web analytics
SIAMNEWSDAY

“ดีเจ.ซันเดย์” เป็นปลื้ม ประกบ “พรฟ้า” ร่วมงานแบรนด์หรู

เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภูมิใจ สำหรับ ดีเจ.ซันเดย์ นิธิรุจน์ ถิระพัฒนะพงศ์ จากคลื่น อีเอฟเอ็ม 94 ที่เรียกว่านอกจากงานดีเจที่รักแล้วก็ยังมีงานถ่ายแบบที่ชื่นชอบและตั้งใจมากอีกด้วย ล่าสุดกับผลงานที่ได้มีโอกาสร่วมถ่ายแบบกับ    แบรนด์ดังอย่าง Poem ในคอลเลคชั่นล่าสุด Pre-Fall 2021 และยังได้ร่วมงานกับ พรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ รองอันดับ 2 Miss Universe Thailand 2020 อีกด้วย ซึ่งผลงานที่ออกมาก็มีความเรียบหรูตามสไลต์ของ Poem ถูกใจเจ้าตัวเป็นอย่างมาก

ดีเจ.ซันเดย์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากๆ ครับ ที่ได้ร่วมงานกับทางแบรนด์ Poem เพราะเป็นแบรนด์ที่นอกจากจะทำชุดของผู้หญิงออกมาสวยและเป็นเอกลักษณ์แล้ว ด้านชุดผู้ชายก็เท่ห์เนี๊ยบไม่แพ้กัน แถมยังได้ร่วมงานกับพรฟ้าด้วยก็ทำให้รู้สึกดีใจขึ้นไปอีก ที่ได้ร่วมงานกับคนที่สวยและเก่งมากๆ ได้ถ่ายแบบกันถึง 3 ลุค 3 สไตล์เลย ชอบมากๆ เลยครับ ยังไงก็อยากจะให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจและช่วยติดตามผลงานของผมด้วย ทั้งงานดีเจและงานถ่ายแบบที่จะมีมาเรื่อยๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”

ดร.เชาว์วัจน์ ย้ำ!!พ้นโควิดฯ ธุรกิจสดใส แนะ!!เพิ่มวินัยใช้ชีวิต

                ในสถานการณ์โควิดฯ ที่เกิดขึ้น  ทำให้หลายธุรกิจต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และยังมีบางกิจการตัดสินใจปิดตัวลง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงการดำรงชีวิตของคนในสังคมทั่วโลกที่เปลี่ยนไป   ดร.เชาว์วัจน์ พาณิชย์เสรีวิศิษฐ์  ผู้บริหารและเจ้าของแบรนด์น้ำแร่ทาวรัส  ภายใต้บริษัท ทาวรัส ไทย กรุ๊ป จำกัด  ได้กล่าวถึงการบริหารจัดการธุรกิจพร้อมกรอบแนวคิดความเชื่อในโอกาสดีๆ ทางธุรกิจหลังสถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป  ทั้งนี้ยังกล่าวถึงการใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัยเพื่อลดอัตราความรุนแรงของสถานการณ์ไว้อย่างน่าสนใจ

                “ เหตุการณ์ครั้งนี้หนักจริงๆ ไม่มีใครไม่กระทบทั้งในประเทศของเราและทั่วโลก ไม่รู้ว่าจะผ่านไปเมื่อไหร่ สำหรับผมกระทบแน่นอน แต่พยายามพยุงธุรกิจให้อยู่ได้ในบางส่วน  ธุรกิจบางอย่างยังทำได้ตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศก็พยายามให้คงอยู่ครับ  แต่บางอย่าง อาทิ ธุรกิจบริการด้านกฎหมายที่มีลูกค้าชาวจีนเป็นหลักก็ต้องพักไป คือ เราต้องลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรด้วย เพื่อให้บางธุรกิจเดินต่อไปได้

