วมงาน อาทิ วิริฒิพา ภักดีประสงค์, เดียร์น่า ฟลีโป, แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด, เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร, เข็มอัปสร สิริสุขะ, ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช เป็นต้น

                พบกับ Asava Autumn/Winter 2022 Collection ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ชั้น 1 โซนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์การค้าเอมโพเรียม,ชั้น 1 โซนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 2 โซนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม, ชั้น 2 โซนไทยไทย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ และ อาซาว่ากรุ๊ป แฟลกชิปสโตร์ ซ.สุขุมวิท 45 รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ Website : https://asavagroup.com/product-category/asava/collection/aw-2022/, Line Official : @asavagroup,
Lazada : https://bit.ly/ASAVA-LAZADA, M Online : https://monline.com/th/asava, Central Online : https://www.central.co.th/th/asava/women, Facebook : https://www.facebook.com/asavathailand/ และ Instagram : https://www.instagram.com/asavagroup/

@asavagroup #AsavaAW22

TandT

AUTUMN/WINTER 2022 “CHILDHOOD MEMORIES”รำลึกถึงของเล่นวัยเด็ก ‘ตุ๊กตากระดาษ’ ผ่านโครงเสื้อผ้าสไตล์วิคตอเรียน

            ทีแอนด์ที (TandT) พาย้อนกลับไปสู่วัยเด็ก กับแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลกชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว2022 อันได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำอันแสนสนุกในชีวิตวัยเด็กของ คุณนุ๊ก-ธนาวุฒิ ธนสารวิมล ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ ประจำแบรนด์ทีแอนด์ที (TandT) ที่เลือกพูดถึงความรักที่มีต่อ “ตุ๊กตากระดาษ” ของเล่นวัยเด็กที่เปิดโอกาสให้เขาได้ลองสวมใส่เสื้อผ้ากระดาษจำลองบนร่างตุ๊กตา และได้กลายมาเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาโตขึ้นมาเป็นคนทำเสื้อผ้าให้กับผู้หญิงตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา และเพื่อย้อนรำลึกถึงของเล่นวัยเด็กที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในงาน ที่ทำ จึงเลือกเล่าเรื่องตุ๊กตากระดาษผ่านคอลเลกชั่น AUTUMN/WINTER 2022 “CHILDHOOD MEMORIES” คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดที่นำเสนอเสน่ห์ของความเฟมินีนผ่านโครงสร้างชุดในรูปแบบต่างๆ อย่างมีเอกลักษณ์

อิทธิพลของตุ๊กตากระดาษในการทำเสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้สะท้อนผ่านการวาดโครงเสื้อผ้าด้วยเส้นกรอบนอกสีดำ ด้วยการเดินกด รูดระบาย และประกอบขึ้นมาเป็นโครงสร้างชุดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีแอนด์ที จากนั้นนำมาสวมทับบนโครงชุดที่มีความพองและบาน พร้อมการสอดแทรกลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ จากรายละเอียดของตุ๊กตากระดาษที่มีเพียงแค่มิติเดียวให้เห็นสมบูรณ์เพียงด้านหน้า

แต่ด้านหลังถูกตัดแบน ทำให้เกิดเป็นลูกเล่นของชุดที่ชิ้นหน้าและชิ้นหลังแตกต่างกันเหมือนกับใส่เสื้อผ้าต่างชิ้น โดยของตกแต่งหลักบนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ ได้แก่ “โบว์” สัญลักษณ์ของการผูกหรือการมัด เช่นเดียวกับเวลาที่เราสวมใส่เสื้อผ้าให้ตุ๊กตากระดาษด้วยการสอดหรือพับมุมกระดาษ เพื่อให้ตัวชุดถูกผูกติดกับตัวตุ๊กตา นอกจากนี้ยังมีการใช้โบว์เป็นแบบในการสร้างรายละเอียดอื่นๆ ของเสื้อผ้า

