web analytics

เปิดแล้ววันนี้! “C.P.S. COFFEE”

เปิดแล้ววันนี้! “C.P.S. COFFEE”

(ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) แฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่โดดเด่นด้วยสเปซโทนสีขาวสบายตา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Timeless” (โมเดิร์น ไทม์เลส) พร้อมเปิดตัวเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่สุดพิเศษที่ลิ้มลองได้เฉพาะสาขานี้เท่านั้น!

คาเฟ่ฮอปเปอร์ไม่ควรพลาด! กับการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของแบรนด์ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) ในงานเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท 53 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Timeless” (โมเดิร์น ไทม์เลส) จากฝีมือการสร้างสรรค์ของ โต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร นักออกแบบคาเฟ่มากฝีมือ ที่ได้หยิบยกเอาเอกลักษณ์ของแบรนด์มาตีความขึ้นใหม่ ถ่ายทอดสู่งานดีไซน์ที่มีความทันสมัยเหนือกาลเวลา ประกอบกับการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่สุดพิเศษ เพื่อเอาใจเหล่าคอกาแฟให้ได้ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมและเบเกอรี่รสกลมกล่อม ท่ามกลางบรรยากาศใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน! พร้อมโซน Pet Friendly ที่สร้างสรรค์มาเพื่อเอาใจเหล่าคนรักสัตว์โดยเฉพาะ

โดยภายในงานยังได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้คอฟฟี่เลิฟเวอร์เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, ขนิษฐา ดรุณเนตร, ณภศศิ สุรวรรณ, เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์, ฐฤณณรัตน์ เดชะทวีวัฒน์, วัจนา เจริญสมสมัย พร้อมบาริสต้าชื่อดัง วสุวิท ศรีคัมโพธิ์ ร่วมโชว์การทำลาเต้อาร์ตสุดพิเศษ 

อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) ได้กล่าวถึงแนวคิดการสร้างสรรค์แฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่นี้ว่า “เกิดจากการที่เราอยากสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ให้กับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟและนั่งชิลล์ในคาเฟ่ เราจึงทำร้านให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามา ให้คนที่ไม่ดื่มกาแฟสามารถลองเปิดใจชิมกาแฟของเราดูสักครั้ง โดยเราตั้งใจให้ร้านสาขานี้เป็นเหมือนแฟล็กชิพสโตร์ แหล่งรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในบรรยากาศและรสชาติกาแฟของเรา ซึ่งเราได้คิดค้นเมนู Dirty Coffee (เดอร์ตี้ คอฟฟี่) ขึ้นใหม่สำหรับสาขานี้โดยเฉพาะ เพราะอยากให้คอกาแฟทั้งหลายได้ชิมรสชาติกาแฟใหม่ๆ  ซึ่งรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถิพิถันจากบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญและเมนูเบเกอรี่อีกมากมาย เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความสุขท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน”

                ด้าน  โต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบร้านครั้งนี้ว่า “เราได้นำเอาคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่มีความหมายแฝงอยู่ในตัวย่อ C.P.S. มาถ่ายทอดสู่การออกแบบร้านโฉมใหม่ที่ถูกซ่อนอยู่หลังกำแพงใหญ่สีขาวบริเวณด้านหน้า เพื่อสร้างความดึงดูดน่าค้นหาให้คนอยากจะเข้ามาสัมผัสกับสิ่งใหม่ที่ทางแบรนด์อยากจะนำเสนอ โดยสิ่งที่เราหยิบมาเป็นไอเดียหลักในการออกแบบนั้นคือคำว่า COFFEE (คอฟฟี่), PASSION (แพสชัน), SPECIALTY (สเปเชียลตี้) และจุดอีกสามจุดที่อยู่ในตัวย่อ เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของแบรนด์

ที่แท้จริง ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความหลงใหลและความใส่ใจในการรังสรรค์เมนู การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ รวมถึงตัวบาริสต้าด้วย