                อย่างน้ำแร่ทาวรัส ถือเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพก็ยังตอบโจทย์ตลาดลูกค้าไทย เพราะวางในเรื่องคุณภาพสินค้ามาดี เราก็อยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าเป็นหลักครับ  แต่ถ้าถามถึงการขยับขยายอะไรตอนนี้คงทำไม่ได้มากและไม่คุ้มทุนแน่นอน แต่การทรงตัวให้อยู่ได้ของธุรกิจคือสิ่งที่ต้องทำครับ วิธีการก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเลย  สินค้าน้องใหม่ถ้าคาดหวังว่าจะให้คุ้มทุนคืนกำไรตอนนี้ยากมาก  ช่วงนี้มีแผนไว้ดีกว่าแค่นี้พอ   คือจะเกิดอะไรขึ้นต้องอยู่ได้ด้วยความหวัง เหตุผลที่พูดแบบนี้  เพราะมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง อาทิ ตอนนี้มีบางธุรกิจปิดตัว เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นอาจจะเกิดโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่มีทุนพอจะเข้ามาทำก็ถือเป็นโอกาสใหม่ของเขาได้แจ้งเกิด เรียกว่ามีอันหนึ่งหายไปก็มีอันใหม่เข้ามาแทน ผมคิดว่าหลังสถานการณ์นี้พ้นไปก็น่าจะสดใสนะ แต่ต้องรอนิดหนึ่งเท่านั้น ”

                ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพจึงกล่าวถึง การดูแลสุขภาพในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดนี้  โดยให้ยึดถือเรื่องของระเบียบวินัยการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดต่อตนเองและครอบครัวรวมถึงสังคมเป็นหลัก เพื่อลดการเป็นผู้ติดและแพร่เชื้อ แน่นอนว่าทั้งหมดคือการร่วมด้วยช่วยกันกู้วิกฤตในครั้งนี้ของสังคมอีกด้วย

                “  ดูแลตัวเองและคนในครอบครัวให้ดีที่สุด ย้ำว่า! ป้องกันแบบดีที่สุด ถึงใครจะมีวัคซีนฉีดแล้วก็คือความหวังนะ   ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำอะไรเสี่ยงๆ ที่จะไปติดเชื้อเลยดีกว่า วัคซีนเป็นตัวช่วยที่ดีมากอยู่แล้ว   แต่การปฏิบัติตัวแบบเข้มงวดมีวินัยเพื่อไม่ให้ติดเชื้อดีที่สุด ทำอย่างไรมันมีบอกอยู่แล้วทุกคนทราบดี  เป็นเรื่องของจิตสำนึกด้วยครับ กรณีคนที่เขาต้องเสี่ยงเพราะอาชีพหรือหน้าที่ก็ไม่เป็นไร  แต่ตัวเราถ้าเราอยู่แบบมีวินัยได้ในช่วงนี้ต้องไม่ละเลยข้อปฏิบัติต่างๆ  เมื่อทุกๆ ครอบครัวทำได้ มันจะขยายไปเป็นสังคมใหญ่ขึ้น ผมนึกถึงคำกล่าวของขงเบ้งที่ว่า “ถ้าเราเลี้ยงลูกให้ดี สังคมก็จะมีคนดี” เช่นกันกับสถานการณ์นี้ ถ้าเราดูแลตัวเราให้ดีพร้อมคนในครอบครัว ทุกครอบครัวทำแบบนี้เราก็น่าจะมีสังคมที่ปลอดภัยขยายขึ้นไปเรื่อยๆ  และต้องไม่ลืมดูสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ  อาทิ ออกกำลังกาย  เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และ ดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่มีแร่ธาตุสำคัญๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะว่ามันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย   การมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในช่วงนี้อย่างมากครับ  ดูแลตัวเราและครอบครัวให้ทุกคนพ้นจากเหตุการณ์นี้ แล้วมาค่อยมาช่วยกันฟื้นฟูธุรกิจ เป็นกำลังใจให้ทุกคนจริงๆครับ ”

เปิดแล้ว..พร้อม ตอกย้ำความมั่นใจสูงสุด

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม พร้อมเปิดให้บริการย้ำความมั่นใจสูงสุดเคร่งครัดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคมาตรฐานเข้มข้นคัดกรองพนักงานฉีดวัคซีน 100% ก่อนเข้าปฏิบัติงาน

