Ampersand ลุยปลุกปั้นซิงเกิลใหม่ “นิทาน”
เปิดตัวมาให้ทุกคนได้รู้จักในฐานะดูโอคู่ใหม่ที่น่าจับตามอง ในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ ไปแล้ว จากซิงเกิล “หลอกตัวเอง” จากโปรเจกต์ “Sad / Tur / Day” เมื่อปลายปีก่อน สำหรับ ampersand (แอมเพอร์แซนด์) ที่ทั้งสองสมาชิก อย่าง “พลจัง-พงศ์ณรงค์ จริงจามิกร (ร้องนำ) และ แทนไท-ธัชพล ธิติอภิชัย (ร้อง+กีตาร์)” ล่าสุด พร้อมส่งซิงเกิลใหม่ “นิทาน” ที่ “พลจัง” และ “แทนไท” อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังแล้วรู้จักพวกเขามากยิ่งขึ้น กับเรื่องราวของความรักที่ถูกวาดไว้ด้วยกันให้จบแฮปปี้เอนดิ้งราวกับในนิทาน แต่เรื่องราวเหล่านั้นเหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำ คือความเป็นจริงที่ถูกบันทึกไว้ เมื่อคนหนึ่งเดินจากไป อีกคนที่เหลือกลับเลือกจะเปิดอ่านนิทานเล่มเดิมซ้ำๆ ไม่พร้อมมูฟออนไปเสียที ในรูปเล่มดนตรี Folk Pop ซาวด์หม่น ด้วยเอกลักษณ์เสียงร้องของ “พลจัง” และเสียงประสานบวกกับไลน์กีต้าร์ของ “แทนไท” ที่พาเราหลงลึกเข้าไปในบรรยากาศโลกนิทานและดิ่งไปกับเรื่องเล่านี้ไม่รู้ตัว
จากผลงานของ 2 โปรดิวเซอร์ “ปู๋-ปิยวัฒน์ มีเครือ (ปู๋ 25Hours) และ จ๊อบ-กฤตพงศ์ สกุลนามอเนก (จ๊อบ 25Hours)” ที่เปิดโอกาสให้ดูโอคู่นี้เข้ามาลุยงานเพลงเองตั้งแต่เริ่มต้นพร้อมคอยช่วย ตบขอบให้เพลงเป็นรูปเป็นร่างแข็งแรงขึ้นอย่างใส่ใจ จนได้ผลงาน สุดไพเราะมาให้ทุกคนติดตามกัน “พลจัง” และ “แทนไท” เล่าการทำงานว่า “ถึงเป็นซิงเกิลที่สอง แต่ถือเป็นซิงเกิลแรกอย่างเต็มตัวจริงๆ ที่เราสองคนได้มีโอกาสปลุกปั้นตั้งแต่ศูนย์ ได้เริ่ม ได้ทดลองท้าทายตัวเองในหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำเลยครับ และโชคดีที่ได้ ‘พี่ปู๋ และ พี่จ๊อบ’ 25Hours มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ พอเราได้เจอกับพี่จ๊อบพี่ปู๋ ก็ได้พูดคุยถึงโจทย์ถึงไอเดียกันซึ่งก็คลิ๊กกันเร็ว และเพลงนี้พี่ๆ เค้าตั้งใจให้เราสองคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากเล่นและร้องอย่างเดียว เราก็เลยได้มีส่วนร่วมแต่งเนื้อร้องมากขึ้น แทนก็ได้ดูแลเรื่องดนตรีเยอะขึ้นมากๆ เหมือนกันครับ พี่ๆก็ช่วยตบขอบให้เพลงเราเป็นรูปเป็นร่างที่แข็งแรงขึ้น และสิ่งที่เราภูมิใจมากในเพลงนี้จริงๆ คือตั้งแต่ที่เราได้รับโจทย์มา เราคิดดนตรีกันเอง และเราก็คิดเมโลดี้กันเอง ซึ่งกีต้าร์ที่เราเล่น เสียงลีดกีต้าร์ที่ทุกคนได้ยินนั้นน่ะ มันคือสิ่งที่เราคิดกันมาตั้งแต่ดราฟแรกเลย เราคิดกันหลายแบบ เหมือนกับว่าขึ้นมาเป็นหลายๆเพลง แต่สุดท้ายมันกลับมาเป็นอันแรกอันนี้เป็นอะไรที่พิเศษมาก
และคิดว่าน่าจะดีพอที่จะนำเสนอให้ทุกๆคนได้ฟังกัน ในส่วนเนื้อหาก็เป็นเพลงที่เราอยากจะเล่าถึงเรื่องราวความรักที่คนสองคนมีต่อกันและมันจบไปแล้ว แต่ว่าอีกคนยังก้าวไปต่อไม่ได้ เลือกที่จะขังตัวเองไว้อยู่ในเรื่องดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น จริงๆเรามองว่าเป็นความเศร้าที่สวยงามนะ สำหรับมู้ดของเพลงนี้เรารู้สึกว่า มันเศร้าก็จริง แต่มันไม่ได้แบบเศร้าถล่มทลาย มันเหมือนมุมมองของคนที่ไม่เสียดายความรักที่เกิดขึ้นมากกว่า คือเสียใจนะแต่ว่าถ้าให้เลือกที่จะเก็บหรือทิ้งมันไว้ เราก็คงเก็บไว้กับเราตลอดไป ส่วนเรื่องราวในเอ็มวีเพลงนี้ เราเปรียบกับเรื่องที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ก็คือเรื่องนิทานสโนไวท์ ซึ่งแทนก็ได้เล่นเป็นพระเอกในเอ็มวีนี้ด้วยครับ