web analytics

Train to LAUNG PRABANG…ไปเบิ่งหลวงพระบางโฉมใหม่ ไฉไลด้วยรถไฟความเร็ว(เกือบ)สูง EP1

Train to LAUNG PRABANG…ไปเบิ่งหลวงพระบางโฉมใหม่ ไฉไลด้วยรถไฟความเร็ว(เกือบ)สูง EP1

หลังโควิดซา คงไม่มีอะไรที่จะอินเทรนด์ไปมากกว่าการได้ไปนั่งรถไฟความเร็ว (เกือบ) สูงลาว-จีน ปู้น ปู้น ปู้น ไปเบิ่ง ไปทำตัวชิคชิคที่หลวงพระบางอีกแล้ว  ทริป Train to LAUNG PRABANG ครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ก็เพราะมีหนุ่มใหญ่ สปอร์ต ก.ท.ม. ที่มีชื่อว่าไลออน โสภณ สาสกุล  เกิดไอเดีย อยากไปสำรวจ และอัปเดตหลวงพระบางเมืองมรดกโลก หลังจากจากที่ สปป.ลาวได้เปิดประเทศ พร้อมตัดริบบิ้น ปล่อยรถไฟลาว-จีน ไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2564 จนเกิดกระแสปังปุริเย่ เกิดปรากฏการณ์ใคร ๆ ก็ไปหลวงพระบาง แล้วหลวงพระบางโฉมใหม่หลังจากมีรถไฟความเร็ว(เกือบ)สูง จะเป็นเช่นไร

มาทำความรู้จักรถไฟลาวจีน

รถไฟลาว-จีน เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เพื่อร่วมฉลองวันชาติครบรอบ 46 ปีของการสถาปนา สปป.ลาว โดยในช่วงแรก มีสถานีที่จะเปิดให้บริการก่อน 21 แห่ง ส่วนอีก 12 สถานี จะเปิดให้บริการในระยะถัดไป โดยขบวนแรกใช้ชื่อขบวนว่า ล้านช้าง” และขบวนที่สองใช้ชื่อว่า แคนลาว”

รถไฟขบวน “ล้านช้าง” เป็นรถไฟ Fuxing EMU รุ่น CR200J คำว่า EMU(Electric Mutiple Unit) หมายถึงรถรางไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่ต้องใช้หัวรถจักรสำหรับลากขบวนรถ ส่วน Fuxing หมายถึงรถไฟขบวนนี้ใช้เทคโนโลยีรถไฟฟูซิ่งห่าวของจีน ซึ่งเหมาะสมกับสภาพเส้นทางในลาว

ล้านช้าง” เป็นรถไฟความเร็ว “ปานกลาง” ทำความเร็วได้ 160-210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลิตโดยบริษัทหุ้นส่วนรถไฟซื่อฝ่ายชิงเต่าและบริษัทรถไฟต้าเลี่ยน ซึ่งทั้งสองบริษัท ขึ้นกับบริษัทรถไฟแห่งชาติจีน

ขบวน “ล้านช้าง” มี 9 ตู้ รองรับผู้โดยสารได้รวม 720 ที่นั่ง ประกอบด้วยหัวรถจักร 1 ตู้ ถัดมาเป็นตู้โดยสารชั้น 1 รองรับผู้โดยสารได้ 56 ที่นั่ง ต่อด้วยตู้เสบียง 1 ตู้ ที่เหลืออีก 6 ตู้ เป็นตู้โดยสารชั้น 2 รองรับผู้โดยสารได้ 662 ที่นั่ง และมีที่นั่งพิเศษสำหรับคนพิการอีก 2 ที่นั่ง เฉพาะตู้โดยสารกว้าง 3.10 เมตร สูง 4.43 เมตร

อัตราค่าโดยสารสำหรับขบวนรถรับ-ส่งผู้โดยสาร ตู้โดยสารชั้น 2 กำหนดไว้ที่ 0.3 หยวน ต่อคน ต่อ 1 กิโลเมตร หรือ 350 กีบ ต่อคน ต่อ 1 กิโลเมตรคิดเป็นเงินบาทตกประมาณ 1 บาท ต่อคน ต่อ 1 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อรวมค่าโดยสารตั้งแต่สถานีนครหลวงเวียงจันทน์ถึงสถานีบ่อเต็น จะอยู่ที่ 140,000 กีบ หรือประมาณ 400 บาท เปรียบเทียบกับการเดินทางโดยรถยนต์ จะถูกกว่าถึง 1 เท่าตัว และใช้เวลาเดินทางสั้นกว่าถึง 20 ชั่วโมง