สำหรับ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) แฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่นี้ ได้ถูกออกแบบขึ้นในคอนเซ็ปต์ “Modern Timeless”  (โมเดิร์น ไทม์เลส) ที่นอกจากจะฉีกภาพการดีไซน์เดิมๆ ทั้งหมดแล้วยังปรับเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ให้ดูทันสมัยขึ้นอีกด้วย โดยเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ทั้งหลายจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ครั้งใหม่ที่แฝงไปด้วยรายละเอียดการออกแบบมากมายจากคำว่า COFFEE (คอฟฟี่), PASSION (แพสชัน), SPECIALTY (สเปเชียลตี้) ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟรสชาติใหม่ที่รังสรรค์โดยบาริสต้าชั้นเยี่ยม ผ่านวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ที่ล้วนถูกสร้างขึ้นจากความหลงใหลของแบรนด์  “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) โดยจุดทั้งสามจุดนั้นถูกนำมาตีความในแง่ของการเลือกใช้วัสดุและโทนสีร้านตามระดับความเข้มของกาแฟ ซึ่งถูกแบ่งสัดส่วนเป็นคั่วอ่อน 30% คั่วกลาง 60% และคั่วเข้ม 10% โดยสะท้อนเป็นงานดีไซน์ผ่านการเลือกใช้โทนสีตามจุดต่างๆ ที่มีทั้งโทนสีอ่อน กลาง และเข้ม รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่จากแรงบันดาลใจของระดับความเข้มกาแฟด้วยเช่นกัน และผนังกำแพงสีขาวอันโดดเด่นที่มีโทนสีไม่ซ้ำกันในแต่ละวันซึ่งเกิดจากการหักเหของแสง นอกจากนี้ยังมีการใช้สีของครีม่า (สีของชั้นโฟมที่ลอยอยู่บนกาแฟ) มาเป็นไอเดียในการตกแต่งร้านอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ผ่านแนวความคิดรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน พร้อมผสมผสานมุมมองทางแฟชั่นที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่ตามแบบฉบับ  “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โดยสาขานี้ทาง “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) ได้คิดค้นสุดยอดเมนูรสเยี่ยม สำหรับสาขาแฟล็กชิพสโตร์ สุขุมวิท 53 โดยเฉพาะ เริ่มที่ไฮไลท์พิเศษเป็นเซตเครื่องดื่ม Dirty Parade (เดอร์ตี้ พาเหรด) ซึ่งผสมผสานช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นเข้ากับนมเย็นที่เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และเพิ่มเอกลักษณ์ให้แต่ละแก้วด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศผ่าน 10 เมนูเครื่องดื่ม ได้แก่ Dirty (เดอร์ตี้), Caramel Dirty (คาราเมล เดอร์ตี้), Hazelnut Dirty (เฮเซลนัท เดอร์ตี้), Chai Dirty (ชัย เดอร์ตี้), Toffeenut Dirty (ทอฟฟี่นัท เดอร์ตี้), Thai Style Dirty (ไทย สไตล์ เดอร์ตี้), Bon Bon Dirty (บอน บอน เดอร์ตี้), Strawberry Dream Dirty (สตรอว์เบอร์รี ดรีม เดอร์ตี้), Mocha Dirty (มอคค่า เดอร์ตี้) และ Matcha Espresso Dirty (มัทฉะ เอสเพรสโซ่ เดอร์ตี้) ในราคาแก้วละ 120 บาท 

รวมถึงเมนูเบเกอรี่เลิศรส ไม่ว่าจะเป็น Red Wine Beef Pie (เรด ไวน์ บีฟ พาย) พายเนื้อสูตรพิเศษที่คัดสรรเนื้อชั้นดีหมักกับซอสไวน์แดง ห่อด้วยแป้งพายเนื้อบางกรอบ ช่วยชูรสชาติของไส้เนื้อหมักไวน์แดงได้เป็นอย่างดี (ราคา 180 บาท), Chicken Truffle Pie (ชิคเกิ้น ทรัฟเฟิล พาย) พายไก่ซอสทรัฟเฟิล มีรสชาตินุ่มละมุนจากตัวครีมซอส อกไก่ และเห็ดทรัฟเฟิล ในแป้งพายสูตรบางกรอบหอมหวานเต็มคำ (ราคา 180 บาท), Sausage Pie (ซอสเซส พาย) พายไส้กรอกที่ทำ

