web analytics
SIAMNEWSDAY

มะลิ โคทส์-ซัน–ประชากร” สะดกทุกสายตา  เคลียร์ใจ จูบกลางแจ้ง 

เมื่อ ซัน–ประชากร ปิยะสกุลแก้ว ต้องมารับบท “ตรัย” ทายาทคนสุดท้องของ “เอื้อการย์” (ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) เจ้าแม่วงการจิวเวลรี่ เจ้าของบริษัท Queen of Diamond แบรนด์อัญมณีเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย ในละคร “เกมรัก เกมพยาบาท” ทาง พีพีทีวีเอชดี ช่อง36 คาแรกเตอร์ก็ต้องไม่ธรรมดา เพราะสาว ๆ ในเรื่องต่างพากันแย่ง หนึ่งในนั้นก็คือ “ปุณณ์” (มะลิ โคทส์ ) นางแบบสาวไฮโซชื่อดัง ที่เลิฟ “ตรัย” ม๊ากมาก

ซึ่งฉากที่แฟน ๆ จะได้เห็นความฮอตของ “ตรัย” (ซัน) ในสัปดาห์นี้ เป็นตอนที่เจ้าตัวเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เมื่อ “ปุณณ์” (มะลิ) รู้เข้า ก็รีบขับรถมาหา เหยียบคันเร่งปาดหน้า ชวนออกมาเคลียร์ใจว่ากลับมาเมืองไทย แต่ไม่ยอมบอก พร้อมกับจู่โจมจูบ “ตรัย” ด้วยความคิดถึง แถมยังจะถ่ายรูปโพสต์โซเชียลเปิดตัวให้สังคมรับรู้ แต่ “ตรัย” ยังไม่คิดจะคบหากับผู้หญิงคนไหนอย่างจริงจัง จึงพูดจากล่อมว่ายังไม่พร้อม และดึง “ปุณณ์” มาจูบจนเจ้าตัวใจอ่อน

ฉากนี้ “ซัน” บอกว่าแอบเขิน และเกรงใจ “มะลิ” อยู่ไม่น้อย เพราะตัวเองเป็นผู้ชาย แต่เป็นฝ่ายถูกผู้หญิงจู่โจมจูบก่อน แต่เพื่อความได้อรรถรสให้แฟนละคร ทั้งคู่พร้อมแสดงสุดใจ นัดแนะจังหวะ และอินเนอร์เต็มที่ จะเป็นยังไงอย่าพลาดชม

ติดตามชมฉากนี้ได้ใน “เกมรักเกมพยาบาท” วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 21.30 น. ทาง พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และสามารถดูย้อนหลังที่เดียวบนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ iQ.com ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 22.50 น. เป็นต้นไป เริ่มตอนแรกวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตได้ใน App Store และ Google Play – กดดาวน์โหลดฟรี https://i.qy.net/f34caJ-b7 พร้อมอัปเดตและติดตามความเคลื่อนไหวสาระบันเทิงยอดนิยมแห่งเอเชียได้ทาง Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/iQIYIThailand; IG:@iQIYIThailand; Twitter: @iQIYIThailand; YouTube: iQIYI Thailand

เปิดหัวใจฟัง “ฉันไม่ได้รักเธอขนาดนั้น” 

หลังจากห่างหายไปเกือบปี ศิลปินสาวลูกครึ่ง ไทย – สิงคโปร์ มากความสามารถ ที่มีวิธีการร้องหาตัวจับยาก เสียงดีมีเอกลักษณ์ และก้าวเดินตามความฝัน เปิดตัวตน โชว์พลังเสียงครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ตไวท์เฮ้าส์ 3 ซึ่งก็ทำให้เป็นกระแสแฟนเพลงพูดถึงจนทำให้เธอติด Top Ten Twitter เพียงชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว เธอคือ  “เหวยเหวย ฮัน”  (ปภัสสร ฮัน) ศิลปินจากบ้าน ไวท์มิวสิก ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิล “ฉันไม่ได้รักเธอขนาดนั้น” โดยการร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คนเก่ง อย่าง “ข้าว fellow fellow” (ปณิธิ เลิศอุดมธนา)  หลังจากปล่อยเพลง “คนไร้ตัวตน, ฟุ้ง และทุกพรุ่งนี้” มาให้แฟนเพลงได้ฟังกันไปแล้ว