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายอนุญาตให้เปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุดนั้น ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ร่วมกับบรรดาร้านค้าภายในศูนย์การค้า
มีความพร้อมในการเปิดให้บริการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและมาตรฐานคัดกรองพนักงานเข้มข้น ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งผู้ประกอบการ ร้านค้า พนักงาน และลูกค้าทุกคน พร้อมให้การต้อนรับลูกค้าด้วยคอนเซ็ทป์ ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน” ก้าวสู่ชีวิตวิถีใหม่ไปพร้อมกัน โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และคณะ เดินทางมาร่วมตรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ด้วย

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ไอคอนสยาม  ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และได้ใช้มาตรการเชิงรุกเฝ้าระวังขั้นสูงสุดทั้งส่วนให้บริการลูกค้าและพนักงาน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา  อีกทั้งเพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดให้บริการในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดสูงสุด และมีมาตรฐานเข้มข้นของการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน  เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการ

            นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งด้วยมาตรการความปลอดภัยอย่างสูงสุด 360 องศา ซึ่งสอดคล้องกับ
แนวปฏิบัติของมาตรการองค์กรของ ศบค. เพื่อลดความเสี่ยงในการเผยแพร่โรคสำหรับการเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน ด้วย COVID-Free Setting Protocol เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ร้านค้า และผู้ใช้บริการ อาทิ มาตรการเข้มข้นคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ กำหนดให้พนักงานทุกคนจะต้องได้รับวัคซีน, การตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit,  Platform Thai Safe Thai, พนักงานต้องใส่หน้ากากและปฏิบัติตาม D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด, ร้านค้าประเมินมาตรฐาน Thai Stop Covid+ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ยังคงให้ความสำคัญการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณูปโภคต่างๆ  อาทิ การทำความสะอาดระบบปรับอากาศ  การหมุนเวียนอากาศภายในศูนย์ และระบบคุณภาพน้ำ รวมถึงมาตรการเชิงรุกในการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning  โดยฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในพื้นที่ส่วนกลางและร้านค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ
ในศูนย์การค้าทุก 30 นาที,  การทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรจอดรถ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานและผู้มาใช้บริการ 

อีกทั้งติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไร้สัมผัสบริการลูกค้าภายในอาคาร (Touchless Building Facilities)
อาทิ ระบบจัดการเข้าออกที่จอดรถอัตโนมัติโดยไม่ต้องรับบัตรจอดรถ, ตู้รับชำระเงินค่าที่จอดรถอัตโนมัติ สำหรับรองรับลูกค้าที่ไม่ต้องการชำระเงินและรับทอนเงินที่ตู้เก็บเงินบริเวณทางออกอาคาร, เครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์ อัตโนมัติภายในอาคารและลิฟท์, ติดตั้งก๊อกน้ำล้างมือ/โถปัสสาวะ/ เครื่องจ่ายโฟมล้างมือ เป็นระบบ Sensor เป็นต้น

“บริษัทยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ที่ประกาศอย่างเคร่งครัดเต็มที่เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นในทุกย่างก้าวของการใช้บริการ และขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยภาครัฐฯ ส่งเสริมให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยกัน” นางสาวนราทิพย์ กล่าว

 สยามพิวรรธน์ มั่นใจว่า ทั้ง ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งผนึกกำลัง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยในทุกมิติอย่างสูงสุด มอบความสุขและนำรอยยิ้มสยามกลับคืนสู่ทุกคนอีกครั้ง โดยในการเปิดให้บริการตามมาตรการภาครัฐในครั้งนี้ วันสยามและไอคอนสยาม ได้มีจัดเตรียมความพร้อมของพนักงานในทุกส่วน ร้านค้า สถานที่ สินค้าและบริการ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน” เพื่อพร้อมมอบประสบการณ์ความสุข คืนยิ้มสยามให้กับคนไทยทุกคนอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สยามพารากอน โทร.02-610-8000 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ไอคอนสยาม โทร.1338  


โดยไอคอนสยามจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. ส่วนสยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดบริการวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (สำหรับซูเปอร์มาเก็ตเปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.)  