เช่น คัตติ้งรูปทรงโบว์ เทคนิคการกด รูดระบายเดินเป็นรูปทรงโบว์ การแทรกโบว์ตรงตะเข็บด้านข้างของเสื้อผ้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของเสื้อผ้าเข้าด้วยกัน และลายพิมพ์ที่ดึงเอาส่วนประกอบของโบว์เข้ามาผสมกับตุ๊กตาเด็กผู้หญิงวางเรียงต่อกันเหมือนกับการตัดกระดาษ รวมถึงการเลือกใช้สีสันพิเศษแบบไร้ขีดจำกัดที่แสดงถึงทัศนคติของผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งสะท้อนนิยามความเป็นทีแอนด์ทีผ่าน 3 คีย์เวิร์ดอย่าง Lavish / Rebellious / Gorgeous ที่อธิบายได้ว่า Lavish คือ ความหรูหราฟุ่มเฟือย Rebellious คือ ความขบถ ขัดแย้ง และ Gorgeous คือความเฉิดฉายที่มีอยู่ในตัวของผู้หญิงแต่ละคน

ภายในงานเนรมิตรันเวย์ให้งดงามเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว ‘ตุ๊กตากระดาษ’ ที่เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชั่น ‘CHILDHOOD MEMORIES’ ผ่านคนดังอย่าง แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส ที่พาเราย้อนอดีตไปสู่วัยเด็กและความพิเศษของคอลเลกชั่นนี้ คือการร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของแบรนด์ทีแอนด์ที บนเวที BIFW 2022 (Bangkok International Fashion Week 2022) ที่ถ่ายทอดโชว์ด้วยบรรยากาศเสมือนงานแต่งงาน โดยมีผู้ชมเปรียบเสมือนผู้มาร่วมแสดงความยินดีและได้ย้อนรำลึกถึงของเล่นวัยเด็กอย่างตุ๊กตากระดาษ ผ่านโครงเสื้อผ้าสไตล์วิคตอเรียนที่มีความฟู่ฟ่า หรูหรา เต็มไปด้วยเทคนิคที่ปราณีตทุกรายละเอียด สอดแทรกความขบถที่ซ่อนอยู่ของความเป็นทีแอนด์ที ด้วยการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ที่มีความขัดแย้งกัน ด้วยรองเท้าที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน ถึงความเท่ เนี้ยบ และคลาสสิคกรันจ์ อย่างรองเท้า Dr. Martens (ดร.มาร์ตินส์) คือความลงตัวที่แปลกใหม่ เข้ากับทุกสไตล์และทุกลุคบนรันเวย์นี้

โดยได้รับเกียรติจากดารานักแสดง อาทิ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง, จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน, เมทัล สุขขาว, พลอย หอวัง, กวาง-วรรณปิยะ ออมสินนพกุล, เบลล์-เขมิศรา พลเดช, เฟิร์น-นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล, วิว-วรรณรท  สนธิไชย, ไอซ์-อามีนา กูล, คารีสา สปริงเก็ตต์, แพรว- เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค, เตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ,นัตตี้-นันทนัท ฐกัดกุล และดรีม-อภิชญา พานิชตระกูล ฯลฯ มาร่วมชมคอลเลกชั่นใหม่กันอย่างคับคั่ง

มาร่วมสนุกสนานไปกับการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีความสง่างามเหนือกาลเวลา และแฟชั่นโชว์กับ TandT  คอลเลกชั่น AUTUMN/WINTER 2022 “CHILDHOOD MEMORIES” ได้แล้ววันนี้ที่ ทีแอนด์ที ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Line Official Account @tandtbangkok

#TandTChildhoodmemories

#TandTAW22

#TandTBIFW2022

POEM

สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการแฟชั่นไทย! ในงานแฟชั่นโชว์ เปิดตัวคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2022 ที่ชื่อว่า “เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) กับการรวมตัวคนดังหลากหลายวงการที่มาร่วมเฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายทางความคิด

สั่นสะเทือนวงการแฟชั่นไทย! เมื่อแบรนด์เสื้อผ้าสตรีหรู “โพเอม” (POEM) จัดแฟชั่นโชว์อวดโฉมเสื้อผ้าคอลเลกชั่น ออทั่ม/วินเทอร์ 2022 ที่ชื่อว่า “เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) ซึ่งนับเป็นผลงานการดีไซน์ล่าสุดของครีเอทีฟไดเรคเตอร์ฝีมือเฉียบ ฌอน–ชวนล ไคสิริ จากแรงบันดาลใจอันไร้ขีดจำกัดที่สะท้อนมาจากความหลากหลายทางความคิดในยุคปัจจุบัน “โพเอม” (POEM) จึงได้หยิบยกเทคนิคการออกแบบชุดสูทโพเอม เมนส์แวร์ (POEM Menswear) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การตัดเย็บด้วยมือ (Handcraft Tailoring) มาเป็นแนวคิดหลักในการดีไซน์ชุดสำหรับสุภาพสตรีในคอลเลกชั่นนี้ โดยการนำมาปรับโครงสร้างและเพิ่มแมททีเรียลใหม่ๆ ผสมผสานกับการใช้คอร์เซ็ตและซิลลูเอทอันเย้ายวนที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์ ถ่ายทอดสู่คอลเลกชั่น “เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) ที่เหมาะกับรูปร่างของผู้หญิงทุกคน! 

โดยจากแนวคิดของคอลเลกชั่นได้ถูกถ่ายทอดผ่านคอนเซ็ปต์ของแฟชั่นโชว์ที่ ฌอน–ชวนล ไคสิริ ได้ดึงเหล่าคนดังจากหลากหลายวงการมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่บนรันเวย์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากวงการการศึกษา รศ.ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ และวงการบันเทิง ได้แก่ ซินดี้-ไบรอน บิชอพ, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย, ซิลวี่–ภาวิดา มอริจจิ, ช่า-ธีร์ธวิต เศรฐไชย, แอนนา เสืองามเอี่ยม, นิ้ง-โศภิดา จิระไตรธาร, น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์, มารีญา พูลเลิศลาภ, อแมนด้า-ชาลิสา ออบดัม, แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส, นาตาลี เกลโบวา, แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์, พรฟ้า-ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์, นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์, ณฉัตร-วัลเณซ่า แฮร์มันน์, เรเน่ เวโรนิก้า ปากาโน่  และอีกมากมาย ซึ่งจากแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ “โพเอม” (POEM) ได้ทลายกำแพงของมาตรฐานความงาม (Beauty Standard) และความเชื่อที่ว่าผู้หญิงเอวเล็กเท่านั้นถึงจะใส่ชุดแบรนด์ “โพเอม” (POEM)  ได้!

อีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์ของงานครั้งนี้คือการรวมตัวของผู้มีอิทธิพลทางความคิดในการขับเคลื่อนสังคมผ่านมุมมองทางการเมืองที่มาร่วมชมแฟชั่นโชว์ดังกล่าวซึ่งมีทั้งผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, พรรณิการ์ วานิช, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเหล่าคนดัง อาทิ สาวิตรี โรจนพฤกษ์, อมาตย์ นิมิตภาคย์, ศิรินทร์ ปรีดียานนท์, อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล, ปาณิสรา อารยะสกุล, ปวีณ์นุช แพ่งนคร, วรินดา ดำรงผล, เขมรัชต์ สุนทรนนท์  ,ป๊อป -ปิโยรส ชูชัยแสงรัตน์1st runner up Thailand World 2022 ,มิ้ม  รวิพิมพ์ ชุมสาย ณ อยุธยา 4th runner up Thailand World 2022และอีกมากมาย ที่มาร่วมเฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายทางความคิด

“โพเอม” (POEM) แบรนด์เครื่องแต่งกายคุณภาพสูง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2006 มีจุดเด่นอยู่ที่งานดีไซน์ผสมผสานการตัดเย็บเสื้อผ้าแบบบูติคเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงในปัจจุบัน โดยมีแนวคิดหลักจากการนำมุมมองในเรื่องโครงสร้าง รูปทรง และเส้นสายทางสถาปัตยกรรมมาผสมผสานเข้ากับสัดส่วนสรีระของหญิงสาว ผ่านไอเดียของ ฌอน–ชวนล ไคสิริ ผู้หลงใหลในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ที่ใช้เทคนิคการตัดเย็บเสื้อผ้าสไตล์เดรสเมกกิ้งจากประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึง โพเอม กูตูร์ (POEM Couture) ชุดราตรีและชุดแต่งงานที่รังสรรค์ขึ้นจากคาแรคเตอร์ของผู้สวมใส่ให้โดดเด่นแบบหนึ่งเดียว