              “สำหรับเพลง ฉันไม่รักเธอขนาดนั้น นะคะ เหวยได้ร่วมงานกับพี่ข้าว จากวง Fellow Fellow เป็นโปรดิวเซอร์แล้วก็เขียนเนื้อเพลง เมโลดี้ พี่ข้าวทำเองหมดเลยค่ะ เหวยเจอพี่ข้าวจากการไปที่บ้านพี่ป๊อบ ปองกูล ได้มาคุยแลกเปลี่ยน แจมดนตรี แล้วก็พูดถึงเรื่องการทำเพลง จนวันนึงพี่ข้าวบอกว่ามีเพลงที่แต่งมาให้เหวย ก็คือเป็นเพลงนี้ พอฟังปุ๊บ เหวยก็ชอบมากๆ เพราะว่าเมโลดี้มันสวยมาก เหวยรู้สึก Connect นะ คืออาจจะไม่ใช่ Connect ในแง่ที่เกิดขึ้นกับเราในช่วงนี้ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เหวยอยากจะบอกทุกคนว่า เราเคยผ่านมาก่อนในอดีต ทุ่มเทให้เขาหมด แล้วบางทีเราลืมที่จะรักตัวเอง เหวยรู้สึกว่าเนี้ยเป็นข้อความที่เหวยอยากจะส่งให้กับคนฟังของเหวยมาก ๆเลยคือการที่รักตัวเอง แล้วก็ไม่ยอมให้ใครทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะรักเขามาก ๆนะ”

ส่วนในเรื่องของ MV เหวยเล่าให้ฟังถึงที่มาว่า… “เพลงนี้เหวยได้ร่วมงานกับพี่บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน Mutual Bar ที่เหวยไปร้องเพลงแล้วก็สนิทกัน ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะไปสู่ขอพี่บาสมาทำเอ็มวีให้แล้ว (หัวเราะ) พี่บาสก็ยินดีมาก ใจดีมากที่ตกลงมาช่วยน้อง ตอนแรกที่คุยเรื่องเอ็มวี คือช่วงโควิดที่ผ่านมา  นักดนตรีหลายคนรวมถึงเหวยเองได้ใช้เวลาตกผลึกเยอะ เพราะเราไม่ได้ทำงาน มีวูบเข้ามาในหัวหลายครั้งว่าเรารักการร้องเพลงแบบนี้จริง ๆ หรือป่าว? หรือเราควรไปทำอย่างอื่น บางคนขายเปียโน ขายกีต้าร์ รวมถึงก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่ร้านพี่บาส จนได้มานั่งคุยกันพูดเรื่อง Passion ความรักในแง่นี้ดีไหม ซึ่งมันค่อนข้างกระทบกับคนในวงกว้างกับการที่โควิดมันเกิดขึ้น บางคนก็ไม่ได้เจอคนรัก หรือบางคนก็ไม่ได้ทำงานที่รัก เลยรู้สึกที่จะอยากมาโฟกัสตรงนี้ เรายกกองถ่ายไปที่เชียงใหม่ ซึ่งที่ถ่ายเป็นเวทีแรกที่ตอนเด็กเหวยเคยไปประกวดร้องเพลง

รู้สึก Full Circle มาก รู้สึกเหมือนได้กลับมาเติมโชคชะตา (หัวเราะ) MV สวยมาก อยากฝากให้ทุกคนเข้ามาชมกันค่ะ เหวยก็ขอขอบคุณแฟนเพลงทุกๆคน ที่ยังคอยซัพพอร์ทกันมาตลอดนะคะ เหวยเข้าไปอ่านคอมเมนต์ในยูทูบแล้วดีใจ ปลื้มที่ทุกคนชอบเพลงค่ะ เพลงชื่อ “ฉันไม่ได้รักเธอขนาดนั้น” แต่เหวยได้รับความรักมากมายขนาดนี้ เหวยขอบคุณจริงๆค่ะ” เหวยเหวยฝากทิ้งท้ายไว้กับเรา

“ไผ่ พงศธร” ส่ง MV เพลงใหม่ “ดวงดาวที่หายไป”

ดึง!! “แต้ว สุดาพร” นักมวยหญิงทีมชาติไทย มาถ่ายทอดความคิดถึง

แฟนเพลงของหนุ่มตามฝันจากบ้านไกล “ไผ่ พงศธร” ได้กลับมาฟังเพลงซึ้งๆกันอีกครั้ง หลังจากจิ้นไปกับบทเพลงต่างๆในอัลบั้ม “มิตรภาพ” ต่าย X ไผ่ และอินกับภาพละครเรื่องล่าสุดกันไปแล้ว วันนี้ “ไผ่ พงศธร” มาพร้อมกับผลงานเพลงใหม่ล่าสุด ที่ไผ่อยากจะถามคุณว่า “ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิต มีคนที่คุณอยากให้เขาคนนั้นได้เห็น และรู้สึกภูมิใจในความสำเร็จของเราบ้างไหม ที่แม้ว่าตอนนี้คนๆนั้นเขาอาจจะไม่ได้อยู่กับเราแล้วก็ตาม แต่เรายังคงคิดถึงเขาเสมอ ได้แต่มองไปยังดวงดาวบนท้องฟ้า และหวังว่าเขาจะได้รับรู้ความรู้สึกดีๆนี้ไปพร้อมกับเรา” ซึ่ง “ไผ่” เอง ก็มีคนๆนั้นให้คิดถึงอยู่ตลอดมาจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน

และเพลงนี้ก็คือ เพลง “ดวงดาวที่หายไป” เพลงใหม่ล่าสุด จากชีวิตจริงของ “ไผ่ พงศธร” คำร้อง-ทำนองโดย “พี่ต๊ะ พงษ์ศักดิ์ ถนอมใจ” และเรียบเรียงดนตรีโดย “พี่ต๋อง สุรพันธ์ จำลองกุล” เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเหงา ความคิดถึง คนสำคัญในวันที่เราประสบความสำเร็จ กับแนวเพลงลูกทุ่งร่วมสมัยผสมผสานเครื่องดนตรีสากล สื่ออารมณ์ผ่านดนตรีเครื่องสายหลายชิ้น ที่นำมาบรรเลงในเพลงให้เกิดความซึ้งอย่างลงตัวที่สุด ส่วนมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ไปถ่ายทำกันที่ เวทีมวยนานาชาติรังสิต และความพิเศษของ MV เพลงนี้ คือได้นักแสดงนำอย่าง “แต้ว สุดาพร สีสอนดี” นักกีฬามวยสากลหญิงทีมชาติไทย

ผู้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2020  มาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตกว่าจะเป็นนักสู้เจ้าสังเวียนหญิงคนแรกระดับโลกในวันนี้  เธอนั้นก็มีดวงดาวที่คอยนำทางเช่นกัน นั่นก็คือ “คุณพ่อ” ที่เป็นผู้ปลูกฝังและปลุกปั้นในเส้นทางนักกีฬา จนทำให้เธอประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ ซึ่งเหรียญโอลิมปิกถือว่าเป็นความฝันของเธอและพ่อ แต่ในวันที่เธอทำได้นั้น กลับไม่มีคุณพ่อมาอยู่ชื่นชมด้วยกันแล้ว “ดวงดาวที่หายไป” จึงเป็นของขวัญและเป็นตัวแทนการถ่ายทอดเรื่องราว จาก “ไผ่ พงศธร” ที่อยากส่งมอบให้แฟนๆ ได้สัมผัสถึงบทเพลงลูกทุ่งร่วมสมัยที่มีความผสมผสานทางด้านดนตรี คำร้อง และทำนองที่ลงตัว ผ่านเรื่องราวความคิดถึงสุดซึ้งถึงใครสักคน รับรองได้ว่าถ้าหากคุณได้ฟังเพลง “ดวงดาวที่หายไป” เพลงนี้อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่กำลังคิดถึงดวงดาวดวงนั้นในชีวิตคุณ สามารถรับชมมิวสิกวิดีโอ เพลง “ดวงดาวที่หายไป” ได้แล้ววันนี้ (2 พฤศจิกายน 64) ทางช่อง Grammy Gold Official และในทุกๆช่องทางการรับฟังเพลง

“ไผ่ พงศธร” สำหรับเพลง “ดวงดาวที่หายไป เป็นบทเพลงที่สื่ออารมณ์ถึงความเหงา พูดถึงสิ่งที่ขาดหายไป ในวันที่เราทำสำเร็จแล้ว “พ่อ กับ แม่” เป็นดวงดาวที่ให้ชีวิตกับเราตั้งแต่แรก อย่างผมมาเป็นนักร้องแล้ว แต่คนที่อยากให้เห็นที่สุด กลับไม่อยู่แล้ว อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริงของผมด้วย และผมก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงของคนที่ขาดสิ่งๆนี้ไป จงดูแลสิ่งเหล่านี้ให้ดีที่สุดในวันที่คุณยังมีเค้าอยู่ ทำให้ดีที่สุด และก็อย่าลืม 2 คนนี้ คือ “พ่อกับแม่” เรานะครับ ทำให้เค้าได้มีความสุขที่สุดในวันที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ อันนี้ฝากไว้เลยนะครับ  ขอบคุณน้องแต้ว ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ และก็อยากทำสิ่งเหล่านี้ให้กับทุกคนได้ชมกัน กำลังใจตรงนี้ที่ทำให้ผมได้เป็น “ไผ่ พงศธร” ขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีอาชีพที่ผมรัก และทำให้ผมได้ร้องเพลงจนถึงทุกวันนี้ อยากให้ทุกคนได้ลอง ได้ฟัง และได้ชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ นี่คือสิ่งที่เราทำจากใจนะครับ ขอบคุณมากๆจากใจครับ”