Save Lives for Bettering Livelihood

เกษรวิลเลจผนึกกำลังสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ จัดตั้ง “Vaccine Care Campaign” ด้วยแนวคิด “Save Lives for Bettering Livelihood” ให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน

                เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) และสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ผนึกกำลังเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ครั้งยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับโรงพยาบาลตำรวจ (Police General Hospital) เปิดให้บริการหน่วยฉีดวัคซีน สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไป ผู้มีน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัม และประชาชนทั่วไป รวมไปถึงกลุ่มคนที่ทำงาน และใช้ชีวิตในย่านราชประสงค์ ให้ได้รับบริการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง ณ บริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้บริการตั้งแต่วันนี้ – เดือนธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

นายฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่น่าวิตกกังวลในขณะนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐ และเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งครั้งนี้ทางเกษรวิลเลจมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเร่งกระจายวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ จัดตั้ง Vaccine Care Campaign ผ่านแนวคิด “Save Lives for Bettering Livelihood” เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตที่ดีขึ้นได้ในเร็ววัน ซึ่งผู้มารับวัคซีน ณ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า จะได้พบกับประสบการณ์ในแบบ Gaysorn Customer Experience

ที่เกษรวิลเลจรังสรรค์ขึ้นทั้งในเรื่องของการอำนวยความสะดวกอันรวดเร็ว สถานที่กว้างขวาง การจัดสรรคิวไม่แออัด ไปจนถึงการดูแลความสะอาดในทุกจุดสัมผัส ซึ่งที่ผ่านมาได้รับคำชมเชยและผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ผู้รับวัคซีนจะได้รับการดูแลเรื่องวัคซีนครบทั้งสองโดส (Completeness) และมีการให้บริการแบบ One-Stop-Service สามารถลงทะเบียนและยืนยันนัดหมายได้ผ่านทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งภายหลังจากรับวัคซีนแล้ว ข้อมูลจะเข้าไปอยู่ในระบบหมอพร้อมโดยอัตโนมัติ (Integrated) หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ระหว่างพักคอย สังเกตอาการ ก็จะอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลตำรวจทันที และในกรณีที่ต้องการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อนำไปจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย”

                จากความร่วมมือครั้งนี้ทางเกษรวิลเลจ และศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายใต้มาตรการย่านราชประสงค์ปลอดภัย มั่นใจไร้ COVID-19 ครอบคลุมทั้งพื้นที่สาธารณะ ศูนย์การค้า และศูนย์อาหาร ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนรวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 10,000 คน และตั้งเป้าหมายที่จะกระจายวัคซีนให้ได้มากที่สุดและรวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนไทยได้มีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน โดยเริ่มเปิดบริการให้ประชาชนทั่วไปได้ฉีดวัคซีนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคาดการณ์ว่าการฉีดวัคซีนในครั้งนี้จะแล้วเสร็จครบทั้ง 2 โดสภายในเดือนธันวาคมศกนี้ หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ฉีดวัคซีน หยุดเชื้อเพื่อคุณและคนที่คุณรัก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแนวคิด “Save Lives for Bettering Livelihood” เพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ววันกับโครงการ Vaccine Care Campaign หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ณ The Event Space ชั้น 3 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประชาชนผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทาง http://policehospital.org/pgh-co-vaccine-registration/  สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-207-6000

เปิดใจ! “พลอย ชิดจันทร์” เล่าเคล็ดลับการดูแลสุขภาพคุณแม่ ในช่วงโควิด-19

เผยกังวลมาก เพราะผู้สูงอายุต้องดูแลเป็นพิเศษ เร่งหาตัวช่วยสารพัด แนะนำเครื่องฟอกอากาศ “ไดกิ้น” (Daikin) สตรีมเมอร์ เป็น Must Have Item ที่ทุกบ้านควรมี

                แน่นอนว่าในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19ที่เกิดขึ้นในขณะนี้หลายคนต้องคอยดูแลตัวเอง และคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดขึ้น ล่าสุดสาวเก่งอย่าง พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง ที่ช่วงนี้ต้องดูแลเอาใจใส่คนใกล้ชิดและคุณแม่เป็นพิเศษได้เผยว่าในสถานการณ์เช่นนี้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก

“ในสถานการณ์โควิดแบบนี้ เรารู้สึกกังวล และเป็นห่วงสุขภาพของคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุด เพราะท่านอายุเยอะแล้ว ถ้าติดเชื้อขึ้นมาจะอันตรายมาก เราเลยต้องใส่ใจดูแลท่านเป็นพิเศษในทุกอย่าง พยายามไม่ให้ท่านออกไปข้างนอกเลย แต่ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องป้องกันตัวเองอย่างดี รวมถึงเรื่องของอาหารการกินก็ต้องทำกินเองในบ้านเท่านั้น พยายามดูแลให้ท่านอยู่แต่บ้าน ส่วนเราก็ทำทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุด ทั้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ล้างมือบ่อยๆ วัดไข้ ตรวจออกซิเจนกันทุกวัน และทำให้อากาศในบ้านสะอาด ปลอดจากเชื้อโรค”

โดยเคล็ดลับขั้นพื้นฐานของการดูแลผู้สูงอายุ คือต้องทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงจากภายใน รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังกายบ้างให้ร่างกายมีความกระฉับกระเฉง แข็งแรง เพื่อที่จะได้มีภูมิคุ้มกัน และทำให้ไม่ป่วยง่าย

และสำหรับในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพในเบื้องต้นแล้ว ก็ต้องดูแลบ้านให้ปลอดเชื้อด้วย ซึ่ง พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง ได้เผยว่า “เราจะไม่ให้คนนอกเข้ามาในบ้านเลย ถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ก็จะคัดกรองเป็นอย่างดี และต้องอยู่กันแบบเฝ้าระวัง ถ้าต้องออกไปข้างนอกกลับมาก็จะรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะบ้านเรามีทั้งผู้สูงอายุ และมีเด็กด้วยเลยต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งตัวช่วยที่เราให้ความสำคัญมากๆ ก็คือเครื่องฟอกอากาศ เพราะเดี๋ยวนี้ในอากาศมีทั้งฝุ่น ทั้งมลภาวะมากมาย ที่สามารถเข้ามาในบ้านเราได้ ยิ่งช่วงที่มีโควิดระบาดแบบนี้ ในอากาศก็อาจจะมีเชื้อไวรัสเจือปนอยู่ ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่อง ก็สามารถช่วยทำให้อากาศในบ้านเราสะอาดขึ้นได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็มีการพัฒนากันอย่างรวดเร็ว เครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ดีๆ ก็สามารถช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส และกรองพวกฝุ่น PM 2.5 ได้ เราก็ต้องมีติดบ้านไว้ จะได้ช่วยให้อุ่นใจ และปลอดภัยขึ้น”

โดยจะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศที่ พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง เลือกใช้นั้น เป็นเครื่องฟอกอากาศของ “ไดกิ้น” (Daikin) ที่มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า “สตรีมเมอร์” (Streamer) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้

อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยขจัดควันพิษ ก๊าซอันตรายจากสารเคมี ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อโรค รวมถึงเทคโนโลยีตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ที่เข้ามาช่วยปรับอากาศ ภายในบ้านให้มีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ร่วมมือกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อทดสอบประสิทธิภาพเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ที่เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยติดเชื้อจากการระบาดภายในประเทศไทย และนำมาเพาะเชื้อเพื่อทดสอบในห้องทดลอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาได้บ่งชี้ว่าเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องฟอกอากาศ “ไดกิ้น” (Daikin) สามารถช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 99.9%* สอดคล้องกับผลการทดสอบก่อนหน้านี้ที่ “ไดกิ้น” (Daikin) ประเทศญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโอคายามะนำเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ไปทดสอบในห้องทดลอง กระทั่งได้ผลลัพธ์ว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้เช่นกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ไดกิ้น” (Daikin) ได้ทาง Daikin Cool Line เบอร์ 1271 โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 ถึง 24.00 น. หรือค้นหาตัวแทนจำหน่ายดีลเลอร์ไดกิ้นได้ที่ https://www.daikin.co.th/wheretobuy