                ฌอน–ชวนล ไคสิริ กล่าวถึงแนวคิดหลักของการออกแบบคอลเลกชั่นนี้ว่า “เรายืนหยัดบนแนวคิดที่ว่างานดีไซน์ที่ดีต้องผ่านการทำรีเสิร์ชมาอย่างจริงจัง และโพเอมก็ให้ความสำคัญกับงานแพทเทิร์นมาเป็นอันดับหนึ่ง สุภาพสตรีของโพเอมทุกคนคือผู้หญิงเอเชียที่ต้องการชุดสวยที่ดูดีในทุกโอกาส ในคอลเลกชั่นนี้เราจึงอยากให้ผู้หญิงโพเอมได้สนุกกับการสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้ทุกคนมีอิสระที่จะบอกเล่าสไตล์ของตัวเองตามทัศนคติที่ว่า My Body, My Choice! ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้ดีไซเนอร์สนุกกับงานออกแบบได้มากขึ้น โดยไม่มีกรอบของธรรมเนียมมาขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ได้อีกต่อไป คอลเลกชั่นนี้เราจึงได้นำงานเทคนิคของการทำเสื้อผ้าผู้ชายมาผสมผสานเข้ากับซิลลูเอทอันอ่อนหวานและเย้ายวนในแบบฉบับของผู้หญิง ผลลัพธ์ที่ได้คือเสื้อผ้าที่มีทั้งความสมาร์ท เซ็กซี่ มีเสน่ห์น่าค้นหา และสามารถเข้ากับทุกสรีระของผู้หญิงได้ อย่างชุดบอดี้สูทประดับลูกไม้ที่ช่วยเสริมเสน่ห์ให้ผู้หญิงโพเอมมีความสมาร์ทและเซ็กซี่อย่างมีระดับ”

“เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) คอลเลกชั่นนี้เป็นการนำองค์ความรู้และประสบการณ์ในการทำเสื้อผ้าผู้ชายตลอดระยะเวลา 11 ปี ของ ฌอน–ชวนล ไคสิริ มาสร้างสรรค์ใหม่ ซึ่งจะได้เห็นชิ้นเบสิกอย่างเสื้อเชิ้ตสีขาวในรูปแบบใหม่ที่มีการปรับโครงสร้างให้มีความเฟมินีนขึ้น ใส่จับคู่กับสูทเทเลอร์แบบเข้ารูป (S-Shape) เพื่อขับเน้นรูปร่างของสาวๆ ให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีชุดสูทสามชิ้นไอเทมคลาสสิกของผู้ชาย ที่ทีมดีไซน์ได้นำมาตีความใหม่โดยการนำโครงสร้างของคอร์เซ็ตมาใส่บนชิ้นเด่นอย่างเสื้อกั๊กด้านใน (Waistcoat) รวมไปถึงแจ็คเก็ตทรงบอยเฟรนด์ ที่นำมาปรับโครงสร้างและสัดส่วนให้เข้ากับส่วนสูงและรูปร่างของผู้หญิงเอเชีย โดยวิธีการตัดเย็บยังคงใช้งานฝีมือและแพทเทิร์นรูปแบบเดียวกันกับแจ็คเก็ตสูทของผู้ชายนั่นเอง