หวานแล้วจ้า !! “ธันวา” กอดปลอบใจ “แคท” ใน “พริกกับเกลือ”

ลุ้นได้ทุกตอนสิน่า สำหรับละครโรแมนติกดราม่า  “พริกกับเกลือ” ทางช่อง 7HD โดยเฉพาะฉากนี้ ที่คุณหนูจี๊ด  (แคท-ซอนญ่า สิงหะ) และ ดิ่ง (ธันวา สุริยจักร) จะเปลี่ยนสถานะจากคู่กัด มาปรับความเข้าใจกัน แถมยังมีซีนให้แฟนละครดูแล้วฟินตามอีกด้วย

เรื่องราวฉากนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ จี๊ด ขอให้ ดิ่ง พาไปที่ไหนก็ได้ เพื่อพักใจ ดิ่งจึงเลือกพาจี๊ดมาที่บ้านพักของเขาที่ทะเล ที่นี่จี๊ดพร้อมเปิดใจเล่าถึงความช้ำใจ เหตุที่เธอตัดสินใจเลิกกับ เทวัญ (แอนด์ดรูว์ กรเศก) และตัดพ้อว่าที่ผ่านมาเทวัญไม่ได้รักเธอจริง และเธอคงไม่กล้ามีรักครั้งใหม่ ดิ่งรับรู้ถึงความเสียใจของจี๊ด จึงกอดปลอบ ก่อนจะจับจี๊ดโยนลงทะเล พร้อมบอกกับว่า เอาความเศร้าไปโยนทิ้งทะเลให้หมด ทำเอาจี๊ดที่ตั้งตัวไม่ทัน แสบตาไปหมด จนดิ่งต้องช่วยดูว่าทรายเข้าตาจี๊ดหรือเปล่า ?

ไม่รู้งานนี้อาการแสบตาที่ว่านั้น เป็นเพราะทรายเข้าตา หรือความรักครั้งใหม่เข้าตากันแน่ ติดตามฉากฟิน ๆ ฉากนี้ ได้ในละคร “พริกกับเกลือ”  วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ และติดตามชมความสนุกได้ทุกคืน วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35  และ Facebook LIVE: Ch7HD หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV

“คุณยายสมใจ” เจ้าของขนมไทยสูตรเด็ด 50 ปีส่งต่อความอร่อยผ่าน “ยายทำให้หลานขาย”

สร้างแรงบันดานใจให้กับผู้ที่กำลังท้อแท้หรือสิ้นหวังได้เป็นอย่างดี! สำหรับรายการ Next People คนไม่หมดไฟ” รายการน้ำดีของ เว็บไซต์ MThai.com (เอ็มไทยดอทคอม) เว็บไซต์อันดับ 1 ในเครือ โมโน เน็กซ์ ล่าสุดได้นำเสนอเรื่องราวของ “คุณยายสมใจ เต๊ะดอเลาะ” เจ้าของขนมไทยสูตรเด็ดที่มีมานานกว่า 50 ปี กับหลานสาวสองคนเป็นผู้นำมาประยุกต์สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัว จนกลายเป็นที่มาของแบรนด์ขนมไทย “ยายทำให้หลานขาย” โดย “คุณยายสมใจ” และหลานสาวทั้ง 2 คนได้เล่าว่า

“ยายทำขนมมาตั้งแต่อายุประมาณ 14 – 15 และยังอยู่โรงเรียน กลับมาจากโรงเรียนก็มาช่วยแม่ทำ ก็ทำมาประมาณ 50 กว่าปี เมื่อก่อนก็ขายตามคลอง เข้าบ้านโน้น เข้าบ้านนี้ แต่พอหน้าแล้งก็ทำขนมไปส่งตามร้านพี่น้องที่ขายของอยู่ เราไม่ได้ทำเยอะ แต่ตอนนี้จะเยอะมาก ถามว่ายายทำอะไรเก่ง ก็เก่งไปหมดทุกขนมเลยดีกว่า เพราะยายก็ทำได้หมดทุกอย่าง ก็ไม่รู้จะเอาขนมอะไรชนะ เอาว่าถ้าลูกค้ากินติดใจ ถูกใจ ก็ขอให้ลูกค้าได้กินกันไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยายก็แก่แล้ว อยากจะถ่ายทอดอาชีพให้หลานๆ เหลนๆ เขาไป แต่ว่าการทำขนมของยายก็ต้องให้ได้รสชาติของยายที่ทำมา เพื่อจะต่อยอดให้ขายดิบขายดี ลูกค้ากินแล้วเขาจะได้ติดใจ ยายก็จะไปไม่ค่อยไหว แต่พวกหลานๆ ก็บอกว่ายายสู้ๆ เราก็สู้แต่เราก็ยังดูแลอยู่ อย่าทำแบบว่านึกจะทำก็ทำเป็นขนมน่ะมันไม่ได้ มันต้องได้รสชาติของมัน ให้รสชาติกลมกล่อม ให้อร่อย ลูกค้าถึงจะติดใจ เมื่อตัวเรากินเองว่าอร่อย คนอื่นก็อร่อย แต่ถ้าเรากินไม่อร่อย คนอื่นก็บอกว่าไม่อร่อยเหมือนกัน”