มาจากไส้กรอกหนังกรอบชิ้นโต รสชาติเข้มข้น เมื่อทานคู่กับแป้งพายทำให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว เหมาะสำหรับการทานเป็นอาหารว่างคู่กับกาแฟ (ราคา 90 บาท), เมนูเบอร์เกอร์ ที่มีทั้งเบอร์เกอร์เนื้อและเบอร์เกอร์หมู จากการคัดสรรเนื้อและหมูชั้นดี

เพื่อนำมาหมักกับเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ พร้อมเพิ่มรสชาติเข้มข้นด้วยซอสมายองเนส มะเขือเทศ และผักสลัด ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นในทุกคำ (ราคา 180 บาท), Egg Croissant Sandwich (เอ้ก ครัวซองต์ แซนด์วิช) ครัวซองต์แซนด์วิชรังสรรค์จากไข่ต้มพร้อมปรุงรสด้วยมายองเนส และเครื่องเทศต่างๆ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดและมะเขือเทศ (ราคา 150 บาท), Tuna Croissant Sandwich (ทูน่า ครัวซองต์ แซนด์วิช) ทูน่าเนื้อแน่นปรุงรสด้วยซอสมายองเนส แครอท ถั่วลันเตา และเครื่องเทศ ทานคู่กับผักสลัดและมะเขือเทศ ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว (ราคา 150 บาท), Margherita Pizza (มาร์การิต้า พิซซ่า) แป้งพิซซ่าเนื้อนุ่มที่ชูรสด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ออริกาโน และใบเบซิล (ราคา 200 บาท) และเมนู 4 Cheese Pizza (โฟร์ ชีส พิซซ่า) จากการรังสรรค์แป้งพิซซ่าสูตรพิเศษ เพิ่มความเข้มข้นด้วยซอสมะเขือเทศสูตรลับเฉพาะ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ผักโขม และออริกาโน (ราคา 200 บาท) 

นอกจากนี้ที่สาขาสุขุมวิท 53 ยังมีเมล็ดกาแฟคัดเฉพาะที่เสิร์ฟเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ได้แก่ Blend Black : 19-0915 เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากเชียงราย (Thai Chiangrai Arabica) และเมล็ดกาแฟจากดอยช้าง (Thai AA Doi Chang) ที่เสิร์ฟแบบคั่วเข้ม หอมกลิ่นบราวชูก้าและช็อกโกแลต รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานเหมือนรสชาติย่างของมาร์ชเมลโล่ และอีกหนึ่งไฮไลท์ของสาขานี้คือเซเลบริตี้บาร์ ที่ในทุกๆ เดือน ทาง “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) จะมีบาริสต้ามาโชว์ฝีมือรังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้เหล่าคอกาแฟได้รับชมกัน

ด้านเหล่าเซเลบริตี้ภายในงานต่างร่วมแนะนำสไตล์คาเฟ่ที่ชื่นชอบพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรดและเทคนิคการถ่ายรูปให้สวยโดดเด่นเวลาไปคาเฟ่ เริ่มจากเซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมน อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ เผยว่า “เราเป็นคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำอยู่แล้วเพราะรู้สึกว่าการดื่มกาแฟในทุกเช้าช่วยให้เราเริ่มต้นวันดีๆ ได้ด้วยความสดใสและกระปรี้กระเปร่า แก้วโปรดที่ดื่มประจำเลยจะเป็นเดอร์ตี้ แต่ถ้าวันที่ต้องการความหวานก็จะเลือกมอคค่าเดอร์ตี้แทน และถ้ามีเวลามากหน่อยก็จะนั่งทานที่คาเฟ่เลยเพราะถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว ส่วนคาเฟ่ที่ชอบไปนอกจากกาแฟต้องอร่อยแล้วก็จะเลือกร้านที่บรรยากาศดี นั่งสบาย ดีไซน์สวย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ เพราะเรากับเพื่อนๆ จะชอบถ่ายรูปกันอยู่แล้ว เวลาถ่ายรูปแนะนำให้หามุมที่มีแสงสวย ส่วนเทคนิคการถ่ายรูปก็จะเป็นการโพสต์กับแก้วกาแฟตอนกำลังยกขึ้นมาจิบแบบเผลอๆก็ดูทำให้รูปมีความน่าสนใจมากขึ้น”