*ผลทดสอบในห้องทดลองกับเชื้อไวรัส SARS CoV-2 พบว่าสตรีมเมอร์สามารถช่วยกำจัดเชื้อไวรัสได้  99.9% ภายใน 4 ชั่วโมง โดยคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล 18 มิ.ย. 2564

“เป๊ก ผลิตโชค” ร่วมบริจาคสมทบทุน 1 ล้านบาท มอบ 4 มูลนิธิเพื่อเด็ก

รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายน้ำหอม  COLOUR   SOUL  BREATH  BY PALITCHOKE    เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19

เป๊ก  ผลิตโชค  อายนบุตร  ร่วมบริจาคสมทบทุน 1,000,000  บาท ซึ่งเป็นรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายน้ำหอมคอลเลกชันพิเศษ  COLOUR SOUL BREATH  BY  PALITCHOKE   ผลงานสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจของตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนจาก  บริษัท  จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)   เพื่อมอบให้กับ  4  มูลนิธิ  ได้แก่  มูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์,  ศิริราชมูลนิธิ ,  มูลนิธิรามาธิบดีฯ  และมูลนิธิ   โรงพยาบาลเด็ก   เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด – 19  ในโครงการต่างๆ รวมถึงสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์

เป๊ก ผลิตโชค  เปิดเผยว่า

 “ ผลิตดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมทำบุญกับทั้ง  4   มูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นคือ ดีใจที่แฟน ๆ ทุกคนยังคงเป็นแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งเสมอมา สำหรับเงินบริจาคครั้งนี้นำไปช่วยต่อ ลมหายใจให้ผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19    และเด็กในโครงการต่างๆ  เพื่อให้พวกเขาได้กลับมาใช้ชีวิต ได้ตามปกติโดยเร็ว ผลิตขอบคุณทุกๆ คน  ทุกๆ ใจที่ช่วยกันเติมให้เต็ม 100%  ด้วยนะครับ  ขอบคุณมากๆ ครับ”

ที่มาของ COLOUR SOUL BREATH 

 แบรนด์ COLOUR SOUL เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่  “เป๊ก  ผลิตโชค”  รักและตั้งใจทำมาโดยตลอด โปรเจกต์ที่ 2  เป๊ก  ผลิตโชค   จึงอยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นตัวตนเข้าไปในทุกๆ รายละเอียด โดยได้ แรงบันดาลใจของความหมายทั้งหมดนี้  จากคำว่า  “BREATH” ซึ่งหมายถึงลมหายใจ เป็นลมหายใจของ เป๊ก ผลิตโชค  ที่อยากส่งต่อให้กับแฟนๆ ผ่านทางกลิ่นหอมสดชื่น และด้วยความตั้งใจจริง ของ เป๊ก  ผลิตโชค  ที่อยากทำอะไรดีๆ  ตอบแทนสังคมผ่านผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า  COLOUR  SOUL  ซีรี่ส์นี้ ชื่อ  BREATH  ที่แปลว่าลมหายใจ น่าจะเป็นเรื่องที่ดี  ที่จะส่งต่อโอกาสนี้ให้เป็นการต่อลมหายใจ ให้กับเด็กๆ 1 กล่องของน้ำหอม คือการสนับสนุนช่วยต่อลมหายใจ  และให้โอกาสชีวิตใหม่กับเด็กๆ

เมืองเศรษฐกิจพอเพียง มอบหน้ากากอนามัยและถุงมือยางกับสมาคมกู้ชีพบัวเพชร-ชาวบ้านม.3 บ้านพลับ

คุณศักย์ศรณ์ คัมภีรญาณนนท์ รองประธานกรรมการบริหาร  และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด พร้อมด้วยคุณบรรพต โพธิ์ทอง ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการตลาด, คุณศศน์นัธ เทพกิจ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านแพทย์แผนประยุกต์  และคณะทำงานโครงการ SKYMED NEW GEN มอบหน้ากากอนามัยและถุงมือยางให้กับสมาคมกู้ชีพบัวเพชรและชาวบ้าน หมู่ 3 ต.บ้านพลับ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้กิจกรรม SKYMED NEWGEN ปันน้ำใจ สู่สังคม ครั้งที่ 10 กับการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน 1 ล้านชิ้น โดยมีนายชานนท์ อรรถศักดิ์ศรี กรรมการและนายทะเบียน สมาคมกู้ชีพบัวเพชร และนายนฤชา  รื่นพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านฯ เป็นตัวแทนผู้รับมอบ