ด้าน 2 หลานสาวผู้สร้างแบรนด์ขนมไทย “ยายทำให้หลานขาย” อย่าง “ปู-อนงค์นาฏ” และ “นัท-พัชริดา” ได้เปิดเผยว่า “เราสองคนมีงานประจำที่ทำกันอยู่ และมีรับ Job ถ่ายรูปกันบ้าง จนถึงช่วงโควิดรอบที่สองงานถ่ายรูปน้อยลง เราก็อยากหารายได้เสริม แล้วเห็นว่าบ้านเราทำขนมกันอยู่แล้ว เราก็เลยเริ่มจากเอาขนมของคุณยายมาถ่ายรูปเล่น แล้วลงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเองก่อน แล้วมีเพื่อนๆ ในระแวกบ้านสนใจ ก็เลยพรีออเดอร์แล้วก็ไปส่งเอา ตอนนั้นยังไม่มีเพจ จนมีลูกค้าเข้ามาพูดคุยกับเราเพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก เค้าถามว่าใครทำ ทำกันเองหรอ เราก็จะตอบว่า ยายทำค่ะ ขนมของที่บ้าน หนูเอามาขาย แล้วก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์คุณยายทำให้หลานขาย จากนั้นก็เลยเปิดเพจเพราะฐานลูกค้าเริ่มกว้างขึ้นแล้วก็สร้างแบรนด์มาจนถึงตอนนี้ค่ะ จุดเด่นขนมของเราก็คือ เรื่องรสชาติ ที่มันรักษาความดั้งเดิมโบราณเอาไว้ สองก็คือเรื่องรูปลักษณ์ที่แตกต่าง วิธีการห่อขนมแต่ละชนิดจะไม่เหมือนที่อื่น อย่างขนมสอดไส้ก็ไม่มีเตี่ยวทางมะพร้าวคาด จะเป็นร้านเดียวเลยที่ไม่เหมือนใคร แล้วก็ขนมเทียนก็ใช้ไม้กลัด ที่อื่นก็จะใช้สอดใบตอง พอมารุ่นเราแพ็คเกจจิ้งของยายทำให้หลานขาย ก็จะไม่ใช่แบบธรรมดาทั่วไป เราก็จะมีใส่แพ็คเกจจิ้งชะลอมให้ดูถือแล้วรู้สึกว่าการถือขนมไทยไปฝากมันมีคุณค่านะ ด้วยรสชาติบวกกับความทันสมัยมันก็ไปด้วยกันได้ค่ะ”

ติดตามรับชมเรื่องราว แนวคิดการปรับเปลี่ยนของ “คุณยายสมใจ” และหลานสาวทั้ง 2 คนได้ใน รายการ Next People คนไม่หมดไฟ” ในทุกช่องทางของ Mthai, youtube channel : mono29 และ เว็บไชต์ seeme.me

รองผู้ว่ากรุงเทพมหานครพร้อมผู้อำนวยการสำนักการศึกษาเข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียนสังกัดกทม.

โรงเรียนวัดบางปะกอก เขตราษฏร์บูรณะ สังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนจำนวน 2,296 คน ซึ่งนายภิรมย์ศักดิ์ กิจพัฒนาสมบัติ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ได้นำรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ให้การต้อนรับ การตรวจเยี่ยม ของผู้บริหารกรุงเทพมหานครโดยมีนายเกรียงยศ  สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายเกรียงไกร  จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียนวัดบางปะกอกในการเตรียมความพร้อม การเปิดภาคเรียนที่2/2564 และการเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อให้เป็นไปตามแผนการป้องกันโรคติดเชื้อ ให้มาตราฐานมากที่สุด

