web analytics
SIAMNEWSDAY

LIGHTS ON SHADOW’ Event


“KATE ร่วมกับ EVEANDBOY และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ จัดงาน ‘LIGHTS ON SHADOW’ Event นำทีม Brand Muse ‘ตู–ต้นตะวัน’ เผยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ Cool & Sharp พร้อมอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง                               เก่ง–น้ำปิง, มาร์ค และจัมโม่ ตอกย้ำกลยุทธ์เจาะ Gen Z กับกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟเพียบ!”

KATE เครื่องสำอางอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่นที่สะท้อนความงามในแบบไร้กฎเกณฑ์ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1997 แบรนด์ได้ท้าทายกรอบความงามแบบเดิมๆ ด้วยสโลแกน NO MORE RULES.”

ในครั้งนี้ KATE เปิดตัวแคมเปญ “LIGHTS ON SHADOW” เพื่อนำเสนอปรัชญา Shadow Enhancing Makeup หรือ เมคอัพด้วยเงา ที่ช่วยขับเสน่ห์ให้โดดเด่น สร้างมิติชัดทุกองศา เปลี่ยนเงามืดให้กลายเป็นแสงสว่าง ถ่ายทอดความงามที่มีมิติอย่างแท้จริง โดยใช้เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่าง “แอนิเมะ” และ “ดนตรี” เป็นหัวใจหลักของการสื่อสาร

การจัดงานครั้งนี้ KATE ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง EVEANDBOY ผู้นำด้านบิวตี้รีเทล และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ แลนด์มาร์กยอดนิยมของกรุงเทพฯ ที่ร่วมช่วยยกระดับประสบการณ์งานอีเวนต์ให้สมบูรณ์แบบ พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจด้านความงามไปสู่ผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง

คุณ อัตสึชิ ซูมิโนะ President of Kanebo Cosmetics (Thailand) co., ltd เผยกลยุทธ์การเติบโตในเอเชีย ของ KATE พร้อมเปิดตัวมิวส์ไทยคนแรก “ตู–ต้นตะวัน ตันติเวชกุล” ภายใต้แคมเปญ LIGHTS ON SHADOW

“KATE ประกาศทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจน โดยมุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ในเอเชีย ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารระดับโลก 3C Strategy ได้แก่ Culture, Contents และ Cool & Sharp เพื่อเชื่อมโยงกับคุณค่าและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในด้านผลิตภัณฑ์ KATE จะยังคงให้ความสำคัญกับสินค้า 4 หมวดหลัก ได้แก่ รองพื้น, ลิปสติก, อายไลเนอร์ และคิ้ว พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับ อายแชโดว์และมาสคาร่า ซึ่งถือเป็นสินค้าหมวดหมู่ที่สร้างความเป็นผู้นำให้กับ KATE มาอย่างยาวนาน”

สำหรับ ประเทศไทย ด้วยความเปิดกว้างทางวัฒนธรรมและความนิยมในความงามแบบญี่ปุ่น จึงถูกวางให้เป็น ตลาดยุทธศาสตร์สำคัญและประเทศต้นแบบของ KATE ในอาเซียน และในเส้นทางสำคัญครั้งนี้ KATE เปิดตัวแคมเปญ “LIGHTS ON SHADOW” พร้อมแนะนำ “ตู–ต้นตะวัน ตันติเวชกุล” นักแสดงรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความมั่นใจ และคาแรกเตอร์ Cool & Sharp ในฐานะ มิวส์ชาวไทยคนแรกของ KATE ผู้ถ่ายทอดปรัชญา “Enhancing Beauty Through Light and Shadow” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“สำหรับผู้ใช้จำนวนมากในประเทศไทย KATE ได้รับการยอมรับในฐานะ แบรนด์เมคอัพคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ซึ่งภาพลักษณ์นี้ช่วยสร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคอยากทดลองสินค้า แต่ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความผูกพันระยะยาว ภารกิจของเราคือการก้าวข้ามคุณภาพเชิงฟังก์ชัน สู่การสร้าง Brand Love ที่ทำให้ผู้ใช้กลายเป็นแฟนตัวจริง พร้อมพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “I Like KATE” NO MORE RULES. คือคำประกาศ และคำมั่นสัญญาของเรา

แก่นแท้ของ KATE ถูกถ่ายทอดผ่าน Brand Statement “NO MORE RULES.” ในตลาดและอุตสาหกรรมความงามที่มีการแข่งขันสูงของประเทศไทย “เมคอัพมักถูกตีความว่าเป็นแค่ตัวช่วยให้เราดูดีขึ้น หรือทำให้ดูเพอร์เฟ็กต์ตามมาตรฐานที่ใครหลายคนกำหนดไว้” แต่ KATE ท้าทายความเชื่อนั้น เรานิยามความงามใหม่ว่าเป็น การแสดงออกที่ไม่มีข้อจำกัด ไร้ทุกกฎเกณฑ์— เกินกว่ากระแส เกินกว่าความคาดหวัง และเหนือมาตรฐานความงามแบบเดิมที่มีมาอย่างยาวนาน

 KATE กำลังปลดล็อกกฎเกณฑ์และข้อจำกัด เพื่อมอบเสรีภาพให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สร้าง กำหนด และแสดงออกถึงความงามในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะทุกลุค ทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก คือตัวตนที่แท้จริงของคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ KATE แตกต่าง — การผสมผสานระหว่างพลังแห่งความมั่นใจในแบบของตัวเอง และนวัตกรรมญี่ปุ่นคุณภาพสูง และด้วยปรัชญานี้ “เราจะเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้ที่เลือกและเชื่อมั่นใน KATE มั่นใจที่จะบอกว่า I like KATE” KATE เปิดตัวแคมเปญ “LIGHTS ON SHADOW” ถ่ายทอดปรัชญาความงามใหม่แบบญี่ปุ่น และตอกย้ำความงามที่ไร้ข้อจำกัด

