’ศึกค้างคาวกินกล้วย’พาแจ้งเกิด ‘ฮาคิม’ดาวดวงใหม่ที่น่าจับตา
จากเด็กน้อยที่มีความรักในการเล่นดนตรีไทย จนวันนี้ก้าวอีกขั้นกับการเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงแบบเต็มตัว สำหรับ น้องฮาคิม หรือ นักปราชญ์ พัฒนะพีระพงศ์ หนุ่มน้อยจากจังหวัดสุพรรณบุรี วัย 11 ปี โดยเจ้าตัวได้ประเดิมงานแผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกกับการรับบท เชิด ตอนเด็ก ในภาพยนตร์เรื่องศึกค้างคาวกินกล้วย ผลงานการกำกับของ เจแปน-ภาณุพรรณ จันทนะวงศ์, กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ จากค่ายคาร์แมนไลน์ ซึ่งกำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ในตอนนี้ โดยน้องฮาคิมเผยว่า เดิมเป็นนักดนตรีไทยที่มีความถนัดในการเล่นระนาด “ปกติผมเล่นดนตรีไทยและรับแสดงตามงานต่างๆ มากมาย คือคุณพ่อคุณแม่
เห็นว่าผมชื่นชอบในดนตรีไทยเลยลองพาไปเรียน ก็ได้เริ่มเรียนระนาดเอก ที่บ้านคุณพระอโยธยา จากนั้นมาก็ฝึกพัฒนาฝีมือของตนเองมาเรื่อยๆ มีผู้ใหญ่เห็นในความสามารถ ก็จ้างให้ไปแสดงตามโชว์ต่างๆ มีออกรายการโทรทัศน์ ออกสื่อต่างๆ มีประกวดดนตรีบ้าง ก็ได้รางวัลติดมือกลับมาบ้างครับ (มีรางวัลการันตีความสามารถ) ใช่ครับ ที่ผ่านมาก็ได้รับรางวัลหลายรางวัล ล่าสุดได้รางวัลชนะเลิศอันดับ1 First Prize จากการแข่งขันดนตรีนานาชาติ VirtuosoInternationalMusicCompetition2024 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และตอนนี้กำลังผ่านเข้ารอบชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ในรายการบิ๊กซีดนตรีไทยด้วยครับ (ยังมีความสามารถด้านอื่นๆ อีกไหม) ผมสามารถเล่นดนตรีไทย (ปีพาทย์) ได้ทุกเครื่องมือ นอกจากนี้ก็มีดนตรีสากล กีต้าร์ , กลอง และก็มีกีฬา ว่ายน้ำ ฟุตบอล แบตมินตัน ปิงปอง และก็อีกเยอะมากเลยครับ (กิจกรรมแน่นขนาดนี้แบ่งเวลาเรียนยังไง) กิจกรรมเยอะมากจริงๆ ครับ
ยิ่งถ้าตอนที่ถ่ายทำรายการหรือมีงานแข่งขันดนตรี ต้องฝึกซ้อมหนักมากๆ ก็พยายามจัดสรรเวลาให้กระทบกับการเรียนให้น้อยที่สุด (ล่าสุดกระโดดมาเป็นนักแสดง) มีโอกาสได้มาร่วมเล่นภาพยนตร์เรื่อง ศึกค้างคาวกินกล้วย คือทางทีมงานได้เห็นผลงานการเล่นดนตรีของผมตามสื่อต่างๆ แล้วติดต่อมากับคุณครูเรียกผมไปแคสบทเชิด (เล่นเป็น พีช พชร ตอนเด็ก) แล้วผ่านเลยมีโอกาสมาเล่นครับ (อยากให้เล่าถึงบรรยากาศในกองถ่าย) ในกองถ่ายเรื่องศึกค้างคาวกินกล้วย สนุกสนานมากครับ พี่ๆ ทุกคนตลกมาก ใจดีและสอนอะไรหลายๆ อย่าง ได้เห็นการทำงานของพี่เจแปน รู้ว่าเขาจริงจังและใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆ ได้มีโอกาสบรรเลงระนาดกับครูปูด้วยใน
เรื่องที่เล่นเป็นเซียนขาว ก็ได้รับคำแนะนำและเทคนิคจากระดับชั้นครูถือว่าโชคดีมากๆ ครับ ได้ประสบการณ์เยอะมาก แต่ว่าที่กองถ่ายตอนช่วงค่ำๆยุงเยอะไปหน่อยครับ (พลิกผลันจากนักดนตรี มาเป็นนักแสดงเต็มตัว) ยากมากครับ ตอนเล่นดนตรีเราแค่เล่นให้คนดูฟัง แต่มาแสดงหนังคือเราต้องรู้คาแรกเตอร์ของตัวแสดงให้ได้ก่อน อย่างในบทที่เล่น เป็นเชิด ลูกชายเซียนขาว จะเป็นลูกที่เซียนขาวรักมากคือมีพร้อมทุกอย่าง ผิดกับเผ่า แต่เชิดก็รักเผ่ามากเหมือนกัน เลยพยายามใช้ดนตรีเป็นตัวประสานระหว่างพ่อกับพี่ชาย ก็เป็นอะไรที่ท้าทายดีครับ (คาดหวังอะไรกับการเล่นภาพยนตร์ครั้งนี้) เอาจริงๆ มันเกินความคาดหวังไปมากเลยครับ แค่พี่ๆ มองเห็นและมอบโอกาสให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็ดีใจมากแล้วครับ แต่ถ้ามีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเมตตามากกว่านี้ในเรื่องต่อๆ ไปผมก็จะดีใจมากๆ ครับ
ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่องศึกค้างคาวกินกล้วยไว้ด้วยครับ เป็นภาพยนตร์ที่สนุกครบรส ผมตั้งใจแสดงมากๆ และพี่ทุกคนก็ตั้งใจมากๆ ถ้าดูแล้วรับรองว่าหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่องเลยครับ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ครับ)