     ด้านนายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า ภาระกิจที่มาในวันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมปกติเนื่องจากทางโรงเรียนได้มีการเปิดการเรียนการสอนมาแล้ว1อาทิตย์ก็ได้มาดูผลว่าทางโรงเรียนประสบประหาอะไร มีจำนวนผู้ติดเชื้อหรือไม่ ถ้ามีการติดเชื้อจะต้องรีบจัดการโดยด่วน พร้อมทั้งต้องให้คำแนะนำ ซึ่งทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อัศวิน ขวัญเมือง ท่านมีความเป็นห่วงเป็นใยมาโดยตลอด จึงมอบหมายให้มาตรวจเยี่ยมโรงเรียนต่างๆว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้างเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ทันท่วงที ส่วนทางด้านผู้อำนวยการสำนักการศึกษา นายเกรียงไกร จงเจริญ

ได้ลงพื้นที่อยู่ทุกวัน อยู่แล้ว โรงเรียนวัดบางปะกอก ถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนและบุคลากรจำนวนมากในเขตนี้ ในการปรับเปลี่ยนจึงต้องค่อยๆทำเนื่องจากเรื่องงบประมาณในปีที่แล้วมีจำนวนจำกัด แต่ในปีนี้ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนกับท่านผู้อำนวยการเขตราษฏร์บูรณะ ได้ร่วมกันพัฒนาโรงเรียน เช่นการซ่อมบำรุงสิ่งต่างๆที่ชำรุดทรุดโทรม สิ่งไหนที่ต้องการเพิ่มเติมก็ขอให้ทางโรงเรียนขอยื่นเรื่องมาที่สำนักการศึกษาก็จะสนับสนุนทุกอย่าง และยังฝากถึงผู้ปกครองก็ขอให้มั่นใจในมาตราการต่างๆของกรุงเทพมหานครเพราะทำขึ้นมาเพื่อให้เด็กนักเรียนให้ได้รับความปลอดภัย ปลอดเชื้อโควิด-19ให้มากที่สุด

60 นางงาม ตะลุย “หนุมานเวิลด์”

“มิสเบลเยี่ยม” หมดสนุก ถูกหามส่งโรงพยาบาล! เหตุแพ้พิษ “มดตะนอย” รุนแรง

ยังคงปักหลักตะลุยทำกิจกรรมที่จังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง สำหรับ 60 สาวงามจากทั่วโลก ผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 ที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ ซึ่งวันนี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล จัดกิจกรรมผจญภัย ให้นางงามได้บริหารปอด และกล่องเสียงกันที่หนุมานเวิลด์ (Hanuman World) ของเล่นสนุกท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร

08.30 น. ล้อหมุนออกจากที่พัก โรงแรม โฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท  โดยมี คุณเทเรซ่า ชัยวิสุทธิ์ รองประธาน มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ อบีน่า อาคูบา แอพเพียร์  มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 นำทีมมุ่งหน้าสู่ตำบลวิชิต ผ่านถนนคดเคี้ยว ไต่เขาจนมาถึง หนุมานเวิลด์ นางงามดูตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศเขียวชอุ่ม ไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่ป่าสมบูรณ์เช่นนี้จะอยู่ใกล้เมือง

ทีมงานแบ่งกลุ่มนางงามทำกิจกรรมต่างๆทันที ไม่ว่าจะเป็นโซนชิลๆอย่าง   sky walk (สกาย วอร์ค) ที่ความสูงไม่ธรรมดา มองเห็นเบื้องล่างเป็นป่าทึบสุดลูกตา วิวสวย ร่มรื่นจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ตามมาด้วยฐาน Roller (โรลเลอร์) และฐาน Zipline (ซิปไลน์) ฐานนี้แหล่ะที่เหล่านางงามได้บริหารปอด หัวใจและกล่องเสียง เพราะนอกจากปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงแล้ว แรงเหวี่ยงตอนปล่อยตัวออกจากฐานก็สร้างความหวาดเสียว กรี๊ดกันลั่นป่าทีเดียว โดยเฉพาะ มิสแกรนด์ลาว “ดาวมีไซ พะจันสิทถิ” (Miss Daomixay Phachansitthy) ถึงขั้นน้ำตาแตก เพื่อนๆต้องกอดปลอบกันยกใหญ่

แต่ที่หมดสนุกที่สุดเห็นจะเป็น มิสแกรนด์เบลเยี่ยม “ซอมคี เท็นซิน”  (Miss Zomkey Tenzin) เมื่อเจอ “มดตะนอย” กัดเข้าที่ขา เกิดอาการแพ้พิษอย่างหนัก ผื่นขึ้น ใต้ตาบวมปูด ต้องส่งแอดมิดโรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต เป็นการด่วน แพทย์ฉีดยาแก้แพ้ และให้รอดูอาการอย่างใกล้ชิด มิสแกรนด์เบลเยี่ยม ฝากขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย ส่งกำลังใจมาให้จากทุกช่องทาง ตอนนี้ถึงมือหมอแล้ว คุณหมอฉีดยาและให้นอนพัก หากอาการทุเลาลงคงกลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ.