นอกจากงานดีไซน์แล้วทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับแมททีเรียลอย่างผ้าอีกเช่นเคย โดยการนำผ้าพินสไตรป์ (PinStripe) มาใช้ในงานดีไซน์สำหรับเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นครั้งแรก ซึ่งลวดลายและน้ำหนักของผ้าสามารถช่วยส่งเสริมงานดีไซน์ให้สง่างามและโก้หรูได้เป็นอย่างดี รวมถึงการใช้ผ้าวูล (Wool) และผ้าคอตตอน แท็บบิเน็ต (Cotton Tabbinet) ในการสร้างสรรค์เชิ้ตเดรสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดเดรสที่ออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) ใส่ในภาพยนตร์ดังเรื่อง Roman Holiday และยังมีไอเทมชิ้นเด่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชุดเดรสและกระโปรงฟูฟ่องจากผ้าทูล (Tulle) รวมถึงกระโปรงหลากหลายรูปแบบที่ช่วยเผยเรียวขาอันเซ็กซี่แบบมีสไตล์ ซึ่งเสื้อผ้าสำหรับคอลเลกชั่นนี้ถูกนำเสนอผ่านโทนสีคลาสสิกอย่าง สีดำ, สีขาว, สีเทา, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาล และสีเบจ รวมถึงโทนสีสดใสอย่างสีแดง, สีเขียว, สีชมพู และสีฟ้า

เรียกได้ว่าผลงานคอลเลกชั่นนี้ของ “โพเอม” (POEM) เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เกิดจากความตั้งใจในการหล่อหลอมงานดีไซน์ งานฝีมือ และเทคนิคในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิงเข้าไว้ด้วยกัน ดั่งคำนิยามที่ยึดมั่นมาตลอดว่า Dressmaking Tradition, Modern mastery.

นอกจากนี้ ฌอน–ชวนล ไคสิริ ยังได้แนะนำเคล็ดลับการมิกซ์แอนด์แมทช์ไอเทมชิ้นเด่นเพื่อสร้างลุคสมาร์ทและเซ็กซี่อย่างมีระดับในโอกาสต่างๆ ว่า “สำหรับไอเทมที่จะช่วยเสริมลุคให้ดูสมาร์ทโก้หรูได้เป็นอย่างดีก็คือสูท แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงถ้าเราอยากจะเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับลุคอาจจะเลือกสูทที่มีการนำมาปรับดีไซน์ให้เข้ารูปร่าง หรือเพิ่มแมททีเรียลอย่างลูกไม้กับคอร์เซ็ตเข้าไป อย่างลุคสำหรับดินเนอร์อาจจะเลือกใส่เดรสสูทปาดไหล่แบบกระดุมคู่ที่มีการตัดเย็บผ้าลูกไม้เพิ่มเข้าไปบริเวณช่วงบน ปลายแขน และปลายกระโปรง แมทช์กับรองเท้าส้นสูงสีนู้ด ก็จะได้ลุคดินเนอร์ที่มีความคลาสซี่ สำหรับลุคทำงานฉบับสาวเวิร์คกิ้งวูแมนสามารถหยิบเดรสสูทแขนกุดโทนสีเข้มที่มีการตัดเย็บให้เข้ารูปช่วงเอวและเน้นสะโพกมาใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงสีดำก็จะได้ลุคที่มีความน่าเชื่อถือแลกระฉับกระเฉงได้ในขณะเดียวกัน หรือถ้าเป็นโอกาสที่ต้องไปพบลูกค้าและต้องการความเป็นทางการมากขึ้นอาจจะหยิบสูทเข้ารูปแมทช์กับกระโปรงเผยเรียวขาก็จะได้ลุคสมาร์ทที่แฝงความเซ็กซี่เอาไว้ แต่หากใครเป็นสายแฟชั่นนิสต้าที่อยากได้ลุคที่แตกต่างออกไป ชุดสูทสามชิ้นนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยการหยิบชุดเดรสเข้ารูปมาใส่ไว้เป็นตัวใน แล้วทับด้วยคอร์เซ็ตที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากเสื้อกั๊กตัวในของสูทผู้ชายและเน้นย้ำส่วนโค้งเว้าด้วยเข็มขัดเส้นเล็ก แล้วคอมพลีทลุคด้วยเบลเซอร์ก็จะได้ลุคที่ทั้งสมาร์ท เท่ และเซ็กซี่”