KATE ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ผ่านแคมเปญระดับโลก ‘LIGHTS ON SHADOW’ ถ่ายทอดปรัชญา ‘เสริมความงามผ่านแสงและเงา’ โดยเชื่อว่า ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ความคาดหวัง และคำนิยามความงามที่ถูกผูกติดอยู่กับกรอบ หลายคนอาจเลือกซ่อนตัวตนไว้ในเงามืด แต่สำหรับ KATE — เงาไม่ใช่พื้นที่สำหรับการหลบซ่อน หากแต่เป็นเวทีที่ช่วยขับเน้นให้ความงามที่แท้จริงได้เปล่งประกายออกมา เพราะแม้แต่เงาที่มืดที่สุดก็ยังงดงาม เงาไม่ได้บดบังแสง หากแต่ทำให้แสงชัดเจนยิ่งขึ้น

ด้วยแรงบันดาลใจจากแนวคิด IN-EI ของญี่ปุ่น — แนวคิดทางศิลปะและความงามที่ว่าด้วย เงาและแสง หรือ Aesthetics of Shadow — KATE เชิญชวนทุกคนให้กล้าที่จะนิยามเงาใหม่ โอบรับทุกด้านของตัวเอง และปลดปล่อยความงามที่แท้จริงออกมา เพราะ Shadow defines the light

ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา KATE อยู่เคียงข้างผู้ใช้ทั้งในเอเชียและประเทศไทย เข้าใจความต้องการด้านความงามที่หลากหลาย และเล็งเห็นถึงความสำคัญของทั้ง ฟังก์ชันและสไตล์ จนสามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่นเสมอมา

สำหรับแคมเปญ “LIGHTS ON SHADOW” แบรนด์ได้นำเสนอเทคนิคการแต่งหน้าที่ใช้ แสงและเงาในการขับเสน่ห์ สร้างมิติ และทำให้ความงามโดดเด่นทุกองศา หรือที่เรียกว่า Shadow Enhancing Makeup

KATE ถ่ายทอดพลังของเมคอัพผ่านการเล่าเรื่อง — จากภาพอนิเมะสไตล์ 2 มิติ สู่ภาพ 3 มิติแบบ Photorealistic ที่สมจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่า Shadow Enhancing Makeup หรือ “เมคอัพด้วยเงา” สามารถช่วยให้ทุกคนปลดล็อกข้อจำกัดด้านความงามที่เคยมีอยู่ เผยตัวตนที่แท้จริง และเสริมความมั่นใจในแบบของตัวเอง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา KATE คือผู้นำด้าน Shadow Enhancing Makeup และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น:

KATE Mellow Brown Eyes อายแชโดว์ที่กลมกลืนกับผิวเพื่อขับดวงตาให้โดดเด่น

KATE Designing Eyebrow 3D พาเลตต์เขียนคิ้วไอคอนนิคแบบฝุ่น ไล่เฉดสีอ่อน–เข้มเพื่อสร้างมิติอย่างเป็นธรรมชาติ

KATE Super Sharp Liner EX 4.0 อายไลเนอร์เส้นคมพิเศษ เขียนง่าย คมชัด และติดทนนาน

KATE LIP MONSTER ลิปสติกที่ใช้พลังของเงาเพิ่มความมั่นใจ เติมสีสันและเสน่ห์ที่ยาวนาน

ดังนั้น “Lights On Shadow” จึงไม่ใช่เพียงแค่แคมเปญ แต่คือ ปรัชญาความงามที่ไร้ข้อจำกัด — ความงามที่มีเพียง KATE เท่านั้นที่สามารถมอบได้  Lights On Shadow. This is beauty, the KATE way.

ในงานครั้งนี้ ถือเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่าง KATE แบรนด์เครื่องสำอางอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น EVEANDBOY บิวตี้สโตร์อันดับ 1 ของเมืองไทย และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ จัดกิจกรรม KATE TOKYO “LIGHTS ON SHADOW” EVENT เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาทดลองสินค้าในกลุ่ม LIGHTS ON SHADOW และร่วมกิจกรรมสุดพิเศษตลอดวันที่ 4-7 กันยายน 2568  ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวของ Brand Muse ในประเทศไทย ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล, กิจกรรมพิเศษจาก มาร์ค– จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์ นักแสดงชื่อดังจากเรื่อง ซีรีส์เรื่อง “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ที่มาพร้อมกับ JUMMO (จัมโม่) คาแรคเตอร์ตัวแทนแฟนคลับของ จูเนียร์-มาร์ค, กิจกรรมเวิร์คช็อป “Makeup Demonstration” จากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง อายตา (Eyeta) และ กิจกรรมจากนักแสดงดาวรุ่ง จากซีรีย์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด” เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย และ น้ำปิง-นภัสกร ปิงเมือง

ภายในงาน ‘ตู–ต้นตะวัน ตันติเวชกุล’ นักแสดงสาวรุ่นใหม่ที่มีสไตล์และคาแรกเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนเสน่ห์ Cool & Sharp ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ Brand Muse คนแรกของ KATE ประเทศไทย เพื่อถ่ายทอดแนวคิด ‘เสริมความงามผ่านแสงและเงา’ ผ่านมุมมองที่ทั้งลึกซึ้งและเข้าถึงได้

“KATE คือแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนในความเท่และความโมเดิร์น ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น แต่สามารถเข้าถึงใจสาวไทยได้ง่ายมาก ทั้งในเรื่องของโทนสีผิวหรือเทรนด์การแต่งหน้า และถ้านึกถึง KATE ก็จะนึกถึงคำว่า ‘คุณภาพ’ และ ‘ความคุ้มค่า’ พร้อมกันเลยค่ะ”

 “เมคอัพไม่ใช่แค่เรื่องของความสวย แต่เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ในแต่ละวัน แค่แต่งหน้านิดเดียวก็ทำให้เรารู้สึกมั่นใจขึ้น เหมือนเป็นพลังเล็กๆ ที่ช่วยให้เรามีความสุขกับตัวเองทุกวันค่ะ”