ติดตามความเคลื่อนไหว Miss Grand International 2021 ได้ในทุกช่องทาง

Facebook , Instagram , Tiktok และ Youtube Channel GrandTV

สำหรับรอบการประกวดสำคัญมีดังนี้

– วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. ประกวดรอบชุดประจำชาติ  ณ SHOW DC HALL พระราม 9

– วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เวลา 19.00 น. การประกวดรอบ Preliminary ณ SHOW DC HALL พระราม 9

– วันที่ 4 ธันวาคม 2564 เวลา 19.00 น. การประกวดรอบตัดสิน ณ SHOW DC HALL พระราม 9

“ภีม” พลิกโฉมดาวร้ายสุดเท่

หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างแล้ว! กับนักแสดงหนุ่ม “ภีม-ธนบดี ใจเย็น” ที่ล่าสุดได้พลิกคาแรคเตอร์จากหนุ่มหล่อหน้าใสวัยคูล มารับบท ขวัญ ดาวร้ายสุดเท่ ซิกแพคแน่นในภาพยนตร์โรแมนติก แอ็กชัน สายมู อโยธยา มหาละลวย” (Om! Crush on Me) จากค่ายหนังคุณภาพโมโนฟิล์มโดย ภีม เผยให้ฟังว่า

            “เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์พีเรียดเรื่องแรกของผมด้วย ในเรื่องรับบทเป็นขวัญครับ หรือ สมเด็จพระเจ้าเสือในช่วงวัยรุ่น เป็นคนเก่ง มีความหยิ่งทะนง เพราะพ่อ​ (พระยาคชบาล แสดงโดย บิ๊ก-ศรุต) มีบารมีใหญ่เป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้ง สุขุม เชื่อมั่นในตัวเองสูงและมีศักดิ์ศรีในตัวเอง ตามตำนานแล้ว พระเจ้าเสือเป็นคนเจ้าชู้ และ เป็นจ้าวแห่งมวยไทยด้วย เลยเกร็งนิดหน่อยที่ต้องถ่ายทอดท่าทางการศิลปะการต่อสู้ออกมาให้เท่ และความเจ้าชู้เกมแบบมีชั้นเชิง ค่อนข้างยาก ต้องใช้สมาธิพอสมควรเพราะขวัญถือเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน ยิ่งตอนได้อ่านบทครั้งแรกตื่นเต้นมาก เพราะยังต้องมีการท่องคาถาอาคม, มีการสักยันต์ และขี่ม้าฟันดาบ เรียกว่าครบทุกอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย ถือเป็นบทบาทที่ค่อนข้างท้าทายพอสมควร อย่างตัวขวัญจะมีรอยสักเป็นรูปเสือเผ่น ผมก็จะต้องนั่งแต่งรอยสักด้วยการแปะประมาณ 1-3 ชั่วโมง จะแปะกันทั้งตัวแล้วจะค่อยๆ รีดให้เรียบ แอ็กชันมากไป รอยสักจะย่นต้องแปะใหม่ ส่วนเรื่องนี้ในบทต้องมีการแย่งชิงตัวนางเอกในเรื่องด้วย ซึ่งรับบทโดย โบว์-เมลดา ก่อนถ่ายทำได้เจอกันได้มีการพูดคุย ละลายพฤติกรรม นักแสดงทั้งหมดทำความรู้จักกันก่อน เลยทำให้การทำงานไหลลื่นมากครับ แต่เวลาเข้าฉากซีนเลิฟซีนที่ผมต้องเปิดเกมรุกนี่สิ (หัวเราะ) มันก็จะมีความเขินนิดนึง แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ มันก็ลื่นไหลครับ เพราะโบว์เป็นคนที่เฟรนด์ลี่ ทำงานด้วยกันสบายๆ  ฝากติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยนะครับ มีครบทุกรส ทั้งเรื่องความรัก มิตรภาพ แอ็กชัน อิงประวัติศาสตร์ ในสมัยพระนารายณ์ (อยุธยา) เป็นยุคสมัยที่อินเตอร์มีสีสันฉูดฉาด ดังนั้น ดูหนังเรื่องนี้แล้วคุ้มมากๆ เอาใจช่วยผมกันด้วยนะครับ”