เส้นทางรถไฟลาว-จีน มีทั้งหมด 32 สถานี แต่ในปัจจุบันนี้ เปิดให้บริการด้านท่องเที่ยวแล้วทั้งหมด 6 สถานี ในฝั่งลาว นั่นคือ เฉพาะเส้นทาง “นครหลวงเวียงจันทน์ – บ่อเต็น” โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้น เทียบกับเมื่อก่อนถ้าต้องเดินทางจากเวียงจันทน์ไปบ่อเต็น (600 กม.) จะต้องเดินทางโดยรถยนต์และใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมงเลยทีเดียว ระยะเวลาเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ ไปยังสถานีปลายทางหลักๆ ยอดนิยม ใช้ระยะเวลาเดินทาง ดังนี้ 

เวียงจันทน์ – วังเวียง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที ราคาประมาณ 500 บาท (ตั๋วชั้น1)

เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ราคาประมาณ 957 บาท (ตั๋วชั้น1)

เวียงจันทน์ – บ่อเต็น ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที ราคาประมาณ 1,618 บาท (ตั๋วชั้น1)

DAY 1 …Train to LAUNG PRABANG

จุดสตาร์ท เริ่มกันที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย เข้าสู่ สปป.ลาว ผ่านด่าน ต.ม. เข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ ได้อย่างสะดวกโยธิน เพราะได้การจัดการอย่างมืออาชีพจากไลออน โสภณทำให้มีเวลาเหลือเฟือ จึงมีเวลาไป…. เที่ยวชมเมืองหลวงนครเวียงจันทน์  

ไปถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ปะตูไซ ไฮไลท์ของนครหลวงเวียงจันทน์ และที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือไปกราบสักการะสิงศักดิ์สิทธิ์ที่วัดสีเมือง

วัดสีเมือง  เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของเวียงจันทน์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1563 รวมอายุกว่า 456 ปี  โดยมีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อสร้างเสาหลักเมือง ต้องมีการหาคนอุทิศชีวิตลงหลุมฝังเสาหลักเมือง เพื่อให้เป็นผู้เฝ้าปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรู มิให้มีโรคภัยเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนคร แต่ถ้าไม่มีใครอุทิศเจ้าอาวาสจะต้องอุทิศชีวิตเอง แต่ได้มีนางสีเมืองซึ่งท้อง 3 เดือน ยอมอุทิศตนกระโดดลงไปอยู่ก้นหลุมเสาหลักพร้อมกับม้าอีกหนึ่งตัว 

สำหรับสายมู ยิ่งต้องห้าพลาด ต้องมาสักการะกราบไหว้ให้ได้ เพราะวัดแห่งนี้จะโดดเด่นในเรื่องการให้โชคลาภ เงินทอง ใครที่ทำมาค้าขายจึงเหมาะที่จะมาขอพร เพราะจะช่วยเสริมดวงเรื่องเงินทองให้ร่ำรวยมากยิ่งขึ้น

หลังจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางสู่สถานีรถไฟลาว-จีน ณ สถานีนครเวียงจันทน์ เพื่อนั่งรถไฟไปสู่จุดหมายปลายทางนั้นก็คือหลวงพระบาง รถไฟออกเวลา 15.05 น. ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็น 2 ชั่วโมงที่แสนจะรื่นรมย์ด้วยธรรมชาติทิวเขาสองข้างทางสวยงาม เขียวชอุ่มร่มรื่น

หัวเชียงเกสต์เฮาส์ ไลออน โสภณบอกว่านี่คือที่พักที ที่สัปปายะที่สุดแล้วในการมาเที่ยวหลวงพระบาง เพราะมีทำเลอยู่กลางเมือง ใกล้แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญในพื้นที่อย่าง พิพิธภัณฑ์พระบรมมหาราชวัง และ พระราชวังหลวง ตลาดเช้า และ Night Market และที่สำคัญคือสวยงาม และการบริการของพนักงานก็ใส่ใจลูกค้าแบบเต็มร้อย

หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อเย็นก็ได้เวลาไปเดินถนนคนเดิน หรือ Night Market หรือตลาดมืด ที่อยู่ข้าง ๆ ที่พัก ถนนคนเดินดูคึกคัก นักท่องเที่ยวหนาตาแล้วหน้าตาดันคุ้น ๆ จะไม่คุ้นได้ยังไง ก็เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวฟอร์มไทยแล้นนน ซะเกินครึ่ง

admin