ตูยังได้กล่าวถึงความสำคัญของมิติบนใบหน้าเมื่อต้องอยู่หน้ากล้องว่า “กล้องและแสงมักทำให้รายละเอียดบนหน้าเราดูหายไป เพราะมันเก็บมิติสู้ตาเปล่าไม่ได้ เมคอัพจึงเป็นผู้ช่วยสำคัญที่เติมชีวิตชีวา เพิ่มมิติ และช่วยให้ภาพออกมาดูดีขึ้นจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามั่นใจ ภาพที่ออกมาก็จะยิ่งดูดี”

แนวคิดของ KATE ที่ว่า “เสริมความงามผ่านแสงและเงา” ได้ถูกสะท้อนผ่านมุมมองของ ตู–ต้นตะวัน อย่างชัดเจนว่า “แนวคิดการ เสริมความงามผ่านแสงและเงา เป็นสิ่งที่ทรงพลังและสามารถส่งต่อพลังบวกให้กับผู้ใช้ได้อย่างมาก เพราะการใช้แสงและเงาในการแต่งหน้า ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่คือการขับเน้นจุดเด่นเฉพาะของแต่ละคนให้ชัดเจนขึ้น ถือเป็นการยอมรับและเฉลิมฉลองความเป็นตัวเอง ผ่านศิลปะแห่งการแต่งหน้า เหมือนเป็นการยืนยันว่า เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่สามารถโดดเด่นได้ในแบบของเราเอง”

บทบาทของ “ต้นตะวัน” ในแคมเปญนี้ จึงไม่เพียงแค่เป็นตัวแทนของแบรนด์ แต่ยังสะท้อนแก่นแท้ของแนวคิด “LIGHTS ON SHADOW” อย่างแท้จริง และยังเป็นผู้ส่งต่อแนวคิดอันทรงคุณค่าของ KATE ให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้างอย่างลึกซึ้ง

อีกหนึ่งไฮไลท์คือ Beauty Talk ที่เผยเคล็ดลับเมคอัพไอเท็มโปรดของ ตู ต้นตะวัน อาทิ KATE Super Sharp Liner EX 4.0 สำหรับลุคดวงตาคมชัดแบบซิกเนเจอร์ และ LIP MONSTER ที่แต่ละเฉดสีสะท้อนอารมณ์และสไตล์ที่แตกต่าง พร้อมการสาธิต Live Swatch จากเมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดังที่โชว์ให้เห็นพลังของ “Mood Shade” ในการสร้างสรรค์ลุคที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง

นอกจากกิจกรรมสุดพิเศษจากศิลปิน สำหรับเหล่าแฟนคลับและผู้โชคดี ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิเช่น Makeup Station ที่จัดเต็มด้วย Tester ให้ได้ทดลองจริงอย่างจุใจ จากคอลเลคชัน “LIGHTS ON SHADOW” เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ค้นพบมิติใหม่แห่งความงามด้วยตัวเองอย่างแท้จริง, กิจกรรมสะสม “SHADON” สแตมป์ เพื่อรับผลิตภัณฑ์ LIP MONSTER ขนาดทอลอง หรือมุมถ่ายภาพสวยงามรอบงาน เรียกได้ว่านอกจากจะได้เทคนิคเมคอัพแสงและเงาที่สามารถนำไปใช้ได้จริงยังได้รับของรางวัลสุดพิเศษติดมือกลับไปกันอีกด้วยแน่นอน

“โอปอล สุชาตา Miss World 2025”  เช็คอินแลนด์มาร์กใหม่ #CentralParkBangkok

กระแสแรงต่อเนื่อง #CentralParkBangkok ในโมเมนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ ‘โอปอล สุชาตา’ Miss World 2025 ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์เหนือระดับ ในแบบ Global Citizen มาเช็คอินแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

โซเชียลยังฮอตต่อเนื่องกับ ‘Central Park’ พื้นที่ของคนทุกเจเนอเรชั่นที่สามารถมาใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ Here for all of you ครั้งนี้เมื่อ โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในประเทศไทย ทางCentral Park จึงไม่รอช้าส่ง Exclusive Invitation มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ “ศูนย์การค้าแห่งอนาคต” รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมืองครบทุกมิติที่สุด โดยมีคุณสุพัตรา จิราธิวัฒน์ ที่ปรึกษากลุ่มเซ็นทรัล และคุณคุณายุธ เดชอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสินทรัพย์ เซ็นทรัล พาร์ค บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)

ให้การต้อนรับและแนะนำจุดต่างๆ พร้อมถ่ายรูปเช็คอินสุดเอ็กคลูซีฟ กับจุดไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ Infinity Skyline จุดชมวิวเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯแบบพาโนรามา 180 องศา บน Roof Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย พร้อมด้วย Natural Walk Trail เส้นทางเดินออกกำลังกายยาว 750 เมตร, Kids Park, Pets Park, Amphitheatre สำหรับกิจกรรมชุมชน และ Happening ด้าน Art & Culture ที่สร้างสีสันให้ชีวิตเมือง และมุมมหาชน โถงบันไดเลื่อนที่จะเป็น Must-visit photo landmark ที่ต้องมาเช็คอินให้ได้

อย่าพลาดมาเช็กอินถ่ายรูปที่ Central Park แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่แม้แต่ Miss World 2025 ยังไม่ยอมตกเทรนด์ Social! ใครยังไม่มีรูปสวยๆ ที่นี่ รีบตามมาได้ง่ายๆ ด้วย BTS สถานีศาลาแดง หรือ MRT สถานีสีลม

#CentralParkBangkok #HereForAllOfYou #เซ็นทรัลพาร์คแบงค็อก

#CentralPattana #เซ็นทรัลพัฒนา

#OpalSuchata #MissWorld #โอปอลสุชาตา

“อแมนด้า” ร่วมปลดล็อคปัญหาแห่งวัย  ในงานเปิดตัว Vichy Liftactiv Collagen Specialist 16

