“ดร. เชาว์วัจน์” ยิ้มรับเปิดประเทศ แนะ! ฟื้นกิจการต้องค่อยเป็นค่อยไป
หลายธุรกิจเริ่มมีการขยับขยายกิจการเพราะนโยบายเปิดประเทศ เปรียบดังแสงสว่างเล็กๆ ที่ส่องเข้ามาให้เริ่มมองเห็นโอกาส โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย และยังพอประคองธุรกิจให้ขับเคลื่อนไปได้ ในสถานการณ์โควิดฯ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง ดร. เชาว์วัจน์ พาณิชย์เสรีวิศิษฐ์ ผู้บริหารและเจ้าของบริษัท ทาวรัส ไทย กรุ๊ป จำกัด ที่ประกอบด้วยธุรกิจในเครือหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงธุรกิจการบริการด้านกฏหมาย
ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการประคับประคองให้บางธุรกิจเดินต่อไป แต่ในบางธุรกิจจำต้องพักไว้ เพื่อลดต้นทุนในการประกอบกิจการ และยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ คือ กลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นกับนโยบายการเปิดประเทศครั้งนี้ ผู้บริหารคนดังมีแนวคิดอย่างไร ในการบริหารจัดการธุรกิจที่อยู่ในการดูแล
“ ถ้าพูดถึงผลกระทบที่ผ่านมาทุกธุรกิจกระทบหมดครับ ตัวผมเองมีหลายกิจการในเครือ ที่ยังคงเดินต่อไป อาทิ ทาวรัสผลิตภัณฑ์สุขภาพ น้ำแร่ทาวรัส พวกนี้ยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีการตลาดออนไลน์ แต่กระทบมั๊ยกระทบแน่นอนครับ เพราะว่าเราได้ลูกค้าจีนเป็นหลัก ด้วยสถานการณ์โรคระบาดลูกค้าต่างชาติย่อมหายไป เหลือแต่ลูกค้าในประเทศที่ยังคงให้เราดูแลสุขภาพ อันนี้ต้องขอบคุณมากๆ ครับ แต่ในส่วนสำนักกฎหมายอิตตัลไทย และ บริษัทเชียงใหม่นวดแผนโบราณ(ดี)จำกัด ยังคงรอสถานการณ์ดีขึ้นก็จะกลับมาทำต่อครับ ผมมองว่าเป็นความโชคดีที่ผมทำหลายกิจการ พอมีปัญหามันก็ยังคงแบ่งเบากันได้ ไม่ถึงกับปิดตัวทั้งหมด ก็คงจะเป็นข้อดี”
“ด้านนโยบายการเปิดประเทศครั้งนี้ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ ถึงเราจะยังมองเห็นความไม่แน่นอนเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์โควิดก็ยังไม่เบาบาง แต่มันต้องเดินต่อ อาจจะเป็นความหวังเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่มาก ที่เข้ามาหาพวกเราทุกคน โดยเฉพาะนักธุรกิจเจ้าของกิจการอย่างพวกผม มันดีเป็นลูกโซ่ ผลดีเกิดขึ้นกับธุรกิจประเภทหนึ่งก็ส่งผลต่อธุรกิจอีกประเภท อาทิ ธุรกิจการบิน โรงแรมและท่องเที่ยวที่จะได้รับผลดีกับการเปิดประเทศ ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว มีคนเดินทางมาทำธุรกิจ มันก็เกิดการขับเคลื่อนในด้านต่างๆ ดีไปถึงผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่จะได้เม็ดเงินจากตรงนี้ เกษตรกรที่ปลูกผลผลิตทางการเกษตรและต้องขายสินค้าให้กับธุรกิจด่านแรกอย่างโรงแรม การบิน ฯลฯ เขาก็จะมีรายได้ไปด้วย อันนี้คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นนะครับ ยังรวมถึงผู้ประกอบการอื่นๆอีกมากมาย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังไว้ใจไม่ได้ นับจากวันเปิดประเทศก็ต้องดูไปอีกว่าจะเป็นอย่างไร การติดเชื้อจะกลับมาเพิ่มมั๊ย เชื่อว่าการจัดการทุกอย่างดี อาทิ การเปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้ามามีมาตรการระเบียบที่รัดกุมมากๆ ตามที่เราทราบกัน เพื่อความปลอดภัยและไม่มาเพิ่มเชื้อให้คนในประเทศ แต่มันก็จะมีอีกหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์โควิดฯ สามารถกลับมาหนักได้อีก เพราะฉะนั้นในฐานะผู้ประกอบการผมมองว่า ควรเตรียมตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ไม่มีใครอยากล้มแล้วล้มอีก เพราะต้นทุนคือปัจจัยสำคัญนะครับ ธุรกิจมันก็อยู่ตรงนั้นมันพร้อมที่จะเติบโตทำเงินให้เรานั่นแหละครับ เพียงแต่รอโอกาส จังหวะที่พร้อมจริงๆ การเริ่มก่อตั้งธุรกิจใหม่ หรือ การปัดฝุ่นกิจการให้กลับมาใหม่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะมีต้นทุน ตัวอย่างที่ผ่านมา อาทิ ธุรกิจนวดแผนไทยของผม ที่ผมลงทุนทั้งซื้อตึก ตกแต่งสถานที่ให้เป็นสถานที่นวดแผนไทยระดับวีไอพี เราคาดหวังกับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เมืองท่องเที่ยว แต่พอมาเจอเหตุการณ์ครั้งนี้ ทุกอย่างก็ต้องพักไปก่อน การจะกลับมาทำอีกครั้งต้องมีปัจจัยด้านต้นทุนและบุคลากร เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ ดูให้สถานการณ์นิ่งจริงๆ แต่ทุกเหตุการณ์วิกฤตที่เข้ามามันสอนเราให้เก่งและเติบโตเสมอถ้ามองในแง่บวกนะครับ แต่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ก็น่าจะดีกว่า”
การรับผิดชอบต่อตัวเองคือการรับผิดชอบต่อสังคม
“เราจะผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ คือ เราต้องดูแลตัวเราเองและครอบครัวเราให้ดีที่สุดนั่นแหละ มันคือจุดเล็กๆ ที่ขยายไปสู่การแก้ปัญหาระดับประเทศและโลกที่เรากำลังต่อสู้กันอยู่ นาทีนี้สุขภาพสำคัญมาก ต้องดูแลให้แข็งแรงและป้องกันไม่ให้รับเชื้อและแพร่เชื้อให้ดีที่สุด เป็นอย่างนี้ทุกครอบครัว ก็ขยายไปเป็นระบบสังคมชุมชน ไปถึงระดับประเทศที่จะปลอดภัย อย่าลืมว่านี่คือวิกฤตของคนทั้งโลกนะครับ ดูแลตัวเองก็เหมือนรับผิดชอบต่อสังคมครับ เราถึงจะผ่านไปได้อย่างแท้จริง”