ด้านเหล่าเซเลบริตี้ที่มาร่วมภายในงานต่างก็ร่วมเผยถึงเคล็ดลับการสวมใส่ชุดของ ‘โพเอม’ (POEM) ให้โดดเด่นในทุกโอกาส พร้อมเผยจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ เริ่มจากสาวสังคม ยุวเรต ศรุตานนท์ เผยว่า “เราเป็นแฟนคลับแบรนด์โพเอมอยู่แล้ว ปกติก็จะชอบมิกซ์แอนด์แมทช์ข้ามคอลเลกชั่นเลย เพราะชุดของแบรนด์จะเป็นสไตล์เรียบโก้ซึ่งสามารถหยิบมาแมทช์ได้ไม่ยาก สำหรับลุคมาชมแฟชั่นโชว์วันนี้เลือกเป็นเดรสดำเข้ารูปเปิดไหล่ก็เลยทำผมสไตล์เวทลุค (Wet Look) แล้วคอมพลีทด้วยต่างหูคู่โปรด เพื่อให้ได้ลุคเรียบโก้ตามแบบฉบับสาวโพเอม ส่วนชิ้นที่ชอบมากๆ อีกชิ้นจะเป็นมินิเดรสเพราะสามารถใส่ได้ทั้งงานกลางวันและกลางคืน ส่วนปลายปีนี้วางแผนไว้ว่าจะไปล่องเรือจากอิตาลีไปกรีซ ก็จะต้องหยิบชุดของโพเอมไปใส่ด้วยอย่างแน่นอน”

ถัดมาที่สาวยิ้มสวย แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เล่าว่า “ปกติเป็นคนที่แต่งตัวสไตล์แนวเรียบๆ โก้ๆ อยู่แล้ว ซึ่งชุดของโพเอมก็เป็นสไตล์ที่ตรงกับเราเลย ไม่ต้องใส่อะไรเยอะก็เรียบหรูได้ อย่างลุควันนี้จะเลือกเป็นชุดเกาะอกแมทช์กับกางเกงสีแดงดำที่ใช้เทคนิคออมเบร (Ombre) เป็นลุคที่มีความเรียบโก้ที่ยังดูสนุกอยู่ ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลากหลายโอกาส อีกลุคที่ชอบแแมทช์ก็จะเป็นเกาะอกกับกระโปรงบาน ส่วนแพลนเที่ยวปลายปีนี้ตอนนี้กำลังชอบการดำน้ำมากๆ เลยตั้งใจว่าจะไปดูปลาการ์ตูนที่หลีเป๊ะ แล้วก็อาจจะไปยุโรปต่อน่าจะไปดูหิมะตกที่สวิตเซอร์แลนด์”

ปิดท้ายที่เวิร์คกิ้งวูแมน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ เผยว่า “ปกติเราเป็นคนแต่งตัวสบายๆ แต่ถ้าเวลาออกงานสำคัญชุดของโพเอมก็จะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เราหยิบขึ้นมาใส่ เพราะสไตล์ของเขามีทั้งความเรียบหรู หวานๆ สามารถใส่ได้หลากหลายโอกาส อย่างลุควันนี้ก็หยิบเป็นเดรสพลีทที่มีความพริ้วไหวมาใส่คู่กับเกาะอกเรียบๆ ด้านบน หรือถ้าเป็นวันที่ต้องแต่งลุคทางการหน่อยก็ใส่เป็นสายเดี่ยวกับกางเกงขายาวแล้วทับด้วยสูทโก้ๆ ก็จะทำให้ลุคของเราดูสมาร์ทขึ้น ส่วนปลายปีนี้จริงๆ ยังไม่ได้วางแผนไปไหนเลย แต่ปีหน้าคิดว่าน่าจะไปสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ หรือไม่ก็อเมริกา”

พบกับคอลเลกชั่นเสื้อผ้า  “เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน ‘โพเอม’ (POEM) ชั้น 2 เกษรวิลเลจ, ชั้น 3 สยาม สแควร์ วัน, ชั้น 1 สยาม พารากอน, ชั้น 1 เอ็มโพเรียม, ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงช่องทางออนไลน์ทาง LINE ID: @poembkk และ Instagram: @poem_official สำหรับโพเอม เมนส์แวร์ (POEM Menswear)  สามารถเยี่ยมชมได้ที่ ชั้น 3 เกษรวิลเลจ หรือ LINE ID: @poem_menswear, Instagram: @poem_menswear และเว็บไซต์ www.poembangkok.com

Scroll To Top