            ติดตามชมฝีมือการแสดงของ ภีม-ธนบดี ใจเย็น ในบทบาท ขวัญ ได้ในภาพยนตร์ อโยธยา มหาละลวย หนังรักแอ็กชันสายมูที่คนดูคาดไม่ถึง 2 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

วช. มอบรางวัลธนาคารปูม้าชุมชน ฟื้นปูม้าคืนสู่ทะเลไทย

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบรางวัลการประกวด “ธนาคารปูม้าชุมชน” เพื่อความยั่งยืน ในงานมหกรรมการวิจัยแห่งชาติ 2564 (Thailand Research Expo 2021) ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นผู้มอบรางวัลฯ

โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวรายงาน และมีนางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ และประธานคณะทำงานขยายผลธนาคารปูม้า นายสมบูรณ์ วงศ์กาด อดีตรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และนายสุชัช ศุภวัฒนาเจริฐ หัวหน้าภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านสัตว์เศรษฐกิจ เข้าร่วมในพิธีมอบรางวัลฯ ณ เวที Highlight Stage ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2564 (Thailand Research Expo 2021) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

พิธีมอบรางวัลการประกวด “ธนาคารปูม้าชุมชน” ที่ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูปูม้าคืนสู่ทะเลไทย เพื่อความยั่งยืน

ที่ วช. เข้าไปสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม ให้ชุมชนต้นแบบกว่า 500 ชุมชนทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปูม้าและปล่อยคืนสู่อ่าวไทย มาตั้งแต่ปี 2561 โดยได้แบ่งประเภทการมอบรางวัลออกเป็น 3 ประเภท คือ  1. ประเภทธนาคารปูม้าชุมชนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จำนวน 3 รางวัลได้แก่ รางวัลชมเชย ธนาคารปูม้าบ้านเขาดัน จังหวัดจันทบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ธนาคารปูม้าท่าพยา จังหวัดนครศรีธรรมราช และรางวัลชนะเลิศ ธนาคารปูม้าบ้านดอนสาม (ชมรมอนุรักษ์พันธุ์ปูปากน้ำชุมพร) จังหวัดชุมพร

  2. ประเภทธนาคารปูม้าชุมชนเดิมที่มีการดำเนินการต่อเนื่อง จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชมเชย ธนาคารปูม้าบ้านแหลมสน จังหวัดตราด รางวัลชมเชย ธนาคารปูม้าบ้านหยงสตาร์ จังหวัดตรัง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ธนาคารปูม้าชุมชนบ้านท้องโตนด จังหวัดชุมพร  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ธนาคารปูม้าบ้านนาชุมเห็ด จังหวัดตรัง และรางวัลชนะเลิศ ธนาคารปูม้าบ้านหาดสมบูรณ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 3. ประเภทศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าชุมชน จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลชมเชย ธนาคารปูม้าบ้านหินกบ (ศูนย์เรียนรู้การเพาะและอนุบาลลูกปูม้าเพื่ออนุรักษ์โดยชุมชนบ้านหินกบ) จังหวัดชุมพรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ธนาคารปูม้าชุมชนสำเภาคว่ำ จังหวัดจันทบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ศูนย์เรียนรู้การขยายพันธ์ุปูม้าและธนาคารปูม้าแบบชุมชนมีส่วนร่วม อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี และรางวัลชนะเลิศ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าและประมงชายฝั่งบ้านในถุ้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ รางวัลธนาคารปูม้าที่มีศักยภาพสูงด้านการพัฒนา 1 รางวัล คือ ธนาคารปูม้าบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราดธนาคารปูม้า (Crab Bank) เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่รัฐบาลที่จะฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาภายใต้สถานการณ์ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรปูม้าในทะเลไทย โดยการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มจำนวนลูกปูม้าในธรรมชาติให้เจริญเติบโตกลับแทนไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ด้วยวิธีง่าย ๆ แต่ให้ผลตอบแทนอย่างมหาศาล ซึ่งธนาคารปูม้าในแต่ละชุมชนมีกิจกรรมและรูปแบบที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่มีหลักการที่คล้ายกันคือ คนในชุมชนจะร่วมมือกันนำแม่ปูที่มีไข่แก่นอกกระดองมาฝากไว้ในกระชังหรือคอกเพื่อให้แม่ปูม้า

ปล่อยไข่ก่อนนำแม่ปูไปขาย แล้วจึงนำลูกปูม้าที่เพาะฟักจากไข่ไปปล่อยคืนสู่ทะเล เป็นอาหารและแหล่งที่มาของรายได้ชาวประมงต่อไป

Scroll To Top