Vichy (วิชี่) แบรนด์เวชสำอางชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส จัดงาน Vichy Collagen 16: New Era of Youth ปลดล็อคปัญหาแห่งวัย ด้วยผลิตภัณฑ์  “Vichy Liftactiv Collagen Specialist 16 – Bonding Serum” เซรั่มบูสต์โปร-คอลลาเจนเปปไทด์ที่จำเป็นต่อผิว ช่วยฟื้นฟูผิวได้ถึง 16 ประการ ด้วย “Co-Bonding Technology” เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของ Vichy ที่รวม Active Ingredient ตัวเก่งไว้ด้วยกันที่ Vichy วิจัยอย่างต่อเนื่องมาถึง 15 ปี เพื่อ “Boost & Bond” โปร-คอลลาเจนเปปไทด์ โดยชวน  อแมนด้า ออบดัม Vichy Liftactiv Brand Partner มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผิวสวย เฟิร์มกระชับ  ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

ภายในงานนอกจากจะได้เรียนรู้ ถึงความสำคัญของคอลลาเจนที่จำเป็นต่อผิวยังได้เรียนรู้ ถึงนวัตกรรมของ “Co-Bonding Technology” ที่จะช่วยปลดล็อคปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด โดยการ “Boost  & Bond” โปร-คอลลาเจนเปปไทด์ โดยจะ Boost ผิวที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียคอลลาเจน และ Bond พันธะของคอลลาเจนเพื่อช่วยฟื้นฟูสัญญาณแห่งวัย ด้วย “Matrixyl Peptide” เปปไทด์ที่ทรงพลัง ช่วยบูสโปร-คอลลาเจนเปปไทด์ ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว “Rhamnose” ช่วยปลุกผิวให้แข็งแรง แลดูผิวสุขภาพดี และ “Maitake Extract” ช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปลดล็อคปัญหาแห่งวัย ที่จะช่วยฟื้นฟูผิว  ซึ่งได้รับการค้นคว้าวิจัยกว่า 15 ปี

ในงานนี้ ยังพบกับเซอร์ไพรส์จากกิจกรรมสุดเอ็กคลูซีพของ 2 หนุ่ม บุ๋น-นพณัฐ กันทะชัย และ เปรม-วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ รวมกับผู้โชคดี 50 ท่าน พร้อมศิลปินร่วมงานมากมาย อาทิ 2 หนุ่ม เต-ตะวัน วิหครัตน์ และ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ที่มาพร้อมกับลูกรัก โพก้าซัง ร่วมด้วย ซินดี้-สิรินยา บิชอพ, ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, ยิปโซ-อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์, กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี, ดาว-ณัฐภัสสร สิมะเสถียร และ แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน

Vichy Liftactiv Collagen Specialist 16 พร้อมปลดล็อคปัญหาแห่งวัยได้ถึง 16 ประการ พร้อมให้ช้อป ในหลากช่องทาง Boots, Watsons, Eveandboy, Beautrium ร้านขายยาและรพ. ชั้นนำทั่วประเทศ           

#Collagen16NewEraOfYouth #VichyCollagen16 #CoBondingSerum #เซรั่มคอลลาเจน16 #เซรั่มปลดล็อคผิวแก่ #MEandMyCollagen #VichyTH #LiftactivTH

สยามเซ็นเตอร์ กับครั้งแรกในเมืองไทยMappy คอนเซ็ปต์สโตร์รูปแบบใหม่

สยามเซ็นเตอร์  เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เปิดประสบการณ์ช็อปปิงในบรรยากาศตามธีมคาแรกเตอร์กับ Mappy คอนเซ็ปต์สโตร์รูปแบบใหม่แห่งแรกในประเทศไทยพร้อมรวบรวมเหล่า Character IPs จากทั่วโลก มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแบบ exlclusive ครั้งแรกในเมืองไทย!

ร้าน Mappy ภายใต้บริษัท บ้านหมีโชคดี จำกัด จากความร่วมมือของสองผู้คร่ำหวอดในแวดวงสินค้าIPs อย่างบริษัท เทคทอยส์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธ์และสินค้าไลฟ์สไตล์ชื่อดังของเมืองไทย และ บริษัท ยูโฟเรีย ทเวนตี้ทรี จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธ์และสินค้า K Pop ซึ่งเคยร่วมงานกับคาแรกเตอร์ดังมาแล้วมากมาย ร่วมกันนำเสนอ character ยอดนิยมในรูปแบบ pop-up และ showcase เปิดโอกาสให้แฟนๆ คนไทยได้สัมผัส character ในดวงใจอย่างใกล้ชิด ผ่านสินค้า กิจกรรม และการตกแต่งภายในร้านตามธีม โดยแต่ละช่วงเวลาจะนำเสนอ character ที่แตกต่างกันหมุนเวียนไปตลอดทั้งปี สร้างประสบการณ์สนุกสนานแปลกใหม่ พร้อมพบกับสินค้า exclusive ก่อนใคร โดยเลือกทำเลแลนดิ้ง ครั้งแรกที่สยามเซ็นเตอร์!

สำหรับการเปิดตัวครั้งแรก นำเสนอ Momorei x Mappy พบกับ 4 คาแรกเตอร์จากเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น Rico กระต่ายแฟชั่นนิสต้า, Pinco หมีขนปุกปุยขี้อาย, Moco หมาสายซัพพอร์ท และ Shuco แมวสีฟ้าสุดซุกซน ในบรรยากาศตกแต่งร้านสุดน่ารักมาพร้อม สินค้าลิขสิทธิ์และโซนถ่ายรูป

นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีโซนคาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งขนมและเครื่องดื่ม ตามคอนเซ็ปต์ธีมแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้ได้เลือกชมสินค้า พร้อมเพลิดเพลินไปกับเมนูสุดพิเศษที่ครีเอตอย่างตั้งใจ

โดยในวันเปิดร้านอย่างเป็นทางการ Mappy café & store grand opening ยังได้ เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย นักแสดงหนุ่มสุดฮอตมากความสามารถ จากบทบาท “พ่อครูภรัณ” ในซีรีส์ เขมจิราต้องรอด ที่มาร่วมงานเปิดร้านอย่างเป็นทางการ พร้อมแชร์ความสนุกกับแฟนๆ และสื่อมวลชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ตอกย้ำความเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจสำหรับทุกคน สัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งและความสนุกสนานที่เปลี่ยนแปลงตาม character theme อย่างเต็มรูปแบบและเพลิดเพลินในพื้นที่ศูนย์รวมจินตนาการเพื่อให้นักสะสมได้อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ได้แล้ววันนี้ ที่ Mappy ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ เท่านั้น