ถัดมาที่ดีไซน์เนอร์สาว ขนิษฐา ดรุณเนตร เล่าว่า “ปกติจะชอบไปคาเฟ่ที่ดีไซน์มีความมินิมอลและทันสมัย เพราะเราชอบแต่งตัวโทนสีนู้ดเวลาไปคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวก็จะทำให้ถ่ายรูปสวย โดยเราจะชอบหามุมถ่าย

ที่เป็นสเปซกว้างๆ หรือมุมยอดนิยมของทางร้านจะได้เห็นบรรยากาศภายในร้านการตกแต่งดีไซน์ต่างๆ ส่วนกาแฟแก้วโปรดจะเป็นอเมริกาโน่ทานคู่กับแซนด์วิช แต่ถ้าวันไหนที่มีเวลาน้อยดื่มกาแฟได้อย่างเดียวก็จะเลือกเป็นกาแฟเดอร์ตี้ เรารู้สึกว่ากาแฟเป็นตัวช่วยในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ได้ดีมาก ดังนั้นในทุกวันจะขาดไม่ได้เลย

ต่อมาที่สาวรักแฟชั่น วัจนา เจริญสมสมัย เผยว่า “ปกติถ้าไปคาเฟ่เราจะชอบร้านที่มีโซน Pet Friendly เพราะเราเป็นคนรักสัตว์ถ้ามีร้านที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ก็จะดีมาก สำหรับเมนูที่ช่วงนี้ชอบมากก็จะเป็นพวกคาราเมลเดอร์ตี้เพราะรสชาติมีความเข้มข้นหวานกลมกล่อม ส่วนเวลาไปคาเฟ่ก็จะดูก่อนว่าร้านที่ไปมีดีไซน์ยังไงโทนสีอะไร ก็จะเลือกสีชุดไม่ให้กลืนไปกับร้านเพื่อที่เวลาถ่ายรูปจะได้ดูสวย ส่วนเทคนิคการถ่ายให้ดูไลฟ์สไตล์เราก็จะชอบหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาถือแล้วโพสต์ท่าแนวสดใสเป็นธรรมชาติ”

ปิดท้ายที่สาวสังคม ฐฤณณรัตน์ เดชะทวีวัฒน์ เล่าว่า “เวลาไปคาเฟ่เมนูที่สั่งบ่อยๆ เลยก็จะเป็นมัทฉะเดอร์ตี้กับครัวซองต์ เพราะเป็นสองเมนูที่ทานคู่กันแล้วลงตัวมาก ส่วนคาเฟ่ที่ชอบไปก็จะเลือกจากร้านที่ดีไซน์มีความโดดเด่นแปลกใหม่ บรรยากาศสบายๆ สามารถนั่งได้นานโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด สำหรับเคล็ดกลับการถ่ายรูป คาเฟ่ส่วนใหญ่ก็จะมีมุมยอดนิยมอยู่แล้ว เราสามารถไปยืนโพสต์ได้เลย แต่อาจจะโพสต์แบบเผลอๆ หันหลังแล้วค่อยหันมายิ้มกับกล้องก็ได้ และนอกจากรูปตัวเองแล้วก็อาจจะถ่ายเป็นรูปเครื่องดื่มกับเบเกอรี่บนโต๊ะด้วย เพราะเราเป็นสายชอบรีวิว”

พบกับ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) แฟล็กชิพสโตร์โฉมใหมได้แล้ววันนี้ที่สุขุมวิท 53 โทร. 082-993-5754 โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Instagram: cpscoffee, Facebook: CPS Coffee และ Line: @cpscoffee 

admin