คุณศักย์ศรณ์ คัมภีรญาณนนท์ รองประธานกรรมการบริหาร  และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด กล่าวว่า สืบเนื่องจาก บริษัทฯ โดยท่าน น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด ได้เล็งเห็นว่า ทางสมาคมกู้ชีพบัวเพชร ได้ทำการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จึงได้นำหน้ากากอนามัยพร้อมกับถุงมือยางมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมกับเป็นการป้องกันตัวเองในการออกไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป

“ในฐานะคนไทยคนหนึ่งขอชื่นชมเจ้าหน้าที่กู้ชีพทั่วประเทศที่มีส่วนช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ทั้งนี้ ทางบริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด ภายใต้กิจกรรม SKYMED NEWGEN ปันน้ำใจ สู่สังคม มอบหน้ากากอนามัย 1 ล้านชิ้นทั่วประเทศ เราจะพยายามแจกจ่ายให้ทั่วถึงทุกหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพต่างๆ และประชาชนเพื่อใช้ในการป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19” คุณศักย์ศรณ์กล่าวปิดท้าย

นายชานนท์ อรรถศักดิ์ศรี เจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชร กล่าวว่า ตนดูแลพื้นที่ อ.คลองหลวง, อ.ธัญบุรี และอ.หนองเสือ จังหวัดปทุมธานี แต่ถ้าพื้นที่ทั้งหมดที่ทางสมาคมกู้ชีพบัวเพชรดูแลมี 4 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และนครพนม มีเจ้าหน้าที่ 300 กว่าคน ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางสมาคมกู้ชีพบัวเพชร มีภารกิจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียวกลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด พร้อมกับช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตามปกติ

ในส่วนของหน้ากากอนามัยทางสมาคมกู้ชีพบัวเพชรมีความขาดแคลน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฯ ต้องจัดซื้อเองบางครั้งไม่เพียงพอเพราะต้องใช้จำนวนมากผนวกกับใช้ได้ครั้งเดียว ซึ่งพอทางบริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัดนำหน้ากากอนามัยมามอบให้ในครั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจที่มีภาคเอกชนเห็นความสำคัญมาช่วยเหลือทำให้เป็นขวัญกำลังใจในการทำงานและจะนำไปแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชรทุกท่าน อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณทางบริษัทฯ ที่สนับสนุนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์การแพทย์ให้กับทางสมาคมกู้ชีพบัวเพชรด้วย

#SkyMed #SkyCrop #SkyMedNewGen #เมืองเศรษฐกิจพอเพียง #SkyTime #หน้ากากอนามัย #แมส #Covid19 #โควิด19 #สู้ภัย #ไทยชนะ #กู้ภัย #บัวเพชร

ส่งเตียงสนาม แอร์โรคลาส 1,000 เตียง

เพจอีจัน จับมือพันธมิตร EPG และ Triple i ร่วมส่งเตียงสนาม แอร์โรคลาส 1,000 เตียง ทั่วประเทศช่วยเพิ่มจำนวนเตียงให้ผู้ป่วยโควิด

เนื่องด้วยสถานการณ์ปัญหาไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงในคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและส่งผลทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขจำนวนมาก เนื่องจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ต้องจัดจุดพักคอยรองรับผู้ป่วยโควิดที่เดินทางกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดจำนวนมาก และประสบปัญหาเตียงสนามขาดแคลนเนื่องจากกำลังผลิตเตียงกล่องไม่เพียงพอต่อความต้องการ