“ญาญ่า – อุรัสยา” ชวนเปิดประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษSeafood from Norway Festival 2025

Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทยถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ

นางสาวโอซฮิลด์ นัคเค่น ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เปิดเผยว่า “การเดินทางของ Seafood from Norway ในประเทศไทยเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจ ตั้งแต่การแนะนำประเทศแหล่งที่มา ไปจนถึงการส่งเสริมการนำวัตถุดิบอาหารทะเลนอร์เวย์มาใช้ในอาหารไทย ในปีนี้ยิ่งมีความพิเศษมากขึ้น ด้วยการนำบรรยากาศอันหนาวเย็นของนอร์เวย์มาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงประเทศไทย เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นประเทศแห่งอาหารทะเลที่มีสภาพแวดล้อมอันสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับการเติบโตของปลา ทำให้กลายเป็นอาหารทะเลที่มีคุณภาพโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบทั่วโลก เทศกาลครั้งนี้มุ่งส่งเสริมความรู้เรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ผ่านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และความทุ่มเทของผู้คน เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลต่อไปในอนาคต ในขณะเดียวกัน เรายังต้องการสร้างสายสัมพันธ์กับคนไทย ผ่านกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟที่สนุกสนาน ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินและเรียนรู้เกี่ยวกับ Seafood from Norway ไปพร้อม ๆ กัน”

Seafood from Norway Festival 2025 มาพร้อมกับห้าโซนประสบการณ์ที่รอให้ผู้เข้าชมทุกคนได้มาสัมผัส โซนที่ 1 ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-นอร์เวย์ ร้อยเรียงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โซนที่ 2 เรื่องราวความเป็นมาของ Seafood from Norway พร้อมกระชังปลาจำลอง โซนที่ 3 อาหารทะเลแต่ละชนิด และลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ ทั้ง แซลมอนนอร์เวย์ ฟยอร์ดเทราต์ และนอร์วีเจียนซาบะ พร้อมกับห้องแล็บจำลองที่โชว์นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โซนที่ 4 โซน VR Game เกมเสมือนจริง และ โซนที่ 5 Dining with Aurora ไฮไลท์ของงาน นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังสามารถแวะชิมอาหารทะเลจากนอร์เวย์ โดย เชฟจิ๊บ – ชภรภัช ดาภาชุติสรรค์ เลือกช้อปปิ้งสินค้าพรีเมียมจากบูธพาร์ทเนอร์ของ Seafood from Norway ในบรรยากาศแบบหมู่บ้านที่นอร์เวย์ เพลิดเพลินกับเวิร์คช็อปเพ้นท์สีดีไอวาย โดยสีโจตัน ถ่ายภาพที่โฟโต้โซน และแลกรับของที่ระลึกที่บูธกาชาปอง โดยภายในพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นางอัสตริด เอมีเลีย เฮลเล เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยและกัมพูชา พร้อมด้วย ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรีเซนเตอร์ของ Seafood from Norway ประเทศไทย

ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรีเซนเตอร์ Seafood from Norway ประเทศไทย กล่าวว่า “ญ่ารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในงาน Seafood from Norway Festival 2025 ที่ให้ทุกคนได้สัมผัสถึงบรรยากาศของนอร์เวย์ ซึ่งถูกยกมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศนอร์เวย์มีธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนที่มีความเคารพต่อธรรมชาติและยังมุ่งมั่นทำงานอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อส่งมอบอาหารทะเลคุณภาพเยี่ยมให้กับพวกเราทุกคน คุณค่าทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมอยู่ในวัฒนธรรมของนอร์เวย์อย่างเด่นชัด ทำให้อาหารทะเลจากนอร์เวย์มีความพิเศษ ไม่เหมือนใคร”

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ประเทศไทยได้นำเข้าแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์จากนอร์เวย์มากกว่า 16,000 ตัน ปริมาณเพิ่มขึ้นนับเป็น 43% มูลค่าเพิ่มขึ้น 12% ปัจจุบันนอร์เวย์เป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งมอบอาหารทะเลคุณภาพสูงสู่ 150 ประเทศทั่วโลก เทียบเท่า 38 ล้านมื้อต่อวัน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Seafood from Norway ได้ทางอินสตาแกรม Seafood from Norway Thailand หรือเว็บไซต์

#SeafoodfromNorwayFestival2025

“คอสเดนท์” คว้ารางวัลรางวัลใหญ่ระดับเอเชีย 3 ปีซ้อน Master Entrepreneur Award จากเวที APEA 2025

COSDENT (คอสเดนท์) ตอกย้ำการเป็นผู้นำบริการด้านทันตกรรมชั้นนำของประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยิ่งใหญ่ Master Entrepreneur Award ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากเวทีระดับภูมิภาค Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้บริหารองค์กรธุรกิจประกันชีวิตที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านบริหารงาน การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยค่ำคืนแห่งความภาคภูมิใจในครั้งนี้ คุณสรรเสริญ เกียรติเวชสุนทร กรรมการผู้จัดการ คลินิกทันตกรรม COSDENT พร้อมด้วยผู้บริหาร ทันตแพทย์สันติราช เกียรติเวชสุนทร, ทันตแพทย์หญิง อรวดี เกียรติเวชสุนทร และคณะแพทย์ ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมใจเข้าร่วมงานประกาศรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย จากเวที Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล โดย Enterprise Asia องค์กรอิสระชั้นนำที่ไม่แสวงหากำไร มุ่งสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพของภาคธุรกิจ และการรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการคัดเลือกองค์กรชั้นนำจากกว่า 16 ประเทศในภูมิภาคที่มีความเป็นเลิศด้านต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของแต่ละองค์กรที่ได้รับรางวัลไปสู่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก

สำหรับรางวัล “Master Entrepreneur Award” จาก Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025ถือเป็นรางวัลใหญ่ระดับสากลที่ คลินิกทันตกรรม COSDENT ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้บริหารองค์กรธุรกิจประกันชีวิตที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านบริหารงาน การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน นับเป็นเกียรติยศสูงสุดสำหรับผู้นำองค์กรที่มีผลงานอันโดดเด่นและมีสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นที่ยอมรับในธุรกิจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคือผู้นำของธุรกิจที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านทันตกรรมชั้นนำของประเทศไทย ในระดับภูมิภาคและระดับสากล ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย จากการเอาใจใส่และเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

โดย สรรเสริญ เกียรติเวชสุนทร กรรมการผู้จัดการ คลินิกทันตกรรม COSDENT เผยว่า “คอสเดนท์ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์กร โดยการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์จากทุกหน่วยงาน ซึ่งได้ผลในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการนำพัฒนาองค์กร ตามแนวคิดในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนภายใต้หลักบรรษัทภิบาลและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ รางวัลที่บริษัทฯ ได้รับนั้นยังเป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำงานด้วยมาตรฐานสูงและความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ตลอดจนแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ตอบโจทย์และความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง  จนทำให้บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้า”

ผู้สนใจสามารถติดตามนวัตกรรมและข่าวสารอื่นๆ ของ COSDENT ได้ที่ช่องทางออนไลน์ FACEBOOK: COSDENT, INSTAGRAM: COSDENTSMILEDESIGN, YOUTUBE: COSDENT และTIKTOK: COSDENT

เปิดรั้วปี ๖๘ หลักสูตรใหม่สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

เปิดรั้วเป็นครั้งแรกต้อนรับปีการศึกษา ๒๕๖๘ สำหรับ คณะวิทยาศาสตร์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โชว์หลักสูตรนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ตามปรัชญาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต” และในปีการศึกษาล่าสุดนี้ได้เปิด ๒ หลักสูตรใหม่ วิศวกรรมชีวการแพทย์ และ เทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ เติมเต็มบุคลากรออกสู่ตลาดแรงงานด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยครั้งนี้ ได้เปิดให้เยี่ยมชมห้องการเรียนการสอนและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ณ อาคารวิจัยและการเรียนรู้ เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๘: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดโครงการแนะนำหลักสูตรใหม่สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ นำโดย รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.จตุพร กระจายศรี รักษาการคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ได้กล่าวถึงภาพรวมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นสถาบันการศึกษาที่มีพันธกิจสำคัญในด้านการวิจัย สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านสุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและสังคม โดยส่งเสริมและสนับสนุนการทำวิจัยของบุคลากรในประเด็นที่มุ่งแก้ไขปัญหาสุขภาพต่างๆ มุ่งสร้างความเป็นเลิศด้านการวิจัยและนวัตกรรมเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืน สืบสานพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดี พร้อมแนะนำหลักสูตรใหม่ระดับปริญญาบัณฑิต ๓ หลักสูตรตามพระปณิธาน ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ และ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ ประกอบด้วย

อาจารย์ ดร.ปิยะวัฒน์  ปิติกุลธรรม รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะวิทยาศาสตร์ บรรยายแนะนำ หลักสูตรวิทยาศาตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีรูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิดวิเคราะห์และสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการหรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์อุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้นักศึกษาในชั้นปีที่ ๔ ยังได้มีการฝึกปฏิบัติงานวิจัยทั้งภายในและภายนอกสถาบันรวมระยะเวลา ๑ ปีเต็ม เพื่อเสริมสร้างทักษะทางด้านการวิจัย นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาสามารถทำงานเป็นผู้ช่วยวิจัย นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือนวัตกรด้านการแพทย์ และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูงขึ้นได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรภพ นัยเนตร หัวหน้าโครงการจัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ บรรยายแนะนำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๘ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร สนับสนุนระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเป็นศาสตร์ที่บูรณาการองค์ความรู้ผสมผสานหลักการของวิศวกรรมเข้ากับชีววิทยาและการแพทย์เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถออกแบบพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย รักษา และฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตรมีจุดเด่นที่ครอบคลุมงานทางด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ในทุกมิติ เช่น งานเครื่องมือแพทย์ งานวิศวกรรมโรงพยาบาล งานวิจัย รวมถึงงานด้านระเบียบข้อบังคับมาตรฐานทางด้านเครื่องมือแพทย์ นักศึกษาจะได้ฝึกจากห้องปฏิบัติการเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหาจริงทางการแพทย์ รวมทั้งเพิ่มโอกาสสร้างเครือข่ายผ่านการเรียนแบบโมดูล โดยการเปิดโอกาสให้นักศึกษาเรียนร่วมกับบุคลากรภายนอกในสายวิชาชีพวิศวกรชีวการแพทย์ อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการทำงานผ่านระบบการฝึกงานระยะยาว ๓ เดือน ในช่วงของปี ๔ เทอม ๒ เป็นการเพิ่มโอกาสให้ได้ทำงานต่อหลังจากฝึกงานเสร็จ

รองศาสตราจารย์ ดร.วาณี ชนเห็นชอบ หัวหน้าโครงการจัดตั้งคณะอุตสาหกรรมเกษตร แนะนำหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ บรรยายถึงภาพรวมของหลักสูตรฯ จากที่ปัจจุบันอาหารทางการแพทย์และสุขภาพมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาต่างประเทศในด้านนี้อยู่มาก จึงจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรและสร้างองค์ความรู้อย่างเร่งด่วน เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนไทยได้อย่างแท้จริง จึงได้ออกแบบหลักสูตรเทคโนโลยีอาหารทางการแพย์และสุขภาพ โดยได้รับการอนุมัติและเปิดรับนักศึกศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๘ เป็นปีแรก เป็นหลักสูตรความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีอาหาร เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ อันจะนำไปสู่การสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ และควบคุมคุณภาพอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป สู่การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมตามพระปณิธาน

ทั้งนี้ สถานที่จัดการเรียนการสอนของ ๓ หลักสูตรใหม่ ตั้งอยู่ที่อาคารอาคารวิจัยและการเรียนรู้ เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ จัดสร้างขึ้นในโครงการเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสที่ทรงพระเจริญพระชันษาครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อสนองพระปณิธานและสนับสนุนการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์และพันธกิจสำคัญ ในการเป็นศูนย์รวมการวิจัยสร้างองค์ความรู้ และสร้างนวัตกรรมที่มุ่งเป้าตามแนวทางของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตที่เป็นผู้นำและนักวิจัยทางวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยี การแพทย์ และการสาธารณสุข ภายในอาคารได้กำหนดการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้กับหน่วยงานที่มีหน้าที่สนับสนุนด้านการศึกษา วิชาการ วิจัย และนวัตกรรมให้กับส่วนงานต่างๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกอบด้วย

  • ชั้น ๑ – ๓ พื้นที่การเรียนรู้ อาทิ ออดิทอเรียม โถงนิทรรศการ ห้องสมุด ห้องเรียน ห้องประชุม ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ พื้นที่อเนกประสงค์ และ พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน
  • ชั้น ๔ – ๖ พื้นที่การทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรม อาทิ ห้องปฏิบัติการวิจัยเฉพาะทาง ห้องปฏิบัติการเพื่อความเป็นเลิศด้านการคิดค้นยา ห้องปฏิบัติการชีวสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์ยีโนม ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาคลินิกเชิงระบบ และ ห้องนิทรรศการแสดงผลงาน
  • ชั้น ๗ – ๙ พื้นที่สำหรับจัดตั้งขึ้นใหม่ตามพระปณิธาน ประกอบด้วย คณะวิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ และโครงการจัดตั้งคณะอุตสาหกรรมเกษตร

DITP ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน เปิดตัว BIDC 2025 ยิ่งใหญ่

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จับมือหน่วยงานรัฐ-เอกชนกว่า 10 แห่ง เปิดงาน Bangkok International Digital Content Festival 2025 (BIDC 2025) อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 25–28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 และโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ สามย่าน ตั้งเป้าสร้างมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 950 ล้านบาท พร้อมผลักดันไทยสู่ “Thailand: Asia’s Digital Content Destination” ปีนี้ BIDC จัดขึ้นเป็นปีที่ 12 โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 150 บริษัท จาก 12 ตลาดเป้าหมาย พร้อมกิจกรรม จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กว่า 850 คู่ เจาะตลาดสำคัญทั่วโลก

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ประธานเปิดงาน เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เติบโตเร็วและเป็นโอกาสสำคัญของเศรษฐกิจไทย DITP จึงเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรม Business Matching และ Business Networking ซึ่งปีนี้มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 87 บริษัทและผู้ประกอบการต่างประเทศ 62 บริษัท จาก 12 ตลาดเป้าหมายรวมทั้งสิ้นกว่า 150 บริษัท มากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา สะท้อนให้เห็นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก ผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายหลักด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในเอเชียได้อย่างเป็นรูปธรรม และยังมีส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้าธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง“

นางสาวปราณิสา เตียวพิพิธพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม “ปีนี้เป็นครั้งแรกที่กรมฯ ร่วมขับเคลื่อนงาน BIDC เพื่อแสดงศักยภาพคนไทยและผลักดันดิจิทัลคอนเทนต์สู่เวทีโลก ตามนโยบาย SOFT POWER ผ่านกิจกรรมจัดแสดงผลงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์ที่รวบรวมผู้ประกอบการกว่า 70 ราย บนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร โดยมีการนำเสนอผลงานและขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้ง ยังมีการฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน, การเสวนาและสัมมนากว่า 16 หัวข้อ ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการต่อยอดผลงาน เสริมศักยภาพบุคลากรให้พร้อมก้าวสู่มาตรฐานสากล”

ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) งาน BIDC ยังคงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายและแสดงให้ต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพ และผลงานคุณภาพของผู้ประกอบการไทย ส่วนการประกาศรางวัลด้านดิจิทัลคอนเทนต์ ปีนี้ ดีป้าได้ร่วมกับสมาคมฯ ในการให้รางวัลในสาขา Legacy Award in Thai Digital Content ที่จะมอบให้แก่บุคคลหรือองค์กร

ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นและทรงคุณค่ามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตลอดจนช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

นายสุมิตร สีมากุล นายกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) “BIDC คือเวทีสำคัญที่แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยต่อสายตาโลก ช่วยต่อยอดผลงานสู่ต่างประเทศ และสร้างโอกาสธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ในปีนี้ยังมีเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาแบ่งปันความรู้เพื่อเสริมแกร่งให้ชุมชนดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ขณะที่ สสปน. (TCEB) หนุนให้ BIDC เป็นแพลตฟอร์มศูนย์กลางการพบปะ แลกเปลี่ยน และขยายเครือข่ายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการ Pitching ในกิจกรรมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมเกม แอนิเมชัน และการพิมพ์ ได้นำเสนอผลงานเพื่อขยายสู่ตลาดโลก ย้ำบทบาทไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลคอนเทนต์แห่งเอเชีย

ไฮไลต์กิจกรรม BIDC 2025

– กิจกรรมเจรจาการค้า (Business Matching) กว่า 850 คู่

– กิจกรรมสร้างเครือข่าย (Business Networking)

– พิธีลงนาม MOU ระดับนานาชาติ เชื่อมเครือข่ายธุรกิจไทย-ต่างประเทศ

– นิทรรศการ Showcase ผลงานแอนิเมชัน เกม วิชวลเอฟเฟกต์ คาแรคเตอร์ และสื่อเรียนรู้

– สัมมนา/เวิร์กช็อป โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ

– Pitching Stage เปิดเวทีให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่พบผู้ซื้อจริง

– การประกาศรางวัล BIDC Awards 2025 ยกย่องผลงานสร้างสรรค์โดดเด่นของไทย

– Screening Animation ฉายแอนิเมชันคัดพิเศษ เปิดประสบการณ์ใหม่ในวงการดิจิทัลคอนเทนต์