เพจอีจัน เป็นเพจข่าวที่มีคนติดตามกว่า 11 ล้านคน ร่วมกับกลุ่มบริษัท EPG และบริษัทขนส่ง Triple i เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงร่วมกันจัด “โครงการส่งต่อ1,000 เตียงสนามสู้โควิดจากอีจัน” ขึ้นโดยจะส่งมอบเตียงสนาม แอร์โรคลาส ที่มีความเหมาะสมทั้งน้ำหนักที่เบาสะดวกในการขนย้าย ทำความสะอาดได้ง่ายและผลิตจากวัสดุคุณภาพทนทานสามารถใช้งานได้นาน ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้พร้อมตั้งเป้าหมายในการส่งเตียงสนามแก่ลูกเพจที่ร้องขอมาซึ่งประกอบไปด้วย โรงพยาบาลสนาม สำนักงานสาธารณสุข อบต. เทศบาล และองค์กรสาธารณสุขท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อจะได้ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์บรรเทาวิกฤตโควิด บรรเทาปัญหาเตียงสนามไม่เพียงพอในปัจจุบัน

“แพนเค้ก เขมนิจ” ร่วมกับ “บางกอกยูนิเทรด” มอบชุดตรวจ COVID-19 แบบ (ATK)

สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงมีความน่าเป็นห่วง ด้วยยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ภาคสาธารณสุขไทยมีข้อจำกัดมากมายในการรับมือในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการผู้ป่วยกับจำนวนเตียงที่หลายโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับได้ล่าสุด นางเอกสาว แพนเค้ก เขมนิจ และครอบครัว จามิกรณ์ ร่วมมือกับ บริษัท บางกอกยูนิเทรด ผู้นำเข้าชุดตรวจโควิด Antigen test kit แบบ home use ยี่ห้อ Acon (Flowflex ) โดยมีตัวแทนคุณณัฐกา สุพัฒนกุล ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดได้มอบให้กับทางสภากาชาดไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และประชาชนที่ติดเชื้อ Covid-19 ที่ทำการ Home Isolationด้วยตนเองที่บ้าน รวมมูลค่า 875,000 บาท โดยมี นายแพทย์ พิชิต ศิริวรรณ  รองผู้อำนวยการ สำนักงาน บรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เป็นตัวแทนสภากาชาดไทย ในการรับมอบ ณ อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สภากาชาดไทย 

            แพนเค้ก เขมนิจ กล่าวว่า  “ในฐานะ ที่เคยต้องเผชิญกับโรค COVID-19 ตอนแรกที่ทราบผลว่าติดเชื้อก็ตกใจและกลัวมาก จนทำอะไรไม่ถูกเลย ซึ่งกว่าจะผ่านช่วงเวลาตรงนั้นมาได้ก็หนักกันเหมือนกันเพราะติดเชื้อกันทั้งบ้าน สภาพจิตใจเราต้องดูแลให้กำลังใจส่งพลังบวกให้กันและกันในครอบครัว  ส่วนสภาพร่างกายถือว่ายังโชคดีที่ถึงแม้เชื้อจะลงปอดแต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไร ร่างกายฟื้นตัวแล้ว  พอหายดีก็อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นและยิ่งในตอนนี้ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน มีคนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก  ตัวเราและครอบครัว คุยกันว่า พวกเราอยากที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนเล็กๆที่ได้มีโอกาสในการช่วยเหลือจึงร่วมมือกับ  บริษัท บางกอกยูนิเทรด  มอบชุดตรวจโควิด Antigen test kit  มอบให้กับทางสภากาชาดไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้ใช้ชุดตรวจที่มีคุณภาพเพื่อคัดกรองด้วยตนเองเมื่อ ทุกคนตรวจเร็ว รู้เร็ว ก็จะได้รีบเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาได้เร็วขึ้นด้วย รวมถึงชุดตรวจนี้จะถูกส่งมอบให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ covid-19 และทำการ home isolation ด้วยตนเองที่บ้านด้วย ซึ่งมันก็เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่พวกเราพอจะทำได้เวลานี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่พวกเราตั้งใจ และเต็มใจที่อยากจะทำ อยากให้ทุกๆคนมีกำลังใจที่จะสู้กันต่อไป พวกเราทุกคนจะต้องผ่านมันไปด้วยกันค่ะ”

Scroll To Top