– Job fair

งาน BIDC 2025 เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์, สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA), กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) รวมถึง 5 สมาคมด้านดิจิทัลคอนเทนต์ ได้แก่ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT), สมาคมอีเลิร์นนิ่งแห่งประเทศไทย (e-LAT), สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA), สมาคมBangkok ACM SIGGRAPH (BASA) และสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) และพันธมิตรนานาชาติอย่าง TAICCA (Taiwan Creative Content Agency), สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, สถาบันส่งเสริมวัฒนธรรมฝรั่งเศสประจำประเทศเวียดนาม (Institut Français du Vietnam) และสมาคม FranceVFX

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต งาน BIDC 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ และโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ สามย่าน ชั้น 5

TALON เปิดบูธดูแลสุขภาพเท้าเฉพาะทาง สร้างเทรนด์สุขภาพใหม่ “เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่เท้า”

TALON (ทาลอน) แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพ  นำโดย คุณพรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ฟุต คลีนิค จำกัด และ คุณปทุมรัตน์ เตชะสมบูรณากิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้เชี่ยวชาญด้านเท้า (Foot Specialist)ผนึกกำลังกับ บริษัท เซฟดรักเซ็นเตอร์ จำกัด จัดกิจกรรมที่

โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดบูธ Foot Clinic by TALON เพื่อให้บริการด้านสุขภาพเท้าแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ครบจบทุกปัญหาสุขภาพเท้าเฉพาะบุคคล เช่น เท้าเบาหวาน, รองช้ำ, เท้าผิดรูป, เด็กเท้าแบน, ข้อเท้าล้ม นักกีฬาและผู้ที่ต้องการเสริมสมรรถภาพในการเคลื่อนไหว โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเท้า (Podiatrist) คอยให้คำปรึกษา หาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพเท้าได้แม่นยำและตรงจุด พร้อมทั้งแนะนำรองเท้าที่เหมาะสม สั่งตัดรองเท้า/แผ่นรองเท้า ทางการแพทย์ที่ช่วยได้จริง

ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่โรงพยาบาลชั้นนำให้ความเชื่อมั่น ไว้วางใจ ให้ TALON (ทาลอน) แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพ มาทำการเปิดบูธที่โรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพเท้า สามารถมาแสกนเท้าด้วยเครื่อง 3D Foot Scanner และรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ เดือนละ 1 ครั้ง เป็นกิจกรรมเพื่อสังคม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

คุณพรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ฟุต คลีนิค จำกัด เผยว่า “เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่เท้า ดังนั้นการใส่ใจดูแลสุขภาพเท้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญ การที่แบรนด์ TALON (ทาลอน) ได้มาเปิดบูธที่โรงพยาบาลชั้นนำ ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นที่โรงพยาบาลและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเท้าให้การยอมรับว่าแบรนด์ของเราไม่ได้แค่ขายรองเท้าสุขภาพ แต่เราสามารถช่วยแก้ปัญหาเท้าได้จริงเพราะหากได้ลองใช้รองเท้าสุขภาพทั่วไปแล้วยังไม่ดีขึ้น TALON จะแนะนำให้เข้ารับการวินิจฉัยกับทีมนักเวชศาสตร์สุขภาพเท้า (Podiatrist) ของเรา ซึ่งมีอยู่เพียง 3 ท่านในประเทศไทย เพื่อให้คำแนะนำ พร้อมแก้ไขในทุกปัญหาสุขภาพเท้าอย่างตรงจุด ซึ่งจะทำให้สามารถเลือกรองเท้าได้เหมาะกับสุขภาพเท้าเฉพาะบุคคลได้จริง”

ผู้บริหารฯ เผยต่ออีกว่า “สิ่งที่ทำให้แบรนด์ TALON ได้รับความไว้วางใจจากผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลชั้นนำ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเท้า ก็คือเรื่องของบริการที่ครบวงจร นอกจากจะวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาได้ตรงจุดและแม่นยำ ด้วยเครื่องสแกนเท้า เทคโนโลยี่ AI ที่ทันสมัยแล้ว เรายังเป็นโรงงานสั่งตัดรองเท้าที่แก้ปัญหาเฉพาะบุคคล (Customized shoes) และแผ่นรองเท้าทางการแพทย์ (Medical Insole) ให้กับผู้ป่วยเบาหวาน รพ บำรุงราษฎร์ และ รพ ลาดพร้าว มีการดูแลแก้ปัญหาให้จนหายขาด ต่างจากแผ่นรองเท้าสั่งตัดในห้าง (Supportive Insole) สำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มาก เราแนะนำให้ใช้ Rebecca Lim’s by TALON ซึ่งเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพดีไซน์ทันสมัยจากเกาหลี

ผลิตจากวัสดุนาโนไมโครไฟเบอร์ นุ่ม เบา ยืดหยุ่นตามรูปเท้า รองรับแรงกด ลดอาการเจ็บ เป็นรองเท้าสุขภาพที่หมอเท้าแนะนำ สามารถสลับเปลี่ยนใช้ Medical Insole ได้ทุกรุ่น การเลือกรองเท้าสุขภาพที่ดี ไม่ใช่แค่นุ่ม สวมสบาย แต่ต้องสามารถช่วยแก้ปัญหาให้เท้าเราได้ เช่น เท้าแบน เท้าบวม กระดูกโปน นิ้วเก เป็นต้น ที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่มักละเลยกับการดูแลสุขภาพเท้า ทั้งๆ ที่เราใช้เท้ามากที่สุดในร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว เราจึงอยากให้ทุกคนใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพเท้าของตัวเอง และคนที่คุณรัก เช่น คุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ”

“นึกถึงสุขภาพเท้า นึกถึง TALON” คุณสามารถนัดปรึกษา ทดลองรองเท้าหรือรับบริการสั่งตัดเฉพาะบุคคลได้ที่ สำนักงานใหญ่ Foot Clinic by TALON พระราม2 หรือ สาขาในห้าง/โรงพยาบาลชั้นนำใกล้บ้านคุณ อาทิ รพ.กรุงเทพ, รพ.บำรุงราษฎร์, รพ. พระราม 9  สาขาไอคอนสยาม, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลลาดพร้าว สนใจบริการ หรือต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย โทร 02-896-3800 LINE Official: @talon เว็บไซต์: www.talon.co.th

